หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 287

ความหน้าไม่อายของลู่จือสิง ฉันรับไม่ได้จริงๆ เลยหลับตาแกล้งว่าหลับเสียเลย

สรุปคือเขาก็ไม่สงบ จับมือฉันไปบีบคลึง พิงศีรษะอยู่บนไหล่ของฉัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไร แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าลมหายใจนั้นอยู่ข้างหูของฉัน แล้วก็ผมที่เพิ่งตัดไม่นาน ก็ทิ่มแทง ทำให้ฉันจั๊กจี้

ฉันทนเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ อดไม่ได้ที่จะดึงมือตัวเองกลับมา ผลักเขาเล็กน้อย : "คุณสงบเสงี่ยมหน่อยได้ไหม?"

เขามองฉัน รู้สึกน้อยใจมาก : "ฉันไม่สงบตรงไหน? ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณเลย!"

ฉันมองเขา เถียงสู้ไม่ได้ ทำได้เพียงนยกมือผลักเขาออกไป : "คุณนั่งดีๆ อย่ามาโดนฉัน ฉะนจะนอน!"

"กินข้าวเย็นก่อนค่อยนอน!"

ลู่จือสิงเพิ่งจะพูดจบ แอร์ก็เข็นรถเสบียงอาหารเข้ามา

ฉันไม่หิวจริงๆ แต่ว่าเห็นใบหน้าที่แข็งกร้าวของลู่จือสิง ก็ยังคงกินแล้วค่อยนอน

เมื่อตื่นขึ้นมา เครื่องบินเจอกับกระแสอากาศแรง การสั่นสะเทือนรุนแรงเล็กน้อย

ฉันเรียกลู่จือสิงโดยจิตใต้สำนึก : "ลู่จือสิง!"

น้ำเสียงของฉันเพิ่งจะหยุดลง บนมือก็แน่นขึ้น เป็นเพราะลู่จือสิงจับมือฉันไว้

"ไม่ต้องกลัว กระแสลมแรงก็เท่านั้น"

ฉันพยักหน้า ก็ตื่นขึ้นมา นึกถึงว่าเพราะตนเองกลัวกระแสลมแรงจึงเรียกเขา ก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้

โชคดีที่ลู่จือสิงไม่เห็นความผิดปกติของฉัน หลังจากเครื่องบินสั่นสะเทือนอยู่สามสิบกว่าวินาที ในที่สุดก็ปกติลงมา

ฉันโล่งใจ แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอกับกระแสลมแรง แต่พอเจอกับตัวก็กลัวเสมอ

กลับกันลู่จือสิง เขาใจเย็นมาก มือหนึ่งจับมือฉัน อีกมือหนึ่งพลิกดูนิตยสาร

เมื่อเครื่องบินลงจอดก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า เมื่อฉันเห็นภาษาอังกฤษในสนามบิน ก็ตื่นเต้นจนไม่น่าเชื่อ เอื้อมมือไปจับมือของลู่จือสิง : "คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยากมาที่นี่?"

ฉันอยากจะมามานานแล้ว ชายหาดที่นี่สวยงามเป็นพิเศษ มองลงไปในทะเลจะสามารถมองเห็นได้หลายสิบเมตร

ก่อนที่จะจบมหาวิทยาลัยฉันอยากจะมา เพียงแต่เมื่อก่อนเป็นเพราะเรื่องของคุณยาย ฉันไม่มีเงิน แล้วก็ไม่ได้มีเวลา

ต่อมาได้เจอกับลู่ตือสิงยิ่งไม่ต้องบอก เรื่องราวเกิดขึ้นหลายสิ่งหลายอย่างขนาดนั้น ฉันยังมีเวลาคิดเรื่องเที่ยวซะที่ไหน

ตลอดจนถึงวันนี้ ฉันคิดว่าอาจต้องรอจนกว่าเป้ยเปยจะไปโรงเรียน ฉันจึงจะมาได้ คาดไม่ถึงว่าลู่จือสิงจะพาฉันมาก่อน

อีกทั้งคาดไม่ถึงว่าเขาจะรู้ว่าฉันอยากมาที่นี่มาก่อน นี่ทำให้ฉันประหลาดใจที่สุด

เขาเหลือบมองเธอ เลิกคิ้วอย่างพอใจ : "คุณเป็นภรรยาของฉัน แน่นอนฉันรู้ว่าคุณอยากมที่นี่"

คำตอบที่ไม่ได้ใส่ใจนิดๆนี้ แต่เขารู้ได้ว่า ฉันมีความสุขมาก ถ้าเขาไม่สนใจทำไมถึงรู้ล่ะ

ตอนที่ฉันเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย ภาษาอังกฤษไม่ได้แย่ แต่หลายปีนี้ สำเนืองภาษาอังกฤษงั้นๆไม่ค่อยจะดีเลย

ฉันสามารถฟังเข้าใจได้ แต่ให้ฉันพูดฉันแสดงออกก็จะลำบากนิดหน่อย

ภาษาอังกฤษของลู่จือสิงดีมาก สำเนียงลอนดอนแท้ๆ ฉันยืนอยู่ข้างๆเขา ฉันไม่ต้องพูดอะไรเลย

เขาจองโรงแรมไว้แล้ว มีรถไปรับเราจากสนามบินโดยตรง

เรานั่งเครื่องบินประมาณสิบชั่วโมง เหนื่อยล้ามากจริงๆ

ห้องที่ลู่จือสิงจองมีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน จากหน้าต่างด้านในมองออกไป สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ตอนกลางคืนของเมืองนี้ได้กว้าง

"ไปอาบน้ำก่อน"

ฉันอยู่อยู่หน้าหน้าต่าง ตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อ ว่าตนเองจะมาแล้วจริงๆ ลู่จือสิงดึงๆฉันเล็กน้อย เอาชุดนอนส่งให้ฉัน

ฉันมองชุดนอนนั่น ฉับพลับหน้าก็ร้อนผ่าว : "ฉันต้องการเปลี่ยนชุด!"

เห็นได้ชัดว่านี่คือชุดนอนที่ลู่จือสิงซื้อมาไว้ก่อนโดยเฉพาะ ฉันไม่เขินอายที่จะใส่ซะที่ไหน เดิมทีก็ไม่ได้มีชุดนอนผ้าเท่าไหร่ ใส่แล้วก็เหมือนไม่ได้ใส่

เขามองฉัน เปลี่ยนอีกชุดให้ฉัน คราวนี้เป็นชุดนอนเหมือนเสื้อเชิ้ต ความยาวถึงหนึ่งในสามของต้นขาของฉัน ยังคงเปิดเผยเล็กน้อยอยู่

ฉันอดไม่ได้ที่จะค้นดูกระเป๋าเดินทาง ปรากฏว่าที่ลู่จือสิงช่วยฉันเอาชุดนอนชุดชั้นในกางเกงในมามีเพียงไม่กี่ชุดที่เป็นแบบปกติ

ฉันรู้สึกเสียใจที่เช้าวันนี้ตนเองหลับเป็นตายขนาดนั้น ให้เขาจัดกระเป๋าเดินทาง ทำให้เขามีโอกาสนี้!

มีชุดเดียวที่ยังนับว่าเป็นชุดนอนธรรมดา สิ่งแรกเลยที่ฉันตัดสินใจวันพรุ่งนี้คือออกไปซื้อชุดนอน!

มิเช่นนั้นถึงเวลาที่เราไปเกาะกลางทะเลด้านนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อสินค้า

ฉันอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว ดึงๆชุดนอนบนตัว มองไปที่ลู่จือสิง

พอดีกับที่เขามองมา อารมณ์ลึกซึ้งมองมาที่ฉัน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำไป

ประตูห้องน้ำนี้เป็นบานกระจก แม้ว่าฉันจะมองไม่เห็นทุกอย่างภายในชัดเจน แต่เป็นเค้าโครงแบบลางๆ มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

เวลานี้ฉันจึงพบว่า ด้านในประตูมองเห็นเรือนร่างของลู่จือสิง นึกถึงเมื่อกี้ที่ตนเองอาบน้ำก็ถูกเขามอง หน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

ยกมือขึ้นปิดหน้าสักพัก รอให้อุณหภูมิลงมา ฉันจึงทาสกินแคร์ เสร็จแล้วจากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาห่อตัวเองให้แน่น

อันที่จริงเครื่องบินไม่ได้สะดวกสบายไปกว่ารถไฟความเร็วสูงเท่าไหร่ เครื่องบินบินสิบชั่วโมง แม้ว่าระหว่างทางฉันจะหลับไป แต่ว่าต้องนั่งมาตลอดทาง ดังนั้นยังคงรู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้ามาก

เดิมทียังกันไม่ให้ลู่จือสิงมาจับเนื้อต้องตัวฉัน สรุปคือนอนบนเตียงไม่กี่นาทีก็หลับไป

เมื่อลู่จือสิงอาบน้ำเสร็จก็เรียกฉันเล็กน้อย เวลานั้นฉันกำลังจะนอน ก็ขยับๆ ยกมือผลักเขาเล็กน้อย : "ง่วง"

เดิมทีคิดว่าเขาต้องการจะลงมือกับฉัน อย่างไรเสียก็วางแผนเตรียมชุดนอนมาขนาดนั้นแล้ว

แต่ว่าเพียงแค่ก้มหน้ามาจูบฉันที่หน้าผาก : "ฝันดี ที่รัก"

เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเขาเรียกฉันแบบนี้ แค่รู้สึกจิตใจอ่อนไหว เมื่อลืมตาขึ้นก็สบตาเขาพอดี

ลู่จือสิงมองมาที่ฉันแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย : "นอนไม่หลับหรอ?"

ฉันรีบส่ายหน้า "ฉันนอนแล้ว"

"อืม"

เขาทำเสียงตอบกลับ ดึงผ้าห่มออกแล้วก็เข้ามา แล้วเอื้อมมือมากอดฉันจากด้านหลัง

ถึงแม้ว่าเวลาจะต่างกัน แต่ว่าฉันอยู่บนเครื่องบินก็ล้ามากจริงๆ ตอนนี้มีเตียงให้ฉัน ฉันหลับตาก็หลับไปเลย

ทั้งหมดไม่ต้องใช้ความแตกต่างของเวลา

วันรุ่งขึ้น แสงแดดส่องเข้ามาจากซอกผ้าม่าน ฉันลืมตามา ก็บว่าลู่จือสิงกำลังนอนอยู่

ฉันหันกลับไปมองเขา เขาหลับค่อนข้างลึก เมื่อกี้ฉันขยับขนาดนั้นเขาก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา

แต่งงานกันเมื่อคืนวานนี้ ฉันเหนื่อยมากเมื่อเห็นเตียงก็ล้มลงไปเลย เมื่อคืนนี้นั่งเครื่องบินเป็นเวลาสิบชั่วโมง ก็ไม่ดีขึ้นมาก

หลายวันมานี้ฉันไม่ได้มองดูลู่จือสิงเลย เวลานี้จึงเห็นรอยคล้ำใต้ตาของเขาค่อนข้างมาก

ผิวของลู่จือสิงในผู้ชายก็นับว่าขาว ดังนั้นรอยคล้ำใต้ตาจึงเห็นได้ชัด

ตอนนี้เขาหลับอยู่ ท่าทางที่นอนหลับตาอยู่ยนเตียงนั้นอบอุ่นและไม่อันตราย

ฉันนึกถึงเรื่องที่เขาจัดการทั้งหมดนี้ ก็รู้สึกตื้นตันใจ

เห็นว่าเขายังหลับอยู่ ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมา ฉันอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปจูบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้