ได้ฟังคำพูดไร้สาระของลู่จือสิง ใบหน้าฉันก็ร้อนผ่าว ไม่คิดอะไรทั้งนั้น ยกมือขึ้นชกเขา : "ไปให้พ้น!"
"โครม——”
ชัดเจนว่าฉันไม่ได้ใช้แรงเยอะอะไร แต่ว่าลู่จือสิงล้มลงไปอยู่กับพื้น
ได้ยินเสียงสูดลมหายใจของเขา ฉันก็ตกใจเล็กน้อย "คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?"
"ถูกของกระแทก"
ฉันได้ฟังคำพูดของเขา ฉันรีบลงจากเตียงยื่นมือไปดึงเขาลุกขึ้น : "คุณลุกขึ้นก่อน ฉันดูหน่อย——อ่ะ!"
ฉันยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆเขาก็ดึงฉันลงไปที่พื้น ฉันไม่ทันระวัง จึงล้มลงไปอยู่บนตัวเขา
เวลานี้ ฉันจึงรู้ว่าเมื่อกี้นี้ลู่จือสิงโกหกฉัน
"ปล่อยฉันนะ!"
"ไม่ปล่อย!"
เขามองมาที่ฉันพร้อมกับยิ้มในขณะที่โอบเอวฉัน ฉันยื่นมือออกไปสู้ ปรากฎว่าเดิมทีตนเองก็สู้เขาไม่ได้
ฉันยกมือขึ้นตีไหล่เขาเล็กน้อย : "คุณปล่อยฉัน มากอดฉันทำไม!"
"ให้ฉันกอดหน่อย!"
เขาพูดจบ กดศีรษะของฉันเข้ากับไหล่ของเขา
ฟันของฉันกระทบไหล่ของเขา ถูกเขาหัวเราะชอบใจ
เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่ฉันใส่ชุดนอนอยู่ แล้วถูกเขากอดอย่างนี้ มักรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้นชิน
ผ่านไปสักพัก ฉันยังอดไม่ได้ที่จะผลักเขาเล็กน้อย : "ลู่จือสิง?"
"อืม คุณภรรยาของฉัน"
เดิมทีที่อยากให้เขาปล่อยฉันไป ได้นินคำพูดของเขา ฉันก็ใจอ่อนลงมา
ช่างเถอะ เขาชอบกอดก็กอดเถอะ ถึงอย่างไรกอดนิดหน่อยก็ไม่ได้เสียเนื้อไปสักชิ้น
สักครู่ ในที่สุดเขาก็ปล่อยฉัน : "ตอนเย็นเราไปเดินเล่นกัน"
ฉันอึ้งไป "ตอนเย็น? ทำไม่ไม่ออกไปตอนนี้?"
เขาหันกลับมามองฉัน : "คุณภรรยา ตอนนี้บ่ายสามโมงกว่าแล้ว!"
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา บ่ายสามโมงกว่าแล้วจริงๆ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ไปหาเสื้อผ้า เตรีนมออกไปเดินเล่นข้างนอกโรงแรม
เห็นได้ชัดว่าลู่จือสิงเดาความคิดของฉันออก "ตอนเย็นอยากกินอะไร?"
"ได้หมด"
ฉันหอบเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา แต่งหน้าไปพลางตอบเขาไปพลาง
เวลานี้น่าจะเป็นตอนกลางคืนของประเทศจีน ฉันเห็นเซี่ยงฉิงถามฉันในแชทว่าฉันเป็นอย่างไรบ้าง
ฉันส่งรูปถ่ายในโรงแรมให้พวกเธอสองสามรูป สรุปคือทำให้เซี่ยงฉิงส่งสติกเกอร์มาในแชทจำนวนมาก
เห็นสติกเกอร์เหล่านั้น หน้าฉันอดไม่ได้ที่จะแดง วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หมุนๆลิปสติกแล้วเริ่มทา
จู่ๆลู่จือสิงก็ก้มลงมากอดเอวจากทางด้านหลัง วางคางอยู่บนไหล่ของฉัน "คุณภรรยา หน้าคุณแดงมากเลย"
ฉันเม้มๆปาก แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ผลคือเขายังเอื้อมมือมาลูบๆหน้าของฉัน : "ยังร้อนมากด้วย!"
ฉันอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เขา : "หุบปากเลย!"
เขายิ้มๆ : "นี่คุณทำเรื่องละอายใจอะไรล่ะ?"
เขาพูดแล้ว ฉันนึกถึงสิ่งที่เซี่ยงฉิงพูดเมื่อกี้ คุณไม่สามารถคลุกอยู่แต่ในโรงแรมทั้งวันนะ ฉันอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงและร้อนผ่าว
เซี่ยงฉิงนี่ หลังจากแต่งงานจริงๆก็เปิดเผยมากขึ้น
ฉันกลัวว่าลู่จือสิงจะจูบฉันไม่ปล่อยอีก ก็รีบเปลี่ยนเรื่อง : "ฉันเสร็จแล้ว ออกไปได้หรือยัง?"
เขามองฉันด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง จากนั้นก็จูงมือฉัน : "ไปกันเถอะ สามีจะพาคุณไปเดินเล่น"
สำเนียงภาษาจีนฉันไม่ค่อยดี ลู่จือสิงพาไป ก็ลดปัญหาไปมาก
เป็นอาหารมื้อค่ำเป็นอาหารตะวันตก อย่างไรเสียก็อยู่ต่างประเทศ กินอาหารประเทศจีนไม่ค่อยไว้ใจ
กินข้าวเสร็จก็อยากไปเดินห้างซื้อชุดนอน แต่ลู่จือสิงไม่ให้ฉันไป
ฉันไม่สนใจเขา สะบัดมือเขาเดินเข้าไปในร้าน
แต่ว่าคนสำเนืองไม่ดีอยู่ต่างประเทศน่าสงสารมากจริงๆ ฉันสื่อสารกับเซลล์แบบงูๆปลาๆ ครู่ใหญ่ฉันก็ไม่เจอแบบที่ต้องการ
เดิมทีชาวต่างชาติค่อนข้างเปิดกว้าง พวกเขาไม่ขี้เหนียวกับรูปร่างของตนเอง ดังนั้นรูปแบบชุดนอนจึงค่อนข้างเซ็กซี่
แต่ชุดนอนที่เซ็กซี่ฉันมีแล้ว ฉันแค่อยากซื้อชุดนอนปกติมากกว่า!
แต่แบบที่เซลล์หยิบมาให้ แต่ละชิ้นทำให้ฉันหน้าแดงร้อนผ่าว
สุดท้ายฉันจึงต้องมอวไปที่ลู่จือสิงที่ยืนอยู่หน้าประตูตลอด : "คุณเข้ามาเร็วเข้า"
เขามองฉัน ยิ้มอย่างลำพองใจเล็กน้อย เพียงแต่ยังไม่เดินเข้ามา
เขาก้มมองฉัน จากนั้นก็เริ่มสื่อสารกับเซลล์
ภาษาอังกฤษของลู่จือสิงดีมาก เพียงแค่สองสามประโยค เซลล์ก็ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบอีกสองสามแบบมาให้ฉัน
ครั้งนี้เป็นแบบกางเกง เมื่อเทียบกับกระโปรงเหล่านั้น เป็นธรรมดาที่ฉันจะรับได้
ฉันมองลู่จือสิง รีบพยักหน้า : "เอาอันนี้"
เขายิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ส่งให้เซลล์
ถึงแม้ว่าสำเนียงฉันจะไม่ดี แต่การฟังของฉันก็ใช้ได้
เมื่อกี้ได้ยินว่าลู่จือสิงบอกให้เอาแบบที่ไซต์เล็กที่สุดมา สีหน้าฉันก็แข็งทื่อเล็กน้อย รีบส่ายหน้ากับเซลล์
เซลล์มองหน้าฉัน ลู่จือสิงก็พูดยืนยันว่าต้องการ
สุดท้ายเซลล์ก็ช่วยเราเลือกได้ ฉันไม่อยากทะเลาะกับเขาในร้าน เพียงแค่ยกมือขึ้นหยิกเขา
เขาหน้าไม่อายเลย ยื่นมาโอบฉัน : "อย่าโกรธเลย คุณใส่แล้วต้องดูดีมากอย่างแน่นอน!"
ฉันถลึงตาใส่เขา "ไปให้พ้นเลย!"
ลู่จือสิงยิ้มเล็กน้อยไม่ใส่ใจ รับบัตรคืน รับถุงจากเซลล์มา
ฉันเสียใจเล็กน้อยที่เข้ามาซื้อชุดนอนใหม่ ยังเทียบไม่ได้กับไม่ซื้อซะเลย นึกถึงชุดนอนสองตัวในถุงนั้น นึกถึงแล้วหน้าฉันก็รู้สึกแดงไม่หยุด
หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วลู่จือสิงก็พาฉันไปชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมือง ข้างๆแม่น้ำ ลมพัดเข้ามา ผ่อนคลายมาก
ฉันลืมความไม่สบายใจเมื่อกี้ไป เพลิดเพลินไปกับสายลมยามค่ำคืนด้วยการหลับตาแล้วผายมือออก
สามทุ่มกว่าเราก็กลับแล้ว เพราะลู่จือสิงบอกว่าพรุ่งนี้เราต้องไปที่เกาะ
ฉันฟังแล้วก็ตื่นเต้นไม่หยุด เป็นธรรมดาที่ฉันอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ พรุ่งนี้จะไปสนุกสนานบนเกาะ
เดิมทีคิดว่าลู่จือสิงจะก่อกวนฉันในตอนกลางคืน สรุปคือเขาไม่ได้ทำอะไรฉัน เพียงแค่กอดฉันแล้วก็หลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นขึ้นมา ลู่จือสิงก็สั่งอาหารเช้าขึ้นมา จากนั้นเราก็เริ่มล้างหน้าบ้วนปาก
หลังอาหารเช้าลู่จือสิงหยิบกระเป๋าเดินทางและลงไปชั้นล่างกับฉัน รถรออยู่ชั้นล่าง
รถพาเราไปเทียบท่า จากนั้นก็ขึ้นเรือ หลังจากนั่งเรือมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง เราจึงไปถึงอีกเมืองหนึ่ง
ลู่จือสิงพาฉันไปทานอาหารกลางวัน พักสักพัก จากนั้นเรือยอร์ชก็มาพาเราไป
เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆเมื่อฉันมาถึงเกาะ แดดแรงนิดหน่อย ลู่จือสิงถามฉันว่าต้องการจะพักหน่อยไหม เพราะว่าเราจะมาอยู่ที่นี่สามวัน
ฉันไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เพียงแค่วางแผนที่จะพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมาสนุก
ตอนพลบค่ำลู่จือสิงพาฉันออกไปทานอาหารเย็น บนเกาะคึกคักมาก หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็เดินเล่นริมชายหาดเป็นเวลาชั่วโมงกว่า
ตอนกลับ ฉันอดไม่ได้ที่จะดึงมือของลู่จือสิง : "คุณสามี คุณแบกฉันหน่อยสิ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้