หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 37

พักกลางวันฉันขอลางาน 2 ชั่วโมง ยังไม่ทานข้าวฉันก็เรียกรถไปยังสถานที่ที่จ้าวชิงหรานนัดเจอ

เมื่อลงจากรถแท็กซี่ ฉันก็ต้องขมวดคิ้ว ฉันไม่คิดว่าจ้าวชิงหรานจะนัดฉันให้มาเจอกันในโรงแรม

ฉันก็ไม่ใช่คนโง่ ตอนที่เข้าไปหาเธอ ฉันก็คอยระแวดระวัง และวางแผนเตรียมวิ่งหนีหากพบเจออะไรที่ผิดปกติ

ฉันไปตามเลขห้องที่จ้าวชิงหรานบอก เมื่อขึ้นไปชั้นเก้า ไม่นานนักฉันก็พบห้องนั้น

จ้าวชิงหรานบอกว่าเธอไม่สบาย จึงมานอนพักที่นี้ ประตูห้องเปิดแง้มอยู่ เหมือนจะให้ฉันเดินเข้าไป

ฉันผลักประตูเดินเข้าไป ไม่พบจ้าวชิงหราน แต่เป็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเปิดศึกกันอยู่

“เธอเป็นใคร?”

“ออกไป!”

ฉันพบว่าตัวเองเข้าผิดห้องแล้ว จึงวิ่งหน้าแดงออกไป ก่อนออกไปยังช่วยพวกเขาปิดประตูให้ด้วย

ถ้าฉันจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนั้นชื่อ ซินหมิงเยว่ เป็นคู่หมั้นคนก่อนของลู่จือสิง

ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะมาเจอเรื่องแย่ๆ แบบนี้ ขณะที่คิดจะกลับบริษัท จ้าวชิงหรานก็โทรเข้ามา: “ซูยุ่น เธอยังมาไม่ถึงอีกหรือ?”

พอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไป ฉันก็รู้สึกไม่พอใจ: “ฉันถึงแล้วค่ะ คุณอยู่ที่ไหน? คุณให้เลขห้องฉันมาผิดนะ หรือว่าจริงๆ แล้วเป็นกลลวงของคุณกันแน่?”

“เธอกำลังพูดอะไรอยู่น่ะ ฉันอยู่ห้อง 0906!”

“ตอนนี้ฉันก็อยู่หน้าประตูห้อง 0906”

“ซูยุ่น อยู่นี่!”

ขณะที่พูด ประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามในแนวทแยงมุมก็เปิดออก แล้วจ้าวชิงหรานก็เดินออกมาจากข้างใน

ฉันเดินเข้าไปหา: “คุณจ้าว คุณดูเลขห้องได้ชัดเจนมาก!”

เธอมองอยู่ซักพักหนึ่ง: “ขอโทษที เมื่อวานฉันดื่มมากไปหน่อย ตอนนี้ยังไม่ตื่นดี เข้ามาซิ”

พูดเสร็จ ก็หันข้างให้ฉันเดินเข้าไป

ฉันมองจ้าวชิงหรานอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอไม่มีอะไรผิดปกติ จึงได้แต่โทษความซวยของตัวเอง

ภายในห้องมีกลิ่นเหล้าจริงๆ ฉันอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จ้าวชิงหรานเรียกให้ฉันนั่งลง

“นั่งซิ ซูยุ่น ฉันอยากเจอเธอมาตลอด แต่ไม่มีโอกาสเหมาะซักที”

ฉันมองไปที่เธอ ไม่อยากอยู่พูดจาไร้สาระ: “คุณจ้าว คุณมาพบฉันด้วยเรื่องของลู่จือสิงใช่มั้ยคะ?”

จ้าวชิงหรานหน้าเปลี่ยนสีทันที แตกต่างจากท่าทีอ่อนโยนแบบเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้เธอมองฉันอย่างกระด้างกระเดี่ยงมาก : “ในเมื่อเธอพูดตรงขนาดนี้ ฉันก็จะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน”

เธอพูดแล้วก็มองฉันยิ้มๆ: “จือสิงคงจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไปปรากฏตัวในงานฉลองวันเกิดของคุณลุงซินะ?”

ใบหน้าฉันแข็งทื่อ แต่ตีสีหน้าทำเหมือนว่าไม่มีอะไร: “ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ค่ะ”

จ้าวชิงหรานเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน: “หรือคะ? เธอไม่เข้าใจหรือไม่กล้ายอมรับกันแน่ วันนั้นเธอตั้งใจจะไปขอแต่งงานเพื่อยั่วโมโหคุณลุงลู่ซินะ เธอแต่งงานกับจือสิงก็เพราะคุณลุงลู่ใช่มั้ย”

จ้าวชิงหรานเตรียมการมาจริงๆ ด้วย ฉันขมวดคิ้ว: “คุณคิดจะทำอะไร?”

“เธอยอมรับหรือเปล่า ซูยุ่น ว่าเธอแต่งงานกับจือสิงเพราะมีเจตนาแอบแฝง!”

ฉันรู้สึกขำ: “มีเจตนาแอบแฝงแล้วอย่างไร คุณจ้าวมาพูดเรื่องเหล่านี้ในฐานะอะไรหรือคะ?”

เธอตัวสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ: “ซูยุ่น เธออย่าลำพองไป วันหนึ่งจือสิงจะต้องได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ!”

ฉันรู้สึกตื่นตระหนก แต่ไม่อยากให้เธอได้เห็นด้านที่อ่อนแอ จึงแสร้งทำเป็นใจเย็น: “งั้นรอให้ถึงวันนั้นค่อยมาคุยแล้วกันค่ะ!”

“ต้องทำอย่างไรเธอถึงจะยอมไปจากจือสิง?”

ฉันยืนขึ้นมองเธอจากข้างบนและยิ้มเย็นชาให้: “คุณพูดเองว่าฉันมีเจตนาแอบแฝงไม่ใช่หรือคะ รอให้ฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ แล้วฉันจะไปจากเขาเองค่ะ ส่วนคุณ คุณจ้าว ฉันขอเตือนคุณสักหน่อยนะคะ คำว่ากิ๊กมันน่าขยะแขยงมากค่ะ”

ฉันมาพบจ้าวชิงหรานในวันนี้เดิมทีก็เพื่อให้เธอได้รับรู้ว่า ผู้ชายของฉันไม่ใช่ใครอยากได้ก็จะมาเอาไปได้

ฉันเห็นใบหน้าอันซีดเผือกของจ้าวชิงหรานก็รู้ว่าตัวเองได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะอยู่คุยไร้สาระต่อไปอีก

ก่อนแยกจากฉันได้เตือนสติจ้าวชิงหรานอีกครั้งว่า การตัดสินใจของลู่จือสิงได้แสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีโอกาสใดๆ อีกแล้ว

เมื่อได้เห็นสีหน้าอันผิดหวังของจ้าวชิงหรานที่มองมา ฉันก็รู้สึกเหมือนได้ระบายความอัดอั้นใใจนช่วงหลายวันที่ผ่านมาออกไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้