ลู่จือสิงไม่ตอบอะไรฉันอีก เขามองฉันอย่างเย็นชาและให้ฉันกลับไป
พูดจบเขาเองก็หมุนตัวและเดินจากไป
ฉันมองไปยังแผ่นหลังของเขา ลึกๆภายในใจนั้นฉันเองก็โกรธอยู่เล็กน้อย ฉันหมุนตัวและคิดจะเดินไป แต่ก็คิดอยากจะด่าเขา และเมื่อหันกลับมากลับพบว่าเขานั้นยืนพิงกำแพงและหลับตาลง มือข้างหนึ่งของเขากำลังกุมหน้าท้องอยู่ สีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์นั้นยิ่งเย็นชามากขึ้น
ฉันตะลึงและรีบเดินเข้าไปหาเขา "คุณเป็นอะไรไป ปวดท้องเหรอ?"
เขาลืมตาขึ้นและมองมาที่ฉัน แต่ไม่พูดอะไร
ฉันร้อนใจเล็กน้อย "ถ้าคุณไม่พูด ฉันจะโทรหา120!"
“ปวดท้อง!”
ในที่สุดคำสองคำก็หลุดออกมาจากปากลู่จือสิง ตอนนี้มีเหงื่อจำนวนมากไหลออกมาจากหน้าผากของเขา ดูเหมือนกับว่าเขาจะปวดท้องอย่างรุนแรง
"ตู้ยาอยู่ที่ไหน?"
เขามองฉันอย่างครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และกล่าว "ชั้นวางของในครัว"
"คุณรอตรงนี้ ฉันจะไปหยิบยามาให้!"
ตัวโตขนาดนี้แล้ว ปวดท้องก็ยังหายามากินเองไม่ได้ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าเขาใช้ชีวิตมาจนตอนนี้ได้ยังไง
ตอนแรกก็คิดว่าจะไปหายามาให้ลู่จือสิงแล้วฉันก็จะไป แต่มองสีหน้าเขาแล้วอาการไม่ค่อยดี ฉันก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาอีกครั้ง "คุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงใช่รึเปล่า?"
ลู่จือสิงเหลือบมองฉันและเดินไปยังโซฟาจากนั้นกล่าวว่า "ผมยุ่งมาก"
ถึงแม้เขาจะพูดเพียงแค่สามคำแต่ฉันก็เข้าใจดีว่าเขาหมายถึงอะไร
นั่นเป็นการเอ่ยปากที่มีความหมายเป็นนัยว่าฉันควรออกไปได้แล้ว แต่เมื่อนึกถึงท่าทางที่เขายืนพิงกำแพงพร้อมกับสีหน้าที่บึ้งตึงนั้นแล้วสุดท้ายฉันก็เข้าไปในครัวเพื่อที่จะทำอาหารให้กับเขา
อุปกรณ์ในครัวของลู่จือสิงนั้นมีไม่มากนักและต้องใช้เวลาในการทำอีก ท่าทางเขาเมื่อครู่นั้นดูเหมือนจะปวดท้องอยู่ไม่ใช่น้อยเลย
หลังจากที่คิดแล้วคิดอีก ท้ายที่สุดแล้วฉันก็เลือกที่จะทำบะหมี่ใส่ไข่และมะเขือเทศให้เขา
"แม้ว่าคุณจะกินยาไปแล้วแต่ก็ควรจะกินอะไรหน่อย อาการจะได้ดีขึ้น"
ฉันวางถ้วยบะหมี่ลงตรงหน้าเขา จู่ๆสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
กลิ่นของมะเขือเทศและไข่ทำให้คนอดไม่ได้ที่อยากจะกิน ฉันเองได้กลิ่นยังคิดอยากจะกินมันเลย แต่เขากลับมีสีหน้าท่าทางแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้