หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 4

ลู่จือสิงไม่ตอบอะไรฉันอีก เขามองฉันอย่างเย็นชาและให้ฉันกลับไป

พูดจบเขาเองก็หมุนตัวและเดินจากไป

ฉันมองไปยังแผ่นหลังของเขา ลึกๆภายในใจนั้นฉันเองก็โกรธอยู่เล็กน้อย ฉันหมุนตัวและคิดจะเดินไป แต่ก็คิดอยากจะด่าเขา และเมื่อหันกลับมากลับพบว่าเขานั้นยืนพิงกำแพงและหลับตาลง มือข้างหนึ่งของเขากำลังกุมหน้าท้องอยู่ สีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์นั้นยิ่งเย็นชามากขึ้น

ฉันตะลึงและรีบเดินเข้าไปหาเขา "คุณเป็นอะไรไป ปวดท้องเหรอ?"

เขาลืมตาขึ้นและมองมาที่ฉัน แต่ไม่พูดอะไร

ฉันร้อนใจเล็กน้อย "ถ้าคุณไม่พูด ฉันจะโทรหา120!"

“ปวดท้อง!”

ในที่สุดคำสองคำก็หลุดออกมาจากปากลู่จือสิง ตอนนี้มีเหงื่อจำนวนมากไหลออกมาจากหน้าผากของเขา ดูเหมือนกับว่าเขาจะปวดท้องอย่างรุนแรง

"ตู้ยาอยู่ที่ไหน?"

เขามองฉันอย่างครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และกล่าว "ชั้นวางของในครัว"

"คุณรอตรงนี้ ฉันจะไปหยิบยามาให้!"

ตัวโตขนาดนี้แล้ว ปวดท้องก็ยังหายามากินเองไม่ได้ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าเขาใช้ชีวิตมาจนตอนนี้ได้ยังไง

ตอนแรกก็คิดว่าจะไปหายามาให้ลู่จือสิงแล้วฉันก็จะไป แต่มองสีหน้าเขาแล้วอาการไม่ค่อยดี ฉันก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาอีกครั้ง "คุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงใช่รึเปล่า?"

ลู่จือสิงเหลือบมองฉันและเดินไปยังโซฟาจากนั้นกล่าวว่า "ผมยุ่งมาก"

ถึงแม้เขาจะพูดเพียงแค่สามคำแต่ฉันก็เข้าใจดีว่าเขาหมายถึงอะไร

นั่นเป็นการเอ่ยปากที่มีความหมายเป็นนัยว่าฉันควรออกไปได้แล้ว แต่เมื่อนึกถึงท่าทางที่เขายืนพิงกำแพงพร้อมกับสีหน้าที่บึ้งตึงนั้นแล้วสุดท้ายฉันก็เข้าไปในครัวเพื่อที่จะทำอาหารให้กับเขา

อุปกรณ์ในครัวของลู่จือสิงนั้นมีไม่มากนักและต้องใช้เวลาในการทำอีก ท่าทางเขาเมื่อครู่นั้นดูเหมือนจะปวดท้องอยู่ไม่ใช่น้อยเลย

หลังจากที่คิดแล้วคิดอีก ท้ายที่สุดแล้วฉันก็เลือกที่จะทำบะหมี่ใส่ไข่และมะเขือเทศให้เขา

"แม้ว่าคุณจะกินยาไปแล้วแต่ก็ควรจะกินอะไรหน่อย อาการจะได้ดีขึ้น"

ฉันวางถ้วยบะหมี่ลงตรงหน้าเขา จู่ๆสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

กลิ่นของมะเขือเทศและไข่ทำให้คนอดไม่ได้ที่อยากจะกิน ฉันเองได้กลิ่นยังคิดอยากจะกินมันเลย แต่เขากลับมีสีหน้าท่าทางแบบนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้