หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 101

ร่างบางรีบขับรถไปโรงพยาบาลทันทีเมื่อรู้ข่าวของเพื่อนรัก ฉันรีบจอดรถก่อนวิ่งไปยังห้องโถง พลันสายตากลับมองไปเห็นดิกสันที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกของระเบียงทางเดิน มือหนาบี้ก้นบุหรี่ทิ้งเมื่อสังเกตเห็นฉัน พลางเอ่ยเสียงเรียบ “ตอนนี้ซัมเมอร์ปลอดภัยแล้ว แต่ว่าคนที่ขับรถคนนั้นคือคนที่เธออยากเจอมาโดยตลอด”

ฉันถามกลับเพื่อความแน่ใจ “อย่าบอกนะว่าเป็นชาร์ลส คอนเนอร์?”

แต่ดิกสันรู้ได้อย่างไรว่าซัมเมอร์สนใจในตัวชาร์ลสกันล่ะ?

ร่างสูงไม่ตอบทว่าถามฉันกลับ “คุณตรวจสอบเรื่องของชาร์ลสเพื่อซัมเมอร์เหรอ?”

แคโรพยักหน้าตอบ ดิกสันเป็นคนฉลาด เขารู้ถึงความตั้งใจของซัมเมอร์ได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม เสียงเข้มเอ่ย “ผมคิดว่าเธอวางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้ว และยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพียงเพราะต้องการจะแก้แค้น! เพื่อต้องการก้าวเข้าไปในตระกูลคอนเนอร์ เธอถึงกับเสี่ยงชีวิตของตัวเองแลกกับการจับตัวชาร์ลสให้อยู่หมัด”

คำพูดของดิกสันทำให้รู้ว่าเขาเองก็คงกำลังคิดโยงสถานการณ์ตรงหน้ากับการตายของโจเซฟ ซึ่งมีแค่เราและอีกไม่กี่คนที่คิดแบบเดียวกัน

ดิกสันรู้ว่าซัมเมอร์จะไม่มีวันปล่อยให้ตัวการของเรื่องลอยนวล

ร่างเล็กจ้องมองร่างสูงพลันขมวดคิ้ว “แล้วชาร์ลสล่ะ?”

ชาร์ลสชนแล้วหนีไปเหรอ?

“หมอนั่นทิ้งเลขาไว้ที่นี่แทน”

ฉันยังคงตกใจกับการกระทำของซัมเมอร์ ทว่าก็อยากรู้ว่าเพื่อนสนิทคนนี้จะทำอย่างไรต่อ “ดิกสัน คุณคิดว่าซัมเมอร์จะทำยังไงต่อหลังจากนี้?”

ชาร์ลสไม่มีทางลงมาดูดำดูแดงรับผิดชอบคนป่วยแบบซัมเมอร์เพียงเพราะอุบัติเหตุเช่นนี้เป็นแน่

มุมปากของดิกสันยิ้มเหยียดพลางเอ่ยหนักแน่น “คงได้เวลาต่อรองกันอย่างจริงจังแล้ว”

ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับโอกาสในการต่อรองที่ว่า จึงเลือกเดินไปดูอาการของซัมเมอร์แทน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำนัยน์ตาฉันรื่นน้ำ ซัมเมอร์ยังไม่สลบอยู่ นอกจากใบหน้าแล้ว ส่วนอื่นของร่างกายล้วนปกคลุมไปด้วยเผือกพร้อมโดนดามไว้เกือบทุกจุด ฉันมองเธอด้วยความเจ็บปวด

ชีวิตของซัมเมอร์นั้นช่างยากลำบาก เธอรอคอยโจเซฟมาตลอดชีวิต เมื่อเธอรู้ว่าเขายังมีชีวิต กลับมีใครบางคนดับความหวังของเธอลงอย่างเลือดเย็น เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้วในชีวิต

หัวใจของเธอยังคงเต้นอยู่เพื่อรอวันแก้แค้นให้โจเซฟเท่านั้น

ทว่าตอนนี้ ความจริงเรื่องการตายของโจเซฟก็ยังไม่เปิดเผย

ฉันเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนหันไปพูดกับดิกสัน “คุณกลับไปทำงานก่อนเถอะ ฉันจะอยู่ดูเธอเอง”

“คุณอยู่คนเดียวได้ซักพักได้ใช่ไหม?” เขาถามอย่างเป็นห่วง

“ได้สิ ถ้าเธอฟื้นแล้ว เดี๋ยวฉันจะกลับบ้านเอง”

เมื่อร่างสูงเดินออกไป ซัมเมอร์ก็ตื่นก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ทว่ายามที่เธอเห็นฉัน สายตานั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวังทันตา

แคโรคิดว่าคนที่เพื่อนเธออยากเจอคงเป็นชาร์ลส เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวที่ซัมเมอร์จะได้ใกล้ชิดผู้ชายคนนั้น

ฉันเดาความคิดของซัมเมอร์ก่อนเอ่ย “เลขาของชาร์ลสอยู่ด้านนอกนั่น”

ได้ยินแบบนั้นซัมเมอร์ก็ผ่อนลมหายใจออกมาพลางยิ้มเบา ๆ “ก็ยังดีที่เขาไม่ได้ใจดำขนาดนั้น”

ใบหน้าของซัมเมอร์ซีดเผือดราวกับวิ่งผ่านความตายมาอย่างนั้น ฉันขบริมฝีปากก่อนถามด้วยความเป็นห่วง “มันคุ้มค่าเหรอ? เธอต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนี้เลยเหรอไง?”

“มันไม่เกี่ยวว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องทำแค่นั้น”

ซัมเมอร์ตอบเสียงเรียบนิ่ง

ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอ แต่การกระทำวันนี้มันอันตรายเกินไป

ฉันกลัวว่าเธอจะดำดิ่งกับการแก้แค้นจนลืมความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ “เธอจะเข้าใกล้ชาร์ลสด้วยวิธีไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เอาตัวเองไปเสี่ยงตายแบบนี้! ซัมเมอร์ ผู้ชายเป็นเพศที่ตั้งการ์ดพร้อมสู้เสมอ และพวกเขาชิงชังผู้หญิงที่เต็มไปด้วยมารยาเหล่เหลี่ยม เธอจะต้องไม่ท้าทายเขา ไม่งั้นวันหนึ่งเกิดเขาหมดความอดทนขึ้นมา ฉันกลัวว่าจะไม่มีใครปกป้องเธอได้นะสิ”

“ฉันรู้ขีดจำกัดของตัวเอง” ซัมเมอร์ตอบเสียงเรียบอีกครั้ง

ฉันไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากนั้น

มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาถกเถียงกันเรื่องนี้ ฉันดูอาการซัมเมอร์อีกพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาเพื่อให้เธอพักผ่อน

ขาเรียวก้าวเท้าเดินลงบันไดไปเรื่อย ๆ จนถึงล็อบบี้ของโรงพยาบาล ก่อนจะสังเกตเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของใครบางคน

เธอคนนั้นคือเกวน และฉันไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง

ดูเหมือนว่าเธอมาทำธุระอะไรบางอย่างมากกว่ามาเยี่ยมใคร

ตอนแรกฉันไม่คิดจะใส่ใจเธอ ทว่าเมื่อเห็นเธอคุยกับหมอคนหนึ่งด้วยท่าทางจริงจังทำให้ฉันชะงักก่อนจะหาที่หลบแอบดูเธอ พอเกวนหันหลังจากไปฉันก็พุ่งตอนออกมาแล้วเดินไปถามข้อมูลจากหมอทันที “หมอคะ ช่วยอะไรฉันซักอย่างแล้วฉันจะจ่ายห้าแสนดอลลาร์! ฉันแค่ต้องการความช่วยเหลือและมีแต่คุณเท่านั้นที่ทำได้!”

แต่หมอกลับปฏิเสธ “ขอโทษนะครับ แต่มันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ผมทำไม่ได้จริง ๆ”

“ยัยนั่นวางแผนจะทำอะไรอีกล่ะ?”

ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะเดินออกมาจากล็อบบี้ ฉันหยุดยืนจ้องมองเกวนที่กำลังก้าวขึ้นรถตาไม่กระพริบ พลันหมุนตัวกลับเข้ามาในโรงพยาบาลเพื่อตามหาหมอคนนั้นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับเจอหมออีกคนโชคดีที่เขาเป็นเพื่อนของหมอที่เป็นเข้าของไข้ฉัน

ฉันถามเขาด้วยเสียงสุภาพ “เธอขอให้พวกคุณช่วยเรื่องอะไรเหรอคะ?”

อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างเปิดเผย “เธอต้องการข้อมูลสูติบัตรของคุณครับ”

เกวนอยากรู้ข้อมูลในสูติบัตรของฉันไปทำไม?!

แล้วฉันเกิดที่โรงพยาบาลนี้เหรอ?

คิ้วสวยขมวดเป็นปม “เธอจะเอามันไปทำอะไร?”

ทว่าหมอกลับไม่ตอบคำถามของฉัน ฉันจึงเอ่ยขอสูติบัตรของตัวเองเช่นกัน หากฉันที่เป็นถือสิทธิ์อย่างถูกต้องขอร้องละก็ ย่อมได้มันมาอย่างง่ายดายอยู่แล้ว

ฉันเก็บเอกสารทั้งหมดไว้ในกระเป๋าก่อนจะขับรถกลับบ้าน

แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าบ้านกลับได้รับสายจากชัคเสียก่อน

ปลายสายรายงาน “ประธานชอว์ ผมพึ่งกลับมาถึงเมืองอู๋ ปัญหาที่เกิดขึ้นที่เมืองเอได้รับการแก้ไขแล้วเรียบร้อย และเป็นอย่างที่คิดครับ เจนนิเฟอร์ เยล โดนตัดสินจำคุก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เจอจะอยู่ในนั้นไปอีกสามเดือน! รวมทั้งหุ้นของตระกูลเยลที่ล่วงลงอีกเจ็ดเปอร์เซ็นต์เมื่อเช้านี้ นายท่านของตระกูลเยลพึ่งโทรมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปเมื่อครู่ และยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ผมอยากให้คุณรู้”

ท่านประธานของตระกูลเยลเป็นชายที่ซื่อตรง ซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ เวนดี้คงจะเข้าหาพ่อของเธอไม่ติดแน่ ๆ เพราะครั้งนี้คำขอโทษของพ่อเธอคงไม่มีผลอะไรกับฉัน

มือเรียวหยิบเอกสารที่ได้จากโรงพยาบาลออกมาพลางเอ่ย “เรื่องอะไรชัค?”

“ตอนที่ผมกำลังจะเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลเยล ผมบังเอิญไปเห็นการถกเถียงกันระหว่างเวนดี้กับเจนนิเฟอร์ที่สวนด้านหลัง เจนนิเฟอร์ถามเวนดี้ว่าทำไมหล่อนถึงเอาโทรศัพท์ตัวเองมาใส่ในกระเป๋าของเธอ หรืออีกนัยหนึ่ง เวนดี้พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เจนนิเฟอร์โดยสัญญาว่าจะยกหุ้นของตระกูลเยลให้เจนนิเฟอร์หากเธอยอมเป็นแพะรับบาป”

ฉันเดาถูกจริง ๆ สินะ ตัวปัญหาของเรื่องก็คือเธอเลยเวนดี้

เพราะเธอไม่คิดว่าฉันจะมุ่งไปที่คฤหาสน์ตระกูลเยลด้วยตัวเอง ทำให้เธอไม่ได้เตรียมตัวรับมือหรือแม้กระทั่งซ่อนโทรศัพท์ และไม่คิดว่าฉันกับเลขาจะอดทนรออยู่แถวนั้นเพื่อจับเธอโดยเฉพาะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ