หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 103

ฉันไม่ได้ถามลอเรน กรีน ว่าสาเหตุนั้นมาจากแลนซ์ เกร็ก หรือเปล่า

เพราะลอเรนยังคงคิดเสมอว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อแลนซ์นั่นล้วนเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถบอกออกไปได้ และในขณะเดียวกันเธอก็รู้ว่าตอนนั้นแลนซ์ก็มีใจให้ฉัน

ตามหลักแล้วก็ไม่แปลกที่เจอจะมองว่าฉันเป็นศัตรู

ฉันบอกไม่ได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไร หรือคิดอย่างไรกับฉัน รวมทั้งไม่เข้าใจด้วยว่าเธอโทรหาฉันเพื่อขอเจอทำไม

ลอเรนพยักหน้ายอมรับโดยตรง “ใช่ค่ะ มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์นั้นแหละ หรืออาจจะเรียกว่ารักที่ไม่สมหวังก็ได้”

ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันอาจจะถามเธอว่าผู้ชายที่เธอรักเป็นคนแบบไหน ทว่าเมื่อฉันรู้ว่าคนคนนั้นคือแลนซ์ ทำให้ฉันไม่อยากจะถามอะไรอีก

แคโรถอนหายใจก่อนเอ่ย “ความรักก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ ฉันไม่รู้ว่าจะปลอบเธอยังไงดี แต่หยิบผ้าห่มด้านหลังมาห่มไว้ให้ตัวอุ่นก่อนเถอะ”

เมื่อลอเรนสัมผัสได้ว่าฉันพยายามเว้นระยะห่างกับเธอ อีกฝ่ายก็เม้มริมฝีปากแน่นพลันเงียบลงทันตา แขนเรียวไม่แม้แต่จะเอื้อมไปหยิบผ้าห่มด้านหลัง

หากมองตามความสัมพันธ์ของฉันกับดิกสัน เกร็ก ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังเป็นพี่สะใภ้ของเธออยู่วันยังค่ำ ยากที่จะอธิบายว่าฉันก็รู้สึกไม่ดีที่เห็นเธอเศร้า แต่ฉันก็ช่วยอะไรเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้เหมือนกัน

แค่พูดให้เธอรู้สึกดีขึ้นยังทำไม่ได้เลย

สภาพของเธอตอนนี้ทำให้ฉันเหนื่อยใจ

แคโรตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มด้านหลัง พลางยื่นมันไปให้หญิงสาวข้างตัว เมื่อเห็นฉันยื่นให้ ลอเรนก็คว้าหมับเอาผ้าห่มเข้าไปห่มคลุมทันที พลันเอ่ยออกมาแผ่วเบา “แคโรไลน์ ฉันอิจฉาเธอชะมัด”

ดูเหมือนว่าที่เธอเรียกฉันออกมาคงเป็นเพราะอยากจะคุยเรื่องแลนซ์สินะ

มือเรียวกดปุ่มสตาร์ทรถพร้อมถาม “เธอหมายความว่ายังไง? ดูสภาพฉันสิ ป่วยออดแอด มีลูกก็ไม่ได้ เธอไม่รู้หรอกว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนลอเรน”

“ยังไงฉันก็ยังอิจฉาเธออยู่ดี”

เธออิจฉาเพียงเพราะแลนซ์ชอบฉันเหรอ?

ฉันเลือกจะแกล้งโง่พลันตอบ “ฉันก็อิจฉาเธอเหมือนกัน”

ฝนเริ่มตกหนักขึ้นและทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ลง แคโรจำเป็นต้องจอดรถไว้ข้างทางพลางใส่เบรกมือ

“รอให้ฝนซาก่อนก็แล้วกัน” ฉันบอก

ลอเรนพยักหน้าตอบกลับแล้วไม่พูดอะไรอีก บรรยากาศน่าอึดอักเกิดขึ้นในรถโดยปราศจากคำพูดใดใด ฉันไม่สบายใจที่ต้องอยู่แบบนี้กับเธอ

ปรายนิ้วสวยไล่ไปตามพวงมาลัยรถ พลันเหลือบสายตาไปยังเม็ดฝนด้านหน้าที่กำลังไหลลงตามแรงโน้มถ่วง ทว่าไม่นานเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ทำลายความเงียบระหว่างเรา

ดิกสันโทรมา

ฉันกดรับทั้ง ๆ ที่ลอเรนมองอยู่ เสียงเข้มเล็ดลอดออกมาด้านนอก “แคโร คุณอยู่ที่ไหน?”

“ฉันอยู่กับลอเรน” ฉันตอบ “ฝนตกหนักมากทำให้ต้องจอดรถชั่วคราว เดี๋ยวซักพักฉันจะกลับไป”

“โอเค ขับรถระวังด้วย”

ฉันกดวางสาย ก่อนที่ลอเรนจะยอมพูดออกมาในที่สุด “ฉันอิจฉาที่พี่ชายทั้งสองชอบเธอมากขนาดนี้ พวกเขาเป็นห่วงเธอ อย่างกับว่าจะรักเธอจนวันตายอย่างนั้นแหละ”

ฉันยิ้มฝืด “ฉันรู้แล้วว่าเธอเป็นอะไร แต่มันไม่ได้มีอะไรระหว่างฉันกับแลนซ์เลย…”

ฉันเคยตามแลนซ์เพียงไม่กี่เดือนในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากนั้นเลย ที่ฉันไม่อยากพูดถึงเขาเพราะยังสับสนเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองกับความทางจำในตอนนั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ฉันเลือกดิกสัน เกร็ก และจะสื่อสัตย์ต่อชายคนนี้คนเดียวแม้ว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เลือกแลนซ์ แต่เขายังคงคิดเรื่องของเธออยู่ตลอดเวลา” ดวงตาของลอเรนแดงก่ำและรื่นน้ำตา “ฉันคิดภาพผู้ชายเย็นยาแบบเขาตอนตกหลุมรักไม่ออกเลย เพราะฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ฉันทุ่มเทให้เขามาตลอดสิบปี แต่เขาไม่เคยคิดจริงจังเลยซักครั้ง”

แคโรเข้าใจความรู้สึกนั้นดี มันทั้งขมขื่นและทรมาน ฉันคือตัวแปรในความสัมพันธ์ของเธอกับแลนซ์ เหมือนกับเกวนที่เป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ของฉันกับดิกสัน จุดแตกต่างมีเพียงแค่ฉันไม่เคยอยากจะแย่งแลนซ์มาจากเธอ ฉะนั้นฉันถึงไม่ได้น่ารังเกียจแบบเกวน

ลอเรนร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เสียงสะอึกสะอื้นดังก้องแข่งกับเสียงฝน ฉันได้แต่เงียบฟังเสียงร่ำไห้นั้น ไม่มีคำพูดไหนที่สามารถลบเลือนความเจ็บปวดพวกนั้นให้หายไปจากใจของเธอได้

แต่ฉันก็ทนเห็นเธอเป็นแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน

ลอเรนเป็นเด็กดี แต่เธอตกหลุมรักผู้ชายเย็นชาที่ปฏิเสธความรู้สึกของฉันเมื่อเก้าปีก่อน

สำหรับเขา ฉันในตอนนั้นยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจคำว่ารัก

แคโรสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเตือนตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องอดีต พลางยื่นมือออกไปลูบที่หัวไหล่ของลอเรนเบา ๆ “แลนซ์คือผู้ชายที่เย็นชาและรู้สึกห่างไกลมากที่สุดที่ฉันเคยเจอมา แม้กระทั่งดิกสันก็เคยพูดแบบนี้เหมือนกัน พอมาคิดดูแล้ว ฉันแทบไม่รู้จักเขาเลย…”

ฉันเชื่อมาตลอดว่าตัวเองเข้าใจเขา

แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง ความจริงก็คือฉันไม่เคยรู้จักเขาเลย

ฉันเงียบไปซักพักก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง “ลอเรน ถ้าฉันชอบเขาจริง ๆ ฉันจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะเจ็บขนาดไหน แม้ว่าจะต้องเสียอะไรก็ตาม ฉันก็จะยืนหยัดให้ถึงที่สุด”

เพราะความรักของฉันนั้นบริสุทธิ์และแข็งแกร่ง

มองอีกด้านอาจจะดูเหมือนฉันเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำจนป่วยจิต

แต่มันไม่มีทางเลือก ถ้าฉันรักใครซักคน ฉันก็รักเขาจนชีวิตจะหาไม่

ทว่าลอเรนกลับถามสงสัย “แต่ ทำไมตอนนี้เธอถึงอยู่กับดิกสันล่ะ?”

ลอเรนคิดว่าฉันยังรักแลนซ์

เธอคิดว่าฉันเลือกดิกสันทั้ง ๆ ที่ยังรักแลนซ์อยู่

มันยากเกินกว่าจะมานั่งอธิบาย

ความสัมพันธ์ของฉันกับดิกสันไม่สามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้ด้วยไม่กี่ประโยค สามปีก่อน ฉันเข้าใจผิดว่าเขาเป็นแลนซ์ แต่เหมือนที่ซัมเมอร์พูด ถ้ามองอีกมุม มันเป็นเพราะแลนซ์เป็นคนทำให้ฉันได้พบกับดิกสัน

“เพราะฉันรักดิกสัน” ฉันตอบเธอ

แคโรรู้สึกกระอักกระอ่วนที่ต้องพูดเรื่องของแลนซ์กับลอเรน ฉันไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายนี่อีกแล้ว แต่เธอกลับลากฉันเข้าไป

ฝนยังคงตกลงมาเรื่อย ๆ แต่ฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว มือเรียวกดปุ่มสตาร์ทพลางได้ยินเสียงพึมพำจากคนข้างตัว “ฉันขอโทษนะ แคโรไลน์”

เธอคงละอายใจเมื่อรู้ว่าฉันเริ่มหมดความอดทน “พี่ชายไล่ฉันออกมานอกบ้านของเขา และไม่อนุญาตให้ฉันส่งข้อความหาเขา ฉันโกรธจนกลับมาที่เมืองอู๋ ฉันอยากเจอเธอเพราะคิดว่าเธอคงจะเข้าใจฉัน”

เข้าใจเธอเหรอ?

ลอเรนคิดว่าฉันรักแลนซ์

ฉันขมวดคิ้วก่อนตอบกลับ “ฉันไม่ได้ชอบแลนซ์ ฉันเคยแต่งงานกับดิกสัน และคิดว่าจะกลับไปจัดทะเบียนสมรสกันอีกครั้ง”

แม้ว่าความจริงแล้วฉันจะยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงาน

ฉันแค่อยากจะพูดอะไรให้เธอใจเย็นและเข้าใจมากขึ้น

เพราะฉันไม่อยากให้เธอมองว่าฉันเป็นคู่แข่ง

นอกจากนี้มันก็ไม่มีอะไรระหว่างฉันกับแลนซ์จริง ๆ

“ฉันขอโทษนะ แคโรไลน์”

ลอเรนเริ่มสังเกตเห็นอากาศของฉันก่อนจะขอโทษออกมาไม่หยุด พอเห็นแบบนั้นฉันกลับสงสารเธออีกครั้ง

ฉันพูดด้วยเสียงอ่อนลง “เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอ ฉันพูดจริง ๆ ว่ามันไม่มีอะไรระหว่างฉันกับแลนซ์ เพราะฉะนั้นเธอไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไรเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ