หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 124

แคโรขมวดคิ้ว “คุณจะออกทางหน้าต่างเหรอ?”

ร่างสูงเงียบก่อนจะหันกลับมามองหน้าฉัน

“แผลเป็นนั่นโคตรน่าเกลียดเลย”

ฉันอึ้งกับคำพูดของเขา

ฉันลบเครื่องสำอางออกตั้งแต่ตอนที่มาถึงเกสเฮ้าส์ ฉันรู้ว่าแผลเป็นนี่น่าเกลียดขนาดไหน แต่ไม่คิดว่าประโยคนี้จะตรงมาจากคนแปลกหน้าที่ตัวเองพึ่งช่วยชีวิตไปเมื่อครู่

ริมฝีปากบางเม้มแน่นปนครุ่นคิด

ทว่าอีกฝ่ายกลับถามขัดเสียก่อน “เธอชื่ออะไร?”

เสียงนั่นยังคงทุ้มต่ำและแหบพร่า

ถึงเราจะคุณกันได้ปกติ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันควรจะบอกถึงชื่อเสียงเรียงนามของตัวเอง แต่ในเมื่อเขาถามออกมาแบบนี้ ฉันก็ควรจะพูดอะไรซักอย่างเพื่อลดความอึดอัด “แคลลี่ ชอว์” ฉันโกหก

เขาขมวดคิ้วเชิงสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร

เราสองคนเบนสายตาไปยังแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ด้านนอกนั่น พลางคิดว่าเขาต้องโง่มากแน่ ๆ ถ้าคิดจะโดดหน้าต่างลงน้ำเพื่อหนี พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

ร่างสูงก้าวขาปีนขึ้นขอบหน้าต่างด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด “ถ้าเธอไม่หนี พวกมันฆ่าเธอแน่”

ฉันถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “ใครนะ?”

เสียงเข้มย้ำกลับทันควัน “ก็คนที่อยากฆ่าฉันไง”

“คุณจะบอกว่าคนเคาะเมื่อกี้เป็นหนึ่งในพวกมันงั้นเหรอ?”

“ใช่ พวกมันรู้แล้วว่าฉันอยู่ที่นี่”

‘แล้วการที่เขาโดนตามล่ามันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?’

ฉันบอกปัด “ฉันไม่หนีไปกับคุณหรอก”

ทว่าทันทีที่พูดจบ กลับมีใครบางคนพังประตูเข้ามา พร้อมถือมีดพุ่งเข้าใส่เราทั้งคู่อย่างรวดเร็ว!

แคโรทำอะไรไม่ถูก เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยนะ

ร่างสูงดึงแขนฉันให้กระโดดลงมาจากหน้าพร้อมกัน ทว่าก็ไม่พ้นรัศมีของคมมีดที่กวัดแกว่งมา หัวไหล่ของฉันโดนบาดเป็นแผล

ฉันกลั้นความเจ็บปวดไว้ในขณะที่หล่นลงไปในแม่น้ำ

เพราะการดึงทึ่ไม่ทันได้ตั้งตัวของเขาทำให้ฉันลืมกลั้นหายจนสำลักน้ำ สายน้ำที่เอื่อยแต่ไหลตลอดนั้นทำให้ยากต่อการดำผุด ฉันพยายามเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเพื่อรับอากาศ แต่กลับโดนแรงฉุดดึงลงไปใต้น้ำอีกครั้ง

อากาศที่เริ่มน้อยนิดทำให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่ใบหน้าของคนที่ลอยเข้ามาในจิตใต้สำนึกก็ยังคงเป็นชายคนนั้น ดิกสัน เกร็ก คนเดิม

ถ้าฉันรอดไปได้ สัญญาเลยว่าไม่ยอมกลับไปเจอคนแบบนั้นอีกแล้ว

และก็จะไม่ยกโทษให้อีกเป็นครั้งที่สอง

ร่างกายของฉันเริ่มคลายตัวเองและค่อย ๆ จมลงไปในแม่น้ำ พลันรอบเอวกลับถูกรั้งไว้ด้วยมือหนาของใครบางคน รวมทั้งริมฝีปากที่ถูกทาบทับลงมา

สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

ทว่ามันช่วยให้ฉันรอดตาย

ไม่นานศีรษะก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมา

ฉันหอยหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม

ร่างบางพิงศรีษะของตัวเองไว้บนไหล่แกร่งของอีกฝ่ายก่อนพึงพำ “คุณเป็นใครกันแน่?”

สติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดค่อย ๆ เลือนลางลงจนภาพตรงหน้ามืดดับไป

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงในห้องนอนที่ไหนซักแห่ง

มือเรียวเลิกผ้านวมผืนหนาออกพลางมองดูเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่อยู่บนร่างกายตน

ดูก็รู้ว่านี้มันไซส์ผู้ชายชัด ๆ

ฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินเท้าเปล่าไปเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออก ขาเรียวก้าวไปยังระเบียงด้านนอก และพิจารณาคฤหาสน์หลังใหญ่นี้

เรียวตาเพ่งมองไปยังชายคนหนึ่งที่นั่งเล่นอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านล่าง

และแน่นอนว่าเขาคือคนเดียวกันกับชายเลือดอาบหน้าเมื่อคืน

เขาดูแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ฉันเคยเจอ บรรยากาศรอบตัวคนหน้าโหดนั่นเต็มไปด้วยความอึมครึม ดูเศร้าหมองแปลก ๆ

และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นฉันแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่เราจะจ้องตากันอยู่แบบนั้นพักใหญ่

ฉันสงสัย “ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?”

“คฤหาสน์ตระกูลชิค”

“ในเมืองถง?” ถามอีกครั้ง

“ใช่”

คนด้านล่างยังคงเอ่ยเสียงเรียบ

แคโรยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งพลันเอ่ยถาม “ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน?”

ร่างสูงหันหน้ากลับไป “แม่บ้าน”

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางหมุนตัวเดินกลับเข้าไปห้อง ข้างเตียงนั้นมีเสื้อผ้าสีสันสดใสจำนวนหนึ่งวางอยู่

ทว่าตอนที่กำลังถอดเสื้อกลับสังเกตเห็นรอยแผลบริเวณหัวไหล่ของตัวเอง นั่นทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออก

ถ้าโชคไม่ดี ฉันคงตายไปแล้ว

ฉันรีบเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงบันไดมาด้านล่าง ร่างสูงยังคงนั่งอาบแสงแดดอยู่ที่เดิมด้านนอกนั่น แคโรมองภาพตรงหน้าพลางเอ่ยบอกลา “ฉันไปก่อนนะ”

ทว่ากลับไปได้รับคำตอบจากเสียงเข้ม ฉันหันหลังให้เขาแล้วเดินออกมา

ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่ได้ถามชื่อของเขาเลย

โทรศัพท์และข้าวของทุกอย่างยังอยู่ที่เกสเฮ้าส์หลังนั้น แต่ใครมันจะกล้ากลับไปเอาล่ะ ฉันเลือกเดินเข้าร้านขายโทรศัพท์ก่อนจะซื้อซักเครื่องพร้อมซิมใหม่แทนอันเก่าไปพอแก้ขัด

และด้วยความที่ไม่มีเงินสดติดตัว ฉันเลยต้องต่อรองกับพนักงานว่าขอซื้อก่อนและจะโอนจ่ายให้เธอผ่านทางวีแชทเมื่อล็อกอินเครื่องได้

หลังจากซื้อโทรศัพท์ใหม่เรียบร้อย ฉันก็เลือกหาที่พักใหม่เป็นโรงแรมเล็ก ๆ สองสามดาวแทน

ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ดิกสันตามตัวเจอได้เหมือนครั้งก่อน

แคโรพักเหนื่อยอยู่ครึ่งค่อนวัน ก่อนจะนึกได้ว่ายารักษาโรคมะเร็งก็อยู่ในกระเป๋าที่เกสเฮ้าส์ด้วยเหมือนกัน นั่นเป็นสาเหตุให้ฉันต้องออกจากห้องและขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล

มือเรียวกดโทรออกหาหมอเจ้าของไข้ที่โรงพยาบาลเมืองอู๋และถามลิสรายชื่อยาที่ต้องใช้ พลางส่งข้อมูลให้กับหมอที่เมืองถง

ฉันทานยาทันทีที่ได้มันมาก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากโรงพยาบาล ทว่ากลับต้องเจอกับใครบางคนที่คิดว่าในชีวิตนี้จะไม่มีวันได้เจออีกแล้ว

เธอคือแฟนเก่าของ ฌอน ฟล็อก

แฟนเก่าที่โคตรขี้อิจฉา

มันเกือบจะดีแล้วถ้าเธอไม่หันมาเจอฉันเสียก่อน

เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งตอนที่ฉันไปหาฌอนเมื่อสองสามปีก่อน ครั้งนั้นเธอสาดแก้วไวน์แดงใส่หน้าฌอนเต็มๆ พร้อมสบทด่า “ไอ้ชั่วกับนังร่าน”

ฉันไม่อยากจะมีปากเสียงกับเธอจึงรีบก้าวเท้ายาว ๆ เพื่อให้พ้นจากสถานการณ์ตรงนี้ไปโดยเร็ว แต่เธอจำฉันได้ พลางยื่นมามาจับรั้งแขนฉันไว้ “โอ้ ฉันก็ว่าแล้วทำไมหน้าคุ้น ๆ เธอนี่เองนังตัวดี เป็นไงบ้างล่ะ? โดนฌอนเฉดหัวทิ้งหรือยัง? เพราะหน้าเธอมันอุบาทว์ใช่ไหม?”

ฉันได้แต่เงียบนิ่ง

ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกับเธอ

โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าร่างสูงของใครบางคนกำลังเดินมาจากทางด้านหลังของเธอ

เขาคือคนที่ฉันเอ่ยลาไปเมื่อเช้า

ทำไมโลกมันแคบแบบนี้นะ

แคบจนเจอแต่คนที่ไม่อยากเจอตลอด

เธอด่ากราดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าฉันไม่โต้ตอบ “คิดว่าฌอนชอบแกมากรึไง? เขามีผู้หญิงอีกเป็นร้อยเป็นพัน หรือเธออาจจะโง่จนคิดว่าเขารักเธอจริง”

ประโยคนั้นดังจนคนด้านหลังได้ยิน ฉันขมวดคิ้วก่อนโต้กลับ “ฌอนกับฉันแค่แกล้งเล่นกัน เธอคิดว่าฉันเป็นแบบเธอเหรอ? ที่ต้องคอยจับผู้ชายเพื่อประทังชีวิตแบบนั้น?”

ฉันยื่นมือออกไปตบที่ไหล่เธอเบา ๆ พลางยิ้มบาง “คนสวย โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก และเธอก็เป็นคนสวย ถ้าเธอเบื่อก็ออกไปท่องโลกกว้างซะ แล้วเธอจะเจออะไรอีกเยอะ”

ใบหน้าสวยของหล่อนบึ้งตึงด้วยความโกรธ ชายหนุ่มด้านหลังชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน ก่อนที่เขาสาวเท้าเดินผ่านเข้าไปในโรงพยาบาลราวกับไม่รู้จักกัน

แต่ก็นะ ฉันก็ไม่ได้แคร์

แคโรเบื่อที่จะต้องยืนเถียงกับหญิงสาวตรงหน้า มือเรียวกำถุงยาไว้แน่นก่อนจะรีบเดินออกมาจากที่นั้นทันที ทว่าผ่านไปไม่นานกลับมีเสียงเรียกเข้าจากฌอนเสียอย่างนั้น

“แฟนเก่าผมบอกว่าคุณโวยวายใส่เธอเมื่อครู่”

ฉันเนี่ยนะ?!

ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คำหยาบซักคำยังไม่มีเลยด้วย

“อาจจะมั้ง” ฉันตอบเนื่อย

ฌอนถามอีกครั้ง “คุณอยู่ในเมืองถงเหรอ?”

“ใช่” ฉันตอบ

“เรามาเจอกันหน่อยไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ