แคโรขมวดคิ้ว “คุณจะออกทางหน้าต่างเหรอ?”
ร่างสูงเงียบก่อนจะหันกลับมามองหน้าฉัน
“แผลเป็นนั่นโคตรน่าเกลียดเลย”
ฉันอึ้งกับคำพูดของเขา
ฉันลบเครื่องสำอางออกตั้งแต่ตอนที่มาถึงเกสเฮ้าส์ ฉันรู้ว่าแผลเป็นนี่น่าเกลียดขนาดไหน แต่ไม่คิดว่าประโยคนี้จะตรงมาจากคนแปลกหน้าที่ตัวเองพึ่งช่วยชีวิตไปเมื่อครู่
ริมฝีปากบางเม้มแน่นปนครุ่นคิด
ทว่าอีกฝ่ายกลับถามขัดเสียก่อน “เธอชื่ออะไร?”
เสียงนั่นยังคงทุ้มต่ำและแหบพร่า
ถึงเราจะคุณกันได้ปกติ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันควรจะบอกถึงชื่อเสียงเรียงนามของตัวเอง แต่ในเมื่อเขาถามออกมาแบบนี้ ฉันก็ควรจะพูดอะไรซักอย่างเพื่อลดความอึดอัด “แคลลี่ ชอว์” ฉันโกหก
เขาขมวดคิ้วเชิงสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร
เราสองคนเบนสายตาไปยังแม่น้ำที่ไหลเอื่อย ๆ ด้านนอกนั่น พลางคิดว่าเขาต้องโง่มากแน่ ๆ ถ้าคิดจะโดดหน้าต่างลงน้ำเพื่อหนี พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ร่างสูงก้าวขาปีนขึ้นขอบหน้าต่างด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด “ถ้าเธอไม่หนี พวกมันฆ่าเธอแน่”
ฉันถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “ใครนะ?”
เสียงเข้มย้ำกลับทันควัน “ก็คนที่อยากฆ่าฉันไง”
“คุณจะบอกว่าคนเคาะเมื่อกี้เป็นหนึ่งในพวกมันงั้นเหรอ?”
“ใช่ พวกมันรู้แล้วว่าฉันอยู่ที่นี่”
‘แล้วการที่เขาโดนตามล่ามันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?’
ฉันบอกปัด “ฉันไม่หนีไปกับคุณหรอก”
ทว่าทันทีที่พูดจบ กลับมีใครบางคนพังประตูเข้ามา พร้อมถือมีดพุ่งเข้าใส่เราทั้งคู่อย่างรวดเร็ว!
แคโรทำอะไรไม่ถูก เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยนะ
ร่างสูงดึงแขนฉันให้กระโดดลงมาจากหน้าพร้อมกัน ทว่าก็ไม่พ้นรัศมีของคมมีดที่กวัดแกว่งมา หัวไหล่ของฉันโดนบาดเป็นแผล
ฉันกลั้นความเจ็บปวดไว้ในขณะที่หล่นลงไปในแม่น้ำ
เพราะการดึงทึ่ไม่ทันได้ตั้งตัวของเขาทำให้ฉันลืมกลั้นหายจนสำลักน้ำ สายน้ำที่เอื่อยแต่ไหลตลอดนั้นทำให้ยากต่อการดำผุด ฉันพยายามเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำเพื่อรับอากาศ แต่กลับโดนแรงฉุดดึงลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
อากาศที่เริ่มน้อยนิดทำให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่ใบหน้าของคนที่ลอยเข้ามาในจิตใต้สำนึกก็ยังคงเป็นชายคนนั้น ดิกสัน เกร็ก คนเดิม
ถ้าฉันรอดไปได้ สัญญาเลยว่าไม่ยอมกลับไปเจอคนแบบนั้นอีกแล้ว
และก็จะไม่ยกโทษให้อีกเป็นครั้งที่สอง
ร่างกายของฉันเริ่มคลายตัวเองและค่อย ๆ จมลงไปในแม่น้ำ พลันรอบเอวกลับถูกรั้งไว้ด้วยมือหนาของใครบางคน รวมทั้งริมฝีปากที่ถูกทาบทับลงมา
สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ทว่ามันช่วยให้ฉันรอดตาย
ไม่นานศีรษะก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมา
ฉันหอยหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม
ร่างบางพิงศรีษะของตัวเองไว้บนไหล่แกร่งของอีกฝ่ายก่อนพึงพำ “คุณเป็นใครกันแน่?”
สติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดค่อย ๆ เลือนลางลงจนภาพตรงหน้ามืดดับไป
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงในห้องนอนที่ไหนซักแห่ง
มือเรียวเลิกผ้านวมผืนหนาออกพลางมองดูเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่อยู่บนร่างกายตน
ดูก็รู้ว่านี้มันไซส์ผู้ชายชัด ๆ
ฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินเท้าเปล่าไปเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออก ขาเรียวก้าวไปยังระเบียงด้านนอก และพิจารณาคฤหาสน์หลังใหญ่นี้
เรียวตาเพ่งมองไปยังชายคนหนึ่งที่นั่งเล่นอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านล่าง
และแน่นอนว่าเขาคือคนเดียวกันกับชายเลือดอาบหน้าเมื่อคืน
เขาดูแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ฉันเคยเจอ บรรยากาศรอบตัวคนหน้าโหดนั่นเต็มไปด้วยความอึมครึม ดูเศร้าหมองแปลก ๆ
และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นฉันแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่เราจะจ้องตากันอยู่แบบนั้นพักใหญ่
ฉันสงสัย “ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?”
“คฤหาสน์ตระกูลชิค”
“ในเมืองถง?” ถามอีกครั้ง
“ใช่”
คนด้านล่างยังคงเอ่ยเสียงเรียบ
แคโรยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งพลันเอ่ยถาม “ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน?”
ร่างสูงหันหน้ากลับไป “แม่บ้าน”
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางหมุนตัวเดินกลับเข้าไปห้อง ข้างเตียงนั้นมีเสื้อผ้าสีสันสดใสจำนวนหนึ่งวางอยู่
ทว่าตอนที่กำลังถอดเสื้อกลับสังเกตเห็นรอยแผลบริเวณหัวไหล่ของตัวเอง นั่นทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออก
ถ้าโชคไม่ดี ฉันคงตายไปแล้ว
ฉันรีบเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงบันไดมาด้านล่าง ร่างสูงยังคงนั่งอาบแสงแดดอยู่ที่เดิมด้านนอกนั่น แคโรมองภาพตรงหน้าพลางเอ่ยบอกลา “ฉันไปก่อนนะ”
ทว่ากลับไปได้รับคำตอบจากเสียงเข้ม ฉันหันหลังให้เขาแล้วเดินออกมา
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่ได้ถามชื่อของเขาเลย
โทรศัพท์และข้าวของทุกอย่างยังอยู่ที่เกสเฮ้าส์หลังนั้น แต่ใครมันจะกล้ากลับไปเอาล่ะ ฉันเลือกเดินเข้าร้านขายโทรศัพท์ก่อนจะซื้อซักเครื่องพร้อมซิมใหม่แทนอันเก่าไปพอแก้ขัด
และด้วยความที่ไม่มีเงินสดติดตัว ฉันเลยต้องต่อรองกับพนักงานว่าขอซื้อก่อนและจะโอนจ่ายให้เธอผ่านทางวีแชทเมื่อล็อกอินเครื่องได้
หลังจากซื้อโทรศัพท์ใหม่เรียบร้อย ฉันก็เลือกหาที่พักใหม่เป็นโรงแรมเล็ก ๆ สองสามดาวแทน
ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ดิกสันตามตัวเจอได้เหมือนครั้งก่อน
แคโรพักเหนื่อยอยู่ครึ่งค่อนวัน ก่อนจะนึกได้ว่ายารักษาโรคมะเร็งก็อยู่ในกระเป๋าที่เกสเฮ้าส์ด้วยเหมือนกัน นั่นเป็นสาเหตุให้ฉันต้องออกจากห้องและขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล
มือเรียวกดโทรออกหาหมอเจ้าของไข้ที่โรงพยาบาลเมืองอู๋และถามลิสรายชื่อยาที่ต้องใช้ พลางส่งข้อมูลให้กับหมอที่เมืองถง
ฉันทานยาทันทีที่ได้มันมาก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากโรงพยาบาล ทว่ากลับต้องเจอกับใครบางคนที่คิดว่าในชีวิตนี้จะไม่มีวันได้เจออีกแล้ว
เธอคือแฟนเก่าของ ฌอน ฟล็อก
แฟนเก่าที่โคตรขี้อิจฉา
มันเกือบจะดีแล้วถ้าเธอไม่หันมาเจอฉันเสียก่อน
เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งตอนที่ฉันไปหาฌอนเมื่อสองสามปีก่อน ครั้งนั้นเธอสาดแก้วไวน์แดงใส่หน้าฌอนเต็มๆ พร้อมสบทด่า “ไอ้ชั่วกับนังร่าน”
ฉันไม่อยากจะมีปากเสียงกับเธอจึงรีบก้าวเท้ายาว ๆ เพื่อให้พ้นจากสถานการณ์ตรงนี้ไปโดยเร็ว แต่เธอจำฉันได้ พลางยื่นมามาจับรั้งแขนฉันไว้ “โอ้ ฉันก็ว่าแล้วทำไมหน้าคุ้น ๆ เธอนี่เองนังตัวดี เป็นไงบ้างล่ะ? โดนฌอนเฉดหัวทิ้งหรือยัง? เพราะหน้าเธอมันอุบาทว์ใช่ไหม?”
ฉันได้แต่เงียบนิ่ง
ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกับเธอ
โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าร่างสูงของใครบางคนกำลังเดินมาจากทางด้านหลังของเธอ
เขาคือคนที่ฉันเอ่ยลาไปเมื่อเช้า
ทำไมโลกมันแคบแบบนี้นะ
แคบจนเจอแต่คนที่ไม่อยากเจอตลอด
เธอด่ากราดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าฉันไม่โต้ตอบ “คิดว่าฌอนชอบแกมากรึไง? เขามีผู้หญิงอีกเป็นร้อยเป็นพัน หรือเธออาจจะโง่จนคิดว่าเขารักเธอจริง”
ประโยคนั้นดังจนคนด้านหลังได้ยิน ฉันขมวดคิ้วก่อนโต้กลับ “ฌอนกับฉันแค่แกล้งเล่นกัน เธอคิดว่าฉันเป็นแบบเธอเหรอ? ที่ต้องคอยจับผู้ชายเพื่อประทังชีวิตแบบนั้น?”
ฉันยื่นมือออกไปตบที่ไหล่เธอเบา ๆ พลางยิ้มบาง “คนสวย โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นัก และเธอก็เป็นคนสวย ถ้าเธอเบื่อก็ออกไปท่องโลกกว้างซะ แล้วเธอจะเจออะไรอีกเยอะ”
ใบหน้าสวยของหล่อนบึ้งตึงด้วยความโกรธ ชายหนุ่มด้านหลังชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน ก่อนที่เขาสาวเท้าเดินผ่านเข้าไปในโรงพยาบาลราวกับไม่รู้จักกัน
แต่ก็นะ ฉันก็ไม่ได้แคร์
แคโรเบื่อที่จะต้องยืนเถียงกับหญิงสาวตรงหน้า มือเรียวกำถุงยาไว้แน่นก่อนจะรีบเดินออกมาจากที่นั้นทันที ทว่าผ่านไปไม่นานกลับมีเสียงเรียกเข้าจากฌอนเสียอย่างนั้น
“แฟนเก่าผมบอกว่าคุณโวยวายใส่เธอเมื่อครู่”
ฉันเนี่ยนะ?!
ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คำหยาบซักคำยังไม่มีเลยด้วย
“อาจจะมั้ง” ฉันตอบเนื่อย
ฌอนถามอีกครั้ง “คุณอยู่ในเมืองถงเหรอ?”
“ใช่” ฉันตอบ
“เรามาเจอกันหน่อยไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ