“ฉันแค่มาทำธุระ ไว้เจอกันครั้งหน้าแล้วกันนะ”
ฉันปฏิเสธคำชวนของฌอน และอีกฝ่ายก็จับผิดสังเกตนี้ได้ ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนที่จะเอ่ย “ผมทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม?”
ร่างบางก้มหน้าลงตอบเสียงเบา “เปล่าสักหน่อย”
“ผมไม่ได้คิดกับคุณแบบนั้นจริง ๆ อย่าคิดมากเลย”
ทว่าจู่ ๆ เสียงเข้มกลับเอ่ยโพล่งออกมาตรง ๆ ถึงสิ่งที่อยู่ในใจ ทำเอาฉันอึ้งไปครู่หนึ่ง อีกฝ่ายถอนหายใจและพูดต่อ “คุณคือเพื่อนสนิทของผมนะ ผมรู้ขอบเขตดี หวังว่าคุณจะไม่เครียดเกินไป”
หมอนั่นว่าฉันคิดมากไปเองจริง ๆ เหรอ?!
ฉันตอบเขากลับ “ฉันก็ไม่ได้หลงตัวเองขนาดนั้นหรอกหน่า”
“โอเค ถ้าคุณต้องการอะไรก็โทรบอกผมแล้วกัน”
“ได้ ไว้คุยกันใหม่” ฉันตอบปิดบทสนทนา
หลังจากกดวางสายก็เตรียมหันหลังเดินทางกลับไปที่โรงแรม ทว่าเมื่อถึงโรงแรมกลับเจอกับคนที่ทำให้หัวร้อนก่อนหน้านี้ยืนดักอยู่ตรงทางเดิน
ฉันพุ่งตรงเข้าไปหาเธอก่อนถาม “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
แคโรไม่เคยคิดเลยว่าแฟนเก่าของฌอนจะตามมาถึงที่นี่แถมยังพาพวกมาด้วยอีกสองคน หล่อนมองมาด้วยสายตาดูแคลนพลางหัวเราะเยาะ “เดาสิว่าฉันรู้ได้ยังไง?”
ฉันกัดฟันแน่น “เธอต้องการอะไร?”
ฉันไม่มีธุระกงการอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แต่ทว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดแบบนั้น
เธอเลิกกับฌอนไปแล้ว และถึงแม้ว่าฉันกับฌอนจะคบกันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอเลยซักนิด
เธอตอบกลับนิ่ง ๆ “ไสหัวไปจากเมืองถงซะ”
ฉันหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ฉันหัวเราะอยู่นานจนน้ำตาแทบเล็ด “ทำไมฉันต้องฟังเธอด้วย? เธอคิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกัน?”
แฟนเก่าของฌอนทำทีท่าเหม็นเบื่อที่จะคุยกับฉัน หล่อนขมวดคิ้วพลันสั่ง “เอาโทรศัพท์กับบัตรของยัยนั่นมาซะ”
พลันคนพวกนั้นก็เข้ามาจับยึดหัวไหล่ของฉันไว้ทันควัน ฉันพยายามบิดต่อต่อต้านแต่ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด เรียวตาคู่สวยจ้องหญิงสาวตรงหน้าเขม็งพร้อมเอ่ยขู่ “จะเอาไปก็ตามไป แต่พอฉันไม่มีอะไรเหลือฉันก็จะไปหาฌอน เดาว่าเธอคงไม่อยากให้ฌอน...”
ยังพูดไม่จบอีกฝ่ายก็สาวเท้าเข้ามาตบหน้าฉันดังฉาด ฉันค่อย ๆ เบือนหน้ากลับไปมองอย่างตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าฌอนจะเคยคบกับผู้หญิงร้ายกาจแบบนี้
ชายสองคนรื้อค้นจนเจอบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือของฉัน ก่อนจะปล่อยแขนสองข้างให้เป็นอิสระ ฉันโมโหจนคุมไม่อยู่แล้วตบหน้าหล่อนกลับอย่างแรง
มือเรียวนั่นจับลูบแก้มตัวเองด้วยความช็อค “นี่แกกล้าตบฉันเหรอ?”
ฉันจ้องกลับอย่างเชือดเฉือน “เพราะอะไรถึงคิดว่าฉันไม่กล้าล่ะ?”
คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ทำร้ายคนอื่นได้ฝ่ายเดียวหรือไง?
สมองยังดีอยุ่หรือเปล่านะยัยคนนี้?
ผู้หญิงของฌอนล้วนแล้วไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ พวกเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่มองดี ๆ แล้วยัยนี่คงเป็นพวกไฮโซเลเวลต่ำ ๆ
ดีแต่กดขี่ขู่เข็ญและหาสาระไม่ได้
นอกนั้นก็จะเป็นแนวเดียวกับเวนดี้ ที่จะยืมมือคนอื่นในการสร้างเรื่องเสียเอง
พวกที่มีระดับจริง ๆ จะไม่ยอมลดตัวลงแสดงกริยาต่ำ ๆ แบบนี้ต่อหน้าสาธารณชนแน่นอน ภายนอกพวกเธอจะดูเป็นมิตรน่าคบหาและไม่รุกรานใครก่อนง่าย ๆ
ซึ่งเวนดี้ก็ไม่นับว่าเป็นพวกชั้นสูงเพราะเธอยังแสดงอาการออกมาอยู่ร่ำไป
เอาจริงฉันยังไม่เคยเจอใครที่ถือว่าเป็นคนชั้นสูงเลยซักคน
แฟนเก่าของฌอนหน้าบูดเบี้ยวด้วยความโกรธก่อนจะตะโกนขึ้นมา “จัดการมันเดี๋ยวนี้!”
คนพวกนั้นตรงเข้ามาจับตัวฉันไว้ก่อนจะใช้มือต่อยลงที่ใบหน้าพร้อมขาที่เตะลงมาตามลำตัวฉันไม่หยุด ร่างบางทรุดลงไปบนพื้นพลางขนตัวด้วยความเจ็บปวด ถุงยาที่กำแน่นมาตลอดทางล่วงล่นระเกะระกะเต็มไปหมด
ฉันยกมือขึ้นปิดป้องศีรษะของตัวเอง พวกเขายังกระทืบลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งมีใครบางคนพุ่งเข้ามาซัดคนพวกนั้นให้ล้มลงกับพื้น รวมทั้งแฟนเก่าของฌอนด้วย
หล่อนล้มตัวลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ ก่อนจะหันไปมองกลุ่มของชายในชุดสูทกับรองเท้าหนังที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นขัดขวางแผนการของเธอ “พวกแกเป็นใคร?”
พลันเบนท์ลีย์สีดำคันสวยก็แล้นเข้ามาจอดตรงหน้า ก่อนที่คนขับจะก้าวเท้าลงมา
เขารีบวิ่งไปเปิดประตูหลังด้วยท่าทางเคารพนับถือ
อย่างกับว่าบอสใหญ่ของชายชุดดำเหล่านี้คือเขาอย่างนั้นแหละ
ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ฉันเห็นขายาวในกางเกงสูทสีดำเนื้อดีกำลังวาดขาออกมา ก่อนจะไล่สายตาขึ้นไปมองใบหน้าของชายคนนั้น
สันกรามคมที่รับกับใบหน้าหล่อเข้ม รวมทั้งสายตาที่เย็นยะเยือกยามสบตากันคู่นั้น ทุกอย่างนิ่งสนิทราวกับถูกแช่แข็ง
ร่างสูงเดินตรงเข้ามาทางฉัน ก่อนที่ชายชุดดำเหล่านั้นจะค่อมหัวให้เขาอย่างเคารพและเกรงกลัว
ขายาวก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ตรงหน้า ฉันจ้องมองเขาพร้อมกัดริมฝีปากไว้แน่น “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”
นัยน์ตาคู่คมดำขลับยังคงจ้องมาที่ฉันอย่างเงียบเชียบ ดูเหมือนเขาคงจะพูดไม่เก่งเท่าไหร่
ร่างสูงที่อยู่ตรงหน้านี้ดูหล่อเหลาผิดจากคนบ้าที่อาบไปด้วยเลือดเมื่อคืนอย่างกับคนละคน ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองได้ช่วยชีวิตคนแบบนี้
ดูเหมือนว่าเธอจะเจอกับคนมีอำนาจเข้าแล้วแคโร
ร่างสูงโค้งตัวลงมาโอบร่างของฉันขึ้นจากพื้น และฉันก็ยื่นแขนออกไปโอบรอบคอหนาอย่างไม่ลังเล
เขาอุ้มฉันขึ้นมาก่อนหันหลังก้าวออกไป ทว่าฉันรีบเอ่ยบอก “โทรศัพท์กับบัตรประชาชนของฉันยังอยู่กับเธอ”
แต่เมื่อมองดูที่พื้นกลับพบว่าพวกเขาทำลายโทรศัพท์และบัตรของฉันซะเละเลย ทำไมหล่อนถึงร้ายกาจแบบนี้นะ
คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจ “ช่างมันเถอะ”
ร่างสูงอุ้มฉันให้เข้าไปนั่งอยู่ในรถ และตามขึ้นมานั่งที่เบาะด้านข้าง ฉันถือวิสาสะขอยืมโทรศัพท์ของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ