“ใช่ครับ ชื่อจริงของคุณชิค คือ แซคคารี่ ชิค”
เลขารอยไขข้อสงสัยของฉันก่อนจะขอตัวกลับไป ฉันเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัวต่อ ไม่นานก็หลังจากเสร็จกิจ ก็สาวเท้าออกไปจากห้องเพื่อขอน้ำอุ่นจากแม่บ้าน
ฉันกินยาและตบท้ายด้วยน้ำอุ่นอีกหนึ่งแก้ว รู้สึกว่าร่างกายเริ่มผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิม แม่บ้านเดินกลับมาหาฉันพร้อมอาหารเย็น ฉันถาม “เจ้านายคุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“คุณชิคกำลังเรียนอยู่ค่ะ”
ร่างบางพยักหน้ากลับไปราวกลับไม่คิดอะไรแล้วเดินกลับห้องไป แคโรทานอาหารไปได้ไม่มากกลับรู้สึกอิ่มขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอถอนหายใจ ไม่มีโทรศัพท์แล้วโคตรน่าเบื่อเลย
มือเรียวจัดเสื้อเชิ้ตตัวขาวให้เรียบร้อยพลางเดินไปยังสวนด้านหลัง ข้างนอกอากาศเย็นทว่ายังพอทนได้
สาวรับใช้คนเดิมดูจะเป็นกังวล เธอรีบหอบเสื้อโค้ทสีดำตัวใหญ่มาให้ฉันใส่ทันที เมื่อสวมมันลงบนตัวถึงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนตัวเล็กไปซะงั้น มันคลุมยาวจนปิดข้อเท้า
แต่ฉันก็ไม่ใช่คนตัวเตี้ยอะไรซักหน่อย ฉันสูงร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตรเลยนะ
ทั้งสูงและมีรูปร่างดี ฉันไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่แซคคารี่พูดซะหน่อย
ทว่าเมื่อสาวรับใช้เห็นท่าทีสงสัยของฉัน เธอก็ยิ่มออกมาพลางอธิบาย “ชุดพวกนี้เป็นของคุณชิคค่ะ แล้วมันก็ไม่มีชุดอื่นแล้ว ถ้าจะให้ใส่ชุดของฉันเกรงว่าจะดูไม่เหมาะเอา ขออภัยด้วยนะคะคุณผู้หญิง!”
คนของแซคคารี่ล้วนสุภาพกับฉันแทบทุกคน ฉันตอบขอบคุณไปด้วยความจริงใจ ก่อนที่เธอจะส่ายหัวไปมา “คุณผู้หญิง ถ้าต้องการอะไรก็เรียกใช้ฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวตอนนี้ฉันขอตัวไปเตรียมอาหารค่ำก่อน”
เมื่อเธอเดินกลับไปก็เหลือเพียงฉันคนเดียวที่ยังอยู่ในสวนแห่งนี้ เดือนนี้คือเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้ต่างพากันเบ่งบาน
คฤหาสน์ของแซคคารี่ไม่ได้ดูอึมครึมเหมือนเจ้าของ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ เช่นดอกล่าเหมย ที่แปลว่าความหวานในฤดูหนาว ดอกอิ๋งชุนฮวาหรือต้นเหลืองชัชวาลย์ และดอกท้อสีชมพูที่บานสะพรั่ง
ทว่าสำหรับดอกล่าเหมยและดอกอิ๋งชุนฮวานั้นจะเริ่มบานน้อยลงในช่วงนี้ แต่ไม่ใช่กับดอกท้อที่กำลังอยู่ในช่วงผลิบานได้อย่างเต็มที่ แคโรเอื้อมมือไปหักกิ่งเล็ก ๆ ของต้นท้อที่โน้มลงมาใกล้ ๆ อย่างง่ายดาย
พลันนัยน์ตาก็จับจ้องไปยังดอกไม้แสนสวยตรงหน้าด้วยความพอใจ มือเรียวยกดอกไม้ขึ้นให้แตะกับปลายจมูกก่อนตะสูดดมกลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิที่หอมหวานนี้
ดอกท้อมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป
ความทรงจำในวันที่ดิกสันนั่งเฮลิคอปเตอร์ข้ามเมืองมาหาฉัน และยืนอยู่ใต้ต้นท้อสีสวยเหมือนกันกับฉันในตอนนี้กำลังวนเข้ามาในความคิด
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เพียงเพราะฉันบอกว่าฉันคิดถึงเขา
แคโร เธอเริ่มถลำลึกเกินไปแล้ว ฉันเขวี้ยงก้านดอกท้อในมือทิ้งก่อนจะเด็ดก้านดอกอิ๋งชุนฮวามาทัดข้างหูแทน ฉันเริ่มยิ้มออกมาพลันหันกลับสบเข้ากับดวงตาเย็นชาของใครบางคน
ฉันยิ้มให้เขาและเรียก “แซคคารี่”
ชายตรงหน้าขมวดคิ้ว “พี่รอง”
ฉันมองกลับอย่างไม่เข้าใจ “คุณว่าอะไรนะ?”
ร่างสูงยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องฉัน เขาคงหาฉันไม่เจอแล้วเดินลงมาตามที่สวนนี่ ฉันแทบไม่ได้สังเกตเลยว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ในสูทสีดำด้วยท่าทีสบาย ๆ
ใบหน้านั่นหล่อเหลายิ่งว่าดาราในละครหลังข่าวที่ฉันเคยเห็นเสียอีก
นอกจากนี้ฉันจำได้ถึงมือคู่นั่น นิ้วที่เรียวยาว อุ้งมือที่ขาวซีดทว่าดูแข็งแรง
ความจริงแล้วสูทเนื้อดีตัวนี้ปกปิดรอยบาดแผลเอาไว้มากมาย ไม่ผิดหรอกที่เขาไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยผิวของตัวเองเท่าไหร่
“เรียกฉันว่าพี่รอง”
ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากให้ฉันเรียกเขาว่าพี่รองล่ะ...
นี่เราสนิทกันแล้วหรือไง?!
พอเห็นฉันเงียบ เสียงเข้มก็พูดแทรกความเงียบระหว่างเรา “แคลลี่ ชอว์ เธอช่วยชีวิตฉัน เพราะฉะนั้นฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต”
ฉันแตกตื่น “อะไรนะ?”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
ฉันยังคงทำหน้าอึ้งอย่างกับคนโง่ที่ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาพูด แซคคารี่มุ่นหัวคิ้ว ก่อนเอ่ย “เรียกฉันว่าพี่รอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของฉันแล้ว”
เขาเงียบไปพักและพูดต่อ “ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องครอบครัวของฉัน และหลังจากนี้...”
ร่างสูงชะงักเหมือนอยากจะพูดต่อทว่าก็เงียบไป
ตั้งแต่นี้ ฉันคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเขา
“ขอบคุณนะ แต่คุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”
แคโรไม่ได้คุ้นเคยกับชายตรงหน้ามากนัก แต่ตระกูลชิคก็เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอย่างมาก ฉะนั้นสร้างมิตรดีกว่าศัตรูย่อมเป็นเรื่องที่ควรทำ
เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็ตอบรับเขาแต่โดยดี “ขอบคุณนะ พี่รอง”
ชายหนุ่มพยักหน้า “ดีมาก”
ความกล้าเกิดกลับมาอีกครา
แซคคารี่หมุนตัวเดินจากไป ก่อนที่เลขาของเขาจะเดินเข้ามาพร้อมนำโทรศัพท์มือถือรวมทั้งซิมการ์ดอันใหม่มาให้ ฉันสังเกตว่ามันเป็นรุ่นเดียวกันกับของแซคคารี่
ดูเหมือนเลขาจะอ่านใจฉันออก เขาเอ่ยขึ้น “คุณชอว์ นี่คือโทรศัพท์ที่ตระกูลชิคจัดทำขึ้นมาเอง ก่อนหน้ามีเพียงคุณชิคเท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ตอนนี้เขามอบสิทธินั้นให้คุณเช่นเดียวกันครับ”
และดูเหมือนแซคคารี่ปฏิบัติกับฉันอย่างกับคนในครอบครัวจริง ๆ
พูดตามจริงเราสองคนก็เป็นแค่คนแปลกหน้า
เราไม่ได้เป็นครอบครัวกันจริง ๆ แล้วก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้เหมือนญาติพี่น้องด้วย
เลขารอยเข้ามาช่วยฉันใส่ซิมการ์ด “เดี๋ยวผมช่วยบันทึกเบอร์ติดต่อของคุณชิคให้ครับ ในอนาคต ถ้าคุณมีปัญหาอะไร คุณสามารถโทรหาหรือมาพบเขาได้เลยครับ แล้วก็อีกซักพักผมต้องพาคุณไปเจอใครบางคน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ