หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 126

“ใช่ครับ ชื่อจริงของคุณชิค คือ แซคคารี่ ชิค”

เลขารอยไขข้อสงสัยของฉันก่อนจะขอตัวกลับไป ฉันเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัวต่อ ไม่นานก็หลังจากเสร็จกิจ ก็สาวเท้าออกไปจากห้องเพื่อขอน้ำอุ่นจากแม่บ้าน

ฉันกินยาและตบท้ายด้วยน้ำอุ่นอีกหนึ่งแก้ว รู้สึกว่าร่างกายเริ่มผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิม แม่บ้านเดินกลับมาหาฉันพร้อมอาหารเย็น ฉันถาม “เจ้านายคุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”

“คุณชิคกำลังเรียนอยู่ค่ะ”

ร่างบางพยักหน้ากลับไปราวกลับไม่คิดอะไรแล้วเดินกลับห้องไป แคโรทานอาหารไปได้ไม่มากกลับรู้สึกอิ่มขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอถอนหายใจ ไม่มีโทรศัพท์แล้วโคตรน่าเบื่อเลย

มือเรียวจัดเสื้อเชิ้ตตัวขาวให้เรียบร้อยพลางเดินไปยังสวนด้านหลัง ข้างนอกอากาศเย็นทว่ายังพอทนได้

สาวรับใช้คนเดิมดูจะเป็นกังวล เธอรีบหอบเสื้อโค้ทสีดำตัวใหญ่มาให้ฉันใส่ทันที เมื่อสวมมันลงบนตัวถึงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนตัวเล็กไปซะงั้น มันคลุมยาวจนปิดข้อเท้า

แต่ฉันก็ไม่ใช่คนตัวเตี้ยอะไรซักหน่อย ฉันสูงร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตรเลยนะ

ทั้งสูงและมีรูปร่างดี ฉันไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่แซคคารี่พูดซะหน่อย

ทว่าเมื่อสาวรับใช้เห็นท่าทีสงสัยของฉัน เธอก็ยิ่มออกมาพลางอธิบาย “ชุดพวกนี้เป็นของคุณชิคค่ะ แล้วมันก็ไม่มีชุดอื่นแล้ว ถ้าจะให้ใส่ชุดของฉันเกรงว่าจะดูไม่เหมาะเอา ขออภัยด้วยนะคะคุณผู้หญิง!”

คนของแซคคารี่ล้วนสุภาพกับฉันแทบทุกคน ฉันตอบขอบคุณไปด้วยความจริงใจ ก่อนที่เธอจะส่ายหัวไปมา “คุณผู้หญิง ถ้าต้องการอะไรก็เรียกใช้ฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวตอนนี้ฉันขอตัวไปเตรียมอาหารค่ำก่อน”

เมื่อเธอเดินกลับไปก็เหลือเพียงฉันคนเดียวที่ยังอยู่ในสวนแห่งนี้ เดือนนี้คือเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้ต่างพากันเบ่งบาน

คฤหาสน์ของแซคคารี่ไม่ได้ดูอึมครึมเหมือนเจ้าของ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้ เช่นดอกล่าเหมย ที่แปลว่าความหวานในฤดูหนาว ดอกอิ๋งชุนฮวาหรือต้นเหลืองชัชวาลย์ และดอกท้อสีชมพูที่บานสะพรั่ง

ทว่าสำหรับดอกล่าเหมยและดอกอิ๋งชุนฮวานั้นจะเริ่มบานน้อยลงในช่วงนี้ แต่ไม่ใช่กับดอกท้อที่กำลังอยู่ในช่วงผลิบานได้อย่างเต็มที่ แคโรเอื้อมมือไปหักกิ่งเล็ก ๆ ของต้นท้อที่โน้มลงมาใกล้ ๆ อย่างง่ายดาย

พลันนัยน์ตาก็จับจ้องไปยังดอกไม้แสนสวยตรงหน้าด้วยความพอใจ มือเรียวยกดอกไม้ขึ้นให้แตะกับปลายจมูกก่อนตะสูดดมกลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิที่หอมหวานนี้

ดอกท้อมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนจนเกินไป

ความทรงจำในวันที่ดิกสันนั่งเฮลิคอปเตอร์ข้ามเมืองมาหาฉัน และยืนอยู่ใต้ต้นท้อสีสวยเหมือนกันกับฉันในตอนนี้กำลังวนเข้ามาในความคิด

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

เพียงเพราะฉันบอกว่าฉันคิดถึงเขา

แคโร เธอเริ่มถลำลึกเกินไปแล้ว ฉันเขวี้ยงก้านดอกท้อในมือทิ้งก่อนจะเด็ดก้านดอกอิ๋งชุนฮวามาทัดข้างหูแทน ฉันเริ่มยิ้มออกมาพลันหันกลับสบเข้ากับดวงตาเย็นชาของใครบางคน

ฉันยิ้มให้เขาและเรียก “แซคคารี่”

ชายตรงหน้าขมวดคิ้ว “พี่รอง”

ฉันมองกลับอย่างไม่เข้าใจ “คุณว่าอะไรนะ?”

ร่างสูงยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องฉัน เขาคงหาฉันไม่เจอแล้วเดินลงมาตามที่สวนนี่ ฉันแทบไม่ได้สังเกตเลยว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่

เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ในสูทสีดำด้วยท่าทีสบาย ๆ

ใบหน้านั่นหล่อเหลายิ่งว่าดาราในละครหลังข่าวที่ฉันเคยเห็นเสียอีก

นอกจากนี้ฉันจำได้ถึงมือคู่นั่น นิ้วที่เรียวยาว อุ้งมือที่ขาวซีดทว่าดูแข็งแรง

ความจริงแล้วสูทเนื้อดีตัวนี้ปกปิดรอยบาดแผลเอาไว้มากมาย ไม่ผิดหรอกที่เขาไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยผิวของตัวเองเท่าไหร่

“เรียกฉันว่าพี่รอง”

ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากให้ฉันเรียกเขาว่าพี่รองล่ะ...

นี่เราสนิทกันแล้วหรือไง?!

พอเห็นฉันเงียบ เสียงเข้มก็พูดแทรกความเงียบระหว่างเรา “แคลลี่ ชอว์ เธอช่วยชีวิตฉัน เพราะฉะนั้นฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต”

ฉันแตกตื่น “อะไรนะ?”

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

ฉันยังคงทำหน้าอึ้งอย่างกับคนโง่ที่ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาพูด แซคคารี่มุ่นหัวคิ้ว ก่อนเอ่ย “เรียกฉันว่าพี่รอง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของฉันแล้ว”

เขาเงียบไปพักและพูดต่อ “ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องครอบครัวของฉัน และหลังจากนี้...”

ร่างสูงชะงักเหมือนอยากจะพูดต่อทว่าก็เงียบไป

ตั้งแต่นี้ ฉันคือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเขา

“ขอบคุณนะ แต่คุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้”

แคโรไม่ได้คุ้นเคยกับชายตรงหน้ามากนัก แต่ตระกูลชิคก็เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอย่างมาก ฉะนั้นสร้างมิตรดีกว่าศัตรูย่อมเป็นเรื่องที่ควรทำ

เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็ตอบรับเขาแต่โดยดี “ขอบคุณนะ พี่รอง”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ดีมาก”

ความกล้าเกิดกลับมาอีกครา

แซคคารี่หมุนตัวเดินจากไป ก่อนที่เลขาของเขาจะเดินเข้ามาพร้อมนำโทรศัพท์มือถือรวมทั้งซิมการ์ดอันใหม่มาให้ ฉันสังเกตว่ามันเป็นรุ่นเดียวกันกับของแซคคารี่

ดูเหมือนเลขาจะอ่านใจฉันออก เขาเอ่ยขึ้น “คุณชอว์ นี่คือโทรศัพท์ที่ตระกูลชิคจัดทำขึ้นมาเอง ก่อนหน้ามีเพียงคุณชิคเท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ตอนนี้เขามอบสิทธินั้นให้คุณเช่นเดียวกันครับ”

และดูเหมือนแซคคารี่ปฏิบัติกับฉันอย่างกับคนในครอบครัวจริง ๆ

พูดตามจริงเราสองคนก็เป็นแค่คนแปลกหน้า

เราไม่ได้เป็นครอบครัวกันจริง ๆ แล้วก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้เหมือนญาติพี่น้องด้วย

เลขารอยเข้ามาช่วยฉันใส่ซิมการ์ด “เดี๋ยวผมช่วยบันทึกเบอร์ติดต่อของคุณชิคให้ครับ ในอนาคต ถ้าคุณมีปัญหาอะไร คุณสามารถโทรหาหรือมาพบเขาได้เลยครับ แล้วก็อีกซักพักผมต้องพาคุณไปเจอใครบางคน”

ฉันขมวดคิ้ว “ใคร?”

“คนที่คุณชิคอยากจะให้คุณรู้จัก”

ไม่นานเลขารอยก็พาฉันมาพบกับชายคนหนึ่ง

ชื่อของเขาคือ โจชัวร์ เคนเนดี้

และเขาบอกให้ฉันเรียกเขาว่า พี่สาม

ครั้งที่เขาเห็นฉัน เจ้าตัวกลับพูดประโยคที่ฉันไม่เข้าใจออกมา “นี่คือคนที่พี่สองเลือกเหรอ? เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงเอง”

เลขารอยยิ้มพลางเอ่ย “คุณชิคสั่งให้ผมพาคุณชอว์มาพบคุณ และฝากบอกว่า ในอนาคตพวกคุณจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นพวกคุณควรช่วยเหลือดูแลกันและกัน”

เขายื่นมาออกมาพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดี แคลลี่ ชอว์”

ฉันชื่อแคโรไลน์ ชอว์ แต่เพราะโกหกแซคคารี่ไปเมื่อคืนก่อน

ทำให้ต้องปล่อยเลยตามเลยเสียแล้ว

มือเรียวยื่นออกไปจับกระชับมิตร ก่อนจะเรียกเขาว่าพี่สาม อีกฝ่ายอย่างพอใจ “เป็นเด็กดีจริง ๆ ยินดีที่ได้รู้จัก”

แคโรเงียบนิ่ง

เพราะความต้องการของแซคคารี่ ทำให้ฉันมีสมาชิกครอบครัวเพิ่มเข้ามาในชีวิตซะอย่างนั้น

เมื่อทักทายกันเรียบร้อย เลขารอยก็พาฉันกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลชิค ระหว่างทางเขาก็พูดขึ้นว่า “คุณชอว์ ในอนาคตหากคุณต้องการความช่วยเหลือ คุณติดต่อเราได้ครับ เราจะช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ”

อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้ผลประโยชน์ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

“โอเค ขอบคุณนะ”

ฉันวางแผนค้างที่คฤหาสน์อีกซักคืนก่อนจะเดินทางกลับเมืองอู๋ ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องกลับไป และถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องน่าปวดหัวที่รออยู่ก็ตาม

หญิงสาวทิ้งตัวลงนอน ปิดตาลงพลางบังคับให้ตัวเองหลับ และไม่นานเธอก็หลับไปและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของอีกวัน

ไม่มีใครมาปลุกเลยซักคน

ร่างบางลุกขึ้นยืนพร้อมก้าวเท้าไปยังตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเห็นชุดสำหรับสตรีแขวนไว้มากมายให้เลือก แม้ว่าจะดูเหมือนชุดลำลองธรรมดา แต่เนื้อผ้ากลับดีเยี่ยมเหมาะมือ

ฉันเปลี่ยนใส่ชุดกระโปรงสีโอรส พร้อมสวมถุงน่องและเสื้อกันลมเพื่อช่วยป้องกันอากาศเย็นด้านนอก

ทว่าเมื่อก้าวออกมาจากห้องกลับไปเห็นแม้แต่เงาของแซคคารี่ ฉันถามสาวใช้คนเดิมว่าเขาอยู่ที่ไหน

เธอตอบว่า “คุณชิคกำลังเรียนอยู่ค่ะ”

หญิงสาวด้านหน้าพาฉันเดินไปยังห้องเรียนที่ว่า มือบางยกขึ้นเคาะเบา ๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเข้มเอ่ยตอบรับจากด้าน “เข้ามา”

เสียงของเขานั้นทุ้มต่ำทว่าน่าดึงดูด

ฉันผลักประตูเข้าไป ก่อนจะเห็นร่างสูงที่นั่งก้มหน้าจดจ้องอยู่กับเอกสารพร้อมปากกาในมือ ใบหน้าคมคายเงยขึ้นพลางเอ่ยปาก “ต้องการอะไรหรือเปล่า?”

ฉันอธิบายตอบ “ฉันจะไปแล้ว”

“โอเค เดินทางปลอดภัย”

ฉันไม่ได้บอกว่าตัวเองจะไปไหน

และเขาก็ไม่ได้ถามถึงจุดหมายปลายทางของฉันเช่นกัน

เหมือนกับเมื่อวาน ที่เขาไม่ได้รั้งฉันให้อยู่ที่นี่

แถมยังไม่พยายามค้นหาสถานะของฉันอย่างที่ตนสงสัยอีกด้วย

ทว่าเขายังจำฉันได้เมื่อเราเจอกันที่โรงพยาบาล

และตอนนี้ก็ให้ฉันเรียกตัวเองว่าพี่รองอีก

รวมทั้งสัญญาว่าจะปกป้องฉันไปตลอดชีวิต

แคโรครุ่นคิดอยู่พัก พลันเอ่ย “ลาก่อน พี่รอง”

ฉันไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะเจอกันอีกไหม แต่เพียงแค่ความอบอุ่นที่ฉันได้รับจากเขาเมื่อวานนี้

ฉันจะจำมันไปตลอดชีวิตเลยล่ะ

ร่างสูงส่งเสียงอืมกลับมาเบา ๆ ฉันหมุนตัวเดินออกมาจากคฤหาสน์ก่อนจะโบกแท็กซี่ไปโชว์รูมโฟร์เอสเพื่อรับโรลว์ รอยซ์ ลูกรักกลับเมืองอู๋

ทว่าข่าวร้าย ลูกรักของฉันยังซ่อมไม่เสร็จ

ดังนั้นจึงให้เบอร์ติดต่อของฌอนกับพนักงานไปแทน หากรถซ่อมเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็จะติดต่อฌอนไปเพื่อให้เขามารับรถ

ระหว่างที่ออกมาจากโชว์รูม ฉันก็จำได้ว่าหัวไหล่ได้รับบาดเจ็บจากคืนนั้น แถมฉันยังตกใจกัดแซคคารี่ด้วย

แคโรกลับไปที่โรงพยาบาลพร้อมเปลี่ยนชุดใหม่เพื่อเดินทางไปสนามบิน

เมื่อถึงสนามบินก็มีเสียงเรียกเข้าจากฌอนโทรเข้ามาเสียก่อน

ปลายสายพูดอย่างรู้สึกผิด “ผมจัดการกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ”

ฉันพึมพำตอบรับ “ขอบคุณมากนะ”

“ไม่เป็นไร เพราะผมคุณถึงแต่เจอเรื่องแบบนี้”

เมื่อพูดจบฌอนก็เงียบไปเหมือนลังเล ก่อนจะพูดออกมาในที่สุด “คุณรู้จักกับแซคคารี่เหรอ?”

ฉันถามกลับทันที “ทำไมเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ