หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 131

ดิกสันไม่ได้รู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างควินซี่กับตระกูลชอว์ นั่นทำให้เขาคิดน้อยไป และหลงเชื่อว่าการแต่งการกับหล่อนจะสามารถช่วยชีวิตฉันได้จริง

ทว่าควินซี่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี้กับดิกสัน ทำไมเธอถึงอยากแต่งงานกับเขากันล่ะ?

หรือเธอแค่อยากป่วนความสัมพันธ์ระหว่างเราเฉย ๆ

“ผมจะคอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอรักษาคุณได้จริง ๆ”

ดิกสันยังคงพยายามพูดเชิงโน้มน้าวให้ฉันเข้าใจ แคโรขืนตัวออกจากร่างสูงอีกครั้ง พลางเงยหน้าขึ้นสบตาแน่วแน่ “ถ้าเธอทำไม่ได้ล่ะ?”

เขากัดริมฝีปากก่อนเอ่ย “อย่างน้อยก็ได้ลองพยายามดูแล้ว”

ลองบ้าบออะไร?!

ลองแต่งกับยัยนั่นน่ะเหรอ?

ฉันหน้าบึ้งตึงด้วยความโมโห “ชีวิตฉันไม่ใช่การกุศล”

ว่าจบพลันก้าวฉับ ๆ มาที่รถของตัวเองทันที มือเรียวเปิดประตูรถสอดตัวเข้าไปก่อนกดสตาร์ท ฉันเตรียมปิดประตูเพื่อออกไปจากที่นี่ แต่ดิกสันกลับคว้าข้อมือของฉันไว้ แล้วดึงให้ออกมาจากรถ “แคโรไลน์ กลับบ้านกับผมเถอะ”

เสียงเข้มพูดพร้อมเบนสายตาไปยังคฤหาสน์ตระกูลชอว์

“ดิกสัน เราเลิกกันเถอะ”

ฉันไม่อยากกลับไปอยู่กับวังวนความรู้สึกแย่ที่ไม่รู้จบนี่

ฉันกลัวและเจ็บปวดที่โดนเขาทำร้ายกันครั้งแล้วครั้งเล่า

แม้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่อฉันก็ตาม

ดวงตาคู่คมของเขาเข้มขึ้น และจ้องกลับเข้ามาในดวงตาของฉัน “แคโรไลน์ ผมจะไม่ปล่อยมือไปจากคุณ ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ฉันฟังและเอ่ยถามเสียงเรียบ “คุณจะแต่งงานกับเธอไหม?”

ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ให้อภัยดิกสันอีกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดใดทั้งสิ้น ทว่าครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกว่าต้องให้โอกาสเขา เพื่อหัวใจของตัวเอง

ดิกสันจริงจังเกินไปเกี่ยวกับการรักษาของฉันจนถึงขั้นที่ต้องยอมลดตัวทำตามคำขอไร้สาระของคนแปลกหน้าอย่างควินซี่ อนาคตของเราที่เคยสั่นคลอนไม่สามารถเป็นอุปสรรคต่อเขาแล้ว ในเมื่อเจ้าตัวเชื่อจนหมดใจว่าหากเลือกทางนี้แล้วจะมีฉันอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า

แต่ตอนนี้ ฉันเหนื่อยเกินทนจริง ๆ

สัญลักษณ์หมดอายุขัยที่ประทับลงบนร่างกายนี้ยังคงอยู่ สิ่งที่ฉันต้องการในตอนนี้มีเพียงใจที่เต็มไปด้วยความรักของเขา ไม่ใช่การรักษาด้วยเคมี

และที่สำคัญที่สุด ฉันไม่ต้องการให้คนรักของตัวเองยอมก้มหัวให้ใครแบบนี้

ความสามารถของควินซี่และความต้องการที่จะช่วยของเธอนั้นไม่สำคัญอะไรเลย เพราะฉันไม่ยอมให้ศัตรูมาป้อนข้าวป้อนยาตัวเองหรอกนะ

คำถามเมื่อครู่ทำให้ร่างสูงนิ่งงันพลางใช้มือหนาลูบแก้มฉันแผ่วเบา “ผมแค่อยากให้คุณกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง”

“ดิกสัน ฉันไม่ยอมให้ควินซี่มาวุ่นวายกับร่างกายของฉันเด็ดขาด”

“เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณ?” เสียงเข้มถามอย่างไม่เข้าใจ “เธอบอกว่าพวกคุณเคยสนิทกันมาก แต่ทำไมเธอถึงแยกเราออกจากกันล่ะ? แคโรไลน์ เธอมีปัญหาอะไรกับคุณ?”

เป้าหมายหลักของเธออาจจะไม่ใช่ใช่ฉัน แต่เธอก็เกลียดตระกูลชอว์เข้าไส้ แถมฉันยังเป็นหนึ่งคนของตระกูลด้วย

แคโรพยายามอธิบายเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างควินซี่และตระกูลแบบพอสังเขป “แต่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อแยกเราออกจากกัน และฉันมั่นใจว่านี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น”

ควินซี่มาเพราะไตของฉัน

ดิกสันกำลังคิดไตร่ตรองจากสิ่งที่ฉันพูด เขาเงียบไปอยู่นาน ขนในที่สุดก็พูดออกมา “งั้นเราก็ไม่วางใจเธอ แต่ยังไงคุณก็ต้องเข้ารับการรักษา... แคโรไลน์ ถ้าสูญเสียคุณไปอีกผมคงจะรู้สึกตายทั้งเป็นแน่นอน”

ฉันจ้องมองเงาของตัวเองที่สะท้อนจากนัยน์ตาของเขา ความเจ็บปวดนั่นเหมือนกับความเจ็บปวดที่ฉันเคยเจอในวันวาน ใบหน้าที่ซีดเซียว ความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วอะนูของร่างกายทำให้ได้แต่คิดว่าชีวิตนี่มันเส็งเคร็งดีแท้

ในหัวสมองตื้อไปหมด รวมทั้งจิตใจที่ปั่นป่วน

“ดิกสัน ฉันอยากจะออกจากเกมรักนี่ซักที”

ในอนาคตยังมีเรื่องยุ่งยากอีกมากมายรออยู่และฉันก็ไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้

ทว่าดิกสันกลับเงียบ

มือหนาคลายออกจากข้อมือของฉัน ร่างบางหมุนตัวก้าวขึ้นรถก่อนจะขับออกมาจากคฤหาสน์ทันที เมื่อถึงอพาร์ตเมนต์ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเห็นข้อความจากดิกสัน

มันเป็นเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ แต่กระชับ “ผมยินดีที่จะรอคุณอยู่ตรงนี้เสมอ”

เขารู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นและยอมรับมันอย่างเต็มใจโดยที่ไม่กล่าวโทษกันเลยซักนิด ดิกสันไม่ผิดที่ไม่รู้ แต่ผิดที่คิดแทนฉัน ส่วนคนที่รู้เรื่องทั้งหมดอย่างฉันย่อมมองการไกลไปกว่านั้น

มือเรียวโยนโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงพลันเกินเข้าห้องน้ำไป

ภาพความทรงจำในคืนที่โดนใครบางคนปิดปากฉันและกระโดดลงไปในแม่น้ำด้วยกันเมื่อสองวันก่อนวนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง

คนคนนั้นมีแต่ออร่าความเย็นชาและเยือกเย็นแผ่ออกมาจากร่าง แม้กระทั่งตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บ อีกฝ่ายก็จะควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ดี

แต่เพราะลักษณะแบบนี้แหละ ถึงทำให้เขาดูแตกต่างจากคนอื่นที่ฉันรู้จัก

แคโรมุดน้ำอยู่ในอ่างซักพักก่อนจะลุกขึ้นคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบตัว ทว่าวินาทีที่ลึกจากน้ำ ฉันสัมผัสได้ดีเลยว่าอาการป่วยขอฃตัวเองเริ่มแย่ลงกว่าเดิม

แต่ฉันก็เดินไปยังห้องนั่งเล่นอย่างไม่ใส่ใจ

ห้องนั่งเล่นถูกต้องแต่งด้วยสีโทนอุ่นดูสบายตา แคโรทิ้งตัวลงบนโซฟาพลางหยิบโทรศัพท์มือถือที่ได้จากแซคคารี่มาเล่นเกม

คำอธิบายของเลขารอยที่บอกว่าฉันใช้โทรศัพท์แบบเดียวกับเขาสะกิดต่อมใคร่รู้ของฉัน

เล่นเกมไปพักหนึ่งก็ได้รับข้อความจากลอเรน: “ขอบคุณนะคะพี่แคโรไลน์ ฉันได้ยินจากพ่อบ้านแล้วว่าพี่กับพี่ชายเป็นคนพาฉันกลับบ้าน”

ฉันตอบงึมงัมกลับไปแบบปัด ๆ

ลอเรนตอบมาอีกครั้ง “ฉันพึ่งตื่นและรู้สึกหัวตื้อมาก เดี๋ยวฉันขอไปสูบบุหรี่ก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันใหม่”

ลอเรนสูบบุหรี่ด้วยเหรอ...

ฉันเองก็อยากสูบเหมือนกัน

แต่ก็ได้แค่พูด ฉันไม่กล้าสูบหรอก

มือเรียววางโทรศัพท์ลงบนโซฟาพลางหลับตาลงและถอนหายใจ ทว่าไม่นานกลับผล็อยหลับไปทั้ง ๆ อย่างนั้น พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่เสียแล้ว

ฉันหยิบโทรศัพท์มาเช็คข้อความ ก่อนจะอ่านข้อความที่ลอเรนส่งกลับมาตั้งแต่เมื่อคืน “พี่แคโรไลน์ ฉันตัดใจจากเขาแล้วนะ”

เธอหมายถึงแลนซ์

แคโรขยับบิดนวดร่างกายของตัวเองพลางพิมพ์ตอบกลับไป “ทำไมล่ะ?”

แล้วทิ้งมันไว้แบบนั้นพร้อมเดินเข้าไปอาบน้ำตอนรับเช้าวันใหม่

ชีวิตของฉันค่อนข้างจะต่างกันเมื่ออยู่ในเมืองถงกับเมื่องอู๋ ในเมืองถงจะแต่งตัวยังไงก็ได้ แต่หากกลับมาเมืองอู๋เมื่อไหร่ ความหรูเลิศเท่านั้นที่จะสัมผัสได้จากตัวฉัน

ฉันเปลี่ยนชุดเป็นมินิเกรสตัวสีดำสั้น สีดำที่มีมังกรสีทองเลื้อยเป็นลายยาวสวยจรดความยาวของชุด ส่วนแขนเสื้อก็จะมีลายมังกรอีกแบบที่ต่างกันไปเพื่อความสวยงาม รวมทั้งปลายชุดที่รอบล้อมด้วยระบายลูกไม้สีเงิน

มันเป็นสไตล์ที่ดูเป็นผู้ดีและสวยงามหายาก

นิ้วเรียบสวยแต่งแต้มใบหน้า ปกปิดรอบแผลเป็นนั่นพร้อมดัดปรอยผมด้านข้างให้เป็นลอนสวย ฉันรวบผมของตัวเองขึ้นและเกล้าผมให้เป็นมวยสวย ตบท้ายด้วยกิ๊ฟติดผมประกายเพชรแวววาว

ฉันเขียนอายไลเนอร์เส้นเล็กพลางตวัดปลายหายขึ้นเล็กน้อยให้ดูเฉี่ยว

ก่อนจะมองภาพในกระจกที่สะท้อนให้เห็นหญิงที่สวยและน่ามอง

เธอไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่แซคคารี่พูดซะหน่อย

คำพูดของเขายังคงวนเวียนอยู่ในใจและว่าง่าย ๆ มันทำให้ฉันเสียศูนย์ที่ครั้งที่นึกถึง บางทีฉันคงต้องไปเอารอยออกซักวัน

ฉันกินยาตบท้ายแล้วจึงหยิบกุญแจรถเพื่อขับไปออฟฟิศ

แคโรไปถึงบริษัทค่อนข้างเช้ากว่าปกติ แต่ดูเหมือนว่ายังไก็ยังไม่ชนะเลขาคนเก่งคนนี้ ฉันแกล้งพูดเสียงเบา “สองสามวันที่ผ่านมายุ่งมากไหมชัค?”

ผู้ช่วยคนเก่งถอนหายใจพลางเอ่ย “ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลเยลค่อนข้างเดาได้ยาก พวกเขาเชิญคุณไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ และครั้งนี้เราไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นคงต้องขึ้นเครื่องไปที่เมืองเอในเย็นวันนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ