ยังมีงานเลี้ยงอะไรที่น่าสนใจในตอนนี้อีก?
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “งานเลี้ยงอะไร?”
เลขาของฉันพูดขยายความ “งานเลี้ยงครบรอบวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีของนายท่านเยลครับ ตอนแรกพวกเขาจะจัดงานเลี้ยงในต่างประเทศ ทว่าช่วงนี้สถิติหุ้นของตระกูลเยลดูน่าจะไม่ดีเท่าที่ควร นายท่านเยลจึงต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อกู้หน้าให้ตัวเอง และเพื่อเป็นการเลี้ยงไถ่โทษให้คุณด้วยครับประธานชอว์”
งานเลี้ยงจัดขึ้นเพื่อฉัน คงจะปฏิเสธคำเชิญนี้ไม่ได้สินะ
ฉันคิดก่อนเอ่ยบอกเลขา “เตรียมของขวัญได้ด้วยล่ะ”
“ได้ครับ ไว้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
ฉันพยักหน้ารับแล้วหันหลังกลับไปที่ออฟฟิศของตัวเองหลังจากที่ชัคพูดจบ บนโต๊ะทำงานตรงหน้าเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารมากมาย มือเรียวหยิบปากกาขึ้นมาเริ่มจัดการกับงาน
แม้ว่าแคโรจะไม่ค่อยได้เข้ามาจัดการกับงานในบริษัทด้วยตัวเอง แต่ด้วยประสบการณ์ที่มากล้นจากหลายปีที่ผ่านมำให้ฉันสามารถตรวจสอบความถูกต้องของงานได้อย่างไว
มือเรียวเซ็นเอกสารแผ่นสุดท้ายเสร็จลงในช่วงบ่าย ชัดเดินเข้ามาเก็บงายถูกอย่างให้เรียบร้อยแล้วพาฉันไปทานอาหารที่ภัตตาคารด้านนอกบริษัท และเมื่อทานเสร็จก็มุ่งตรงไปขึ้นเครื่องที่สนามบินทันที
นกยักษ์แตะพื้นสนามบินเมืองเอประมาณสี่โมงเย็น มันเร็วไปที่เดินทางไปยังงานเลี้ยง ฉันจึงหันไปบอกกับชัคว่าอยากไปเดินช้อปปิ้งฆ่าเวลาซักหน่อย
หญิงสาวเดินดูของไปทั่วห้างด้วยอารมณ์สุนทรี แต่ไม่มีอะไรเตะตาเป็นพิเศษเลย ท้ายที่สุดจึงเลี้ยงซื้อแหวนมาสองวง ต่างหู และเครื่องสำอางเล็ก ๆ น้อย ๆ
เราทั้งคู่เดินกลับมาที่รถ ฉันลบลิปสติกสีเดิมออกก่อนจะหยิบลิปสติกแท่งใหม่ออกมาทา “เป็นไง?”
ชัคตอบพร้อมเสียงเชียร์ “มันสวยมากครับ”
พอรถเคลื่อนตัวออกไป ชัคก็ย้ำกับฉันอีกครั้ง “ประธานชอว์ วันนี้คุณดูมีชีวิตชีวามากเลยครับ นานแล้วที่คุณไม่ได้เดินช้อปปิ้งแล้วสนุกกับมันแบบนี้”
ริมฝีปากสีสวยยกยิ้ม “แล้วจำไปด้วยเหรอที่จะต้องดูซึมซังกะตายแบบนั้น?”
“ตลอดสามปีที่คุณแต่งงานกับประธานเกร็ก แต่น้อยครั้งมากที่คุณแสดงออกว่าคุณมีความสุข ตอนนี้คุณก็เคยไปช้อปปิ้งแบบนี้ แต่มันก็น้อยลงทุกทีจนผมแทบไม่เห็นคุณไปไหนเลย ประธานชอว์ ผมว่าคุณเอาความทุกข์ใส่ตัวมากเกินไปหน่อย”
ฉันเม้มปากสีสวยอีกครั้งพลางเอ่ย “แต่ก่อนฉันเอาแต่ดื้อที่คิดจะยื้อไว้อย่างเดียว แต่ตอนนี้ฉันปล่อยวางมากขึ้นแล้วเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างฉลาดและรักตัวเอง”
ชัคพูดเสียงจริงจัง “ประธานชอว์ คุณยังสาวอยู่เลยนะครับ”
“ชัค ฉันอาจจะตายตอนไหนก็ได้ใครจะรู้”
ฉันอาจจะหมดลมหายใจไปเลยตอนไหน หรือที่ไหนก็ได้ โดยปราศจากการเตือนใดใด
แม้ว่าดิกสันจะเคยบอกว่าควินซี่ช่วยฉันได้ แต่ใครมันจะไปเห็นด้วยล่ะ แคโรไม่ต้องการความช่วยเหลือที่แฝงด้วยคมดาบนั่น แค่ปล่อยฉันให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็นก็เพียงพอแล้วที่จะยื้อชีวิตนี้ต่อไปอีกได้
หากร่างกายนี้สามารถอดทนรอจนถึงวันที่การรักษาของฝั่งเฮนรี่พัฒนาขึ้นแล้ว นั่นก็จะถือว่าเป็นโชคดีของฉัน แต่ถ้าไม่ ฉันก็จะยอมรับในโชคชะตาของตัวเอง
ไม่ใช่ว่ายอมแพ้ที่จะมีชีวิตรอด ประเด็นอยู่ที่ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากควินซี่และติดค้างเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้ สิ่งที่เธอต้องการจริงๆ ก็คือไตของฉัน ดังนั้นหากฉันรับการรักษาก็ต้องแลกกับไตนี้ และการวนลูบเพื่อยื้อชีวิตก็จะเกิดขึ้นต่อไปไม่จบไม่สิ้น
“ประธานชอว์ อย่าเครียดไปเลยครับ”
เลขาคนเก่งคงรู้ว่าฉันเครียดแต่ไม่รู้จะปลอบยังไง “ไม่เป็นไรชัค เราไปงานเลี้ยงกันเลยดีกว่า”
แมนชั่นของตระกูลเยลตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง กว่าเราทั้งคู่จะเดินทางไปถึงก็ฟ้ามืดเสียแล้ว ชัดช่วยเช็คเรียงข้อมูลให้ฉันอีกรอบ “งานเลี้ยงครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่แปดสิบครั้งนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ตระกูลเยลส่งจะหมายเชิญไปยังไฮโซทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศเช่นกัน ประธานเกร็ก ตระกูลคอนเนอร์ และตระกูลคุกก็เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นกันครับ พูดง่าย ๆ ก็คือคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตระกูลเยลจะได้รับเชิญมาหมด”
“เฮนรี่จะมาไหม?”
“ครับ คุณคุกก็จะมาด้วย”
บ้านตระกูลเยลคงเต็มไปด้วยคนเป็นแน่
สิ่งแรกที่ฉันกับชัคทำเมื่อเดินเข้าไปในงานเลี้ยงตามหานายท่านใหญ่ของตระกูลเยล เมื่อเขาสังเกตเห็นฉัน ชายชราก็รีบลุกขึ้นจากรถเข็นไม้ขัดมันคันงามพลันเอ่ยเรียกแคโร
ก็คงไม่แปลกมี่เขาจะเรียกฉันแบบนั้นเพราะอายุที่มากกว่า ร่างบางสาวเท้าเดินไปกล่าวทักทายด้วยท่าทางสุภาพ “นายท่านเยล ฉันขอให้คุณสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นไปทุกปีนะคะ แล้วก็ ฉันเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ด้วย”
เขากุมมือของฉันก่อนตอบ “แคโรไลน์ คุณช่างเป็นคนที่จิตใจดีจริง ๆ มันเป็นความผิดผมเองที่ปล่อยให้คนในตระกูลทำกริยาเสื่อมเสียใส่คุณแบบนั้น”
ชายชราโค้งต่ำให้เชิงขออภัย นี่มันเกินกว่าที่ผู้น้อยอย่างฉันจะได้รับ แคโรรีบก้มโค้งตอบรับคนตรงหน้าทันทีพร้อมพูดเสียงเรียบ “เราเลิกยึดติดกับอดีตที่ผ่านไปแล้วเถอะคะ”
นายใหญ่ยิ้มพลางกระชับมือของฉัน “คุณเป็นเด็กที่มีเหตุผลและน่าชื่นชมมาก ถ้าเวนดี้ได้ครึ่งของคุณก็คงจะดี ผมจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมาก”
ฉันเบนสายตาไปยังเวนดี้เมื่อได้ยินประโยคนั้น เธอเป็นผู้สืบคนเดียวของชายชรา เธอเกิดตอนที่ชายตรงหน้าอายุห้าสิบกว่าแล้ว ดังนั้นเขาถึงพยายามทุ่มเทให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวและหวังจะให้เธอได้ดิบได้ดี ทว่าในใจลึก ๆ ก็คงรู้ว่าลูกของตนยังมีจุดบ่งพร่องอยู่มาก
ทว่าด้วยระยะทางที่ไกลจากจุดที่เวนดี้ ทำให้เธอไม่สามารถเดาถึงส่งที่ฉันและพ่อของเธอกำลังพูดกันอยู่ได้ พลันสาวเจ้าก็ลุกพรวดจากที่นั่งแล้วเดินตรงเข้ามายังจุดที่เรายืนอยู่
ฉันแสร้งยิ้มออกไป “คุณเยล เธอก็มีด้านที่เก่งกาจของตัวเองนะคะ”
นายท่านเยลถอนหายใจ “ผมก็หวังแบบนั้น”
ฉันหมุนตัวออกมาจากสองพ่อลูกเมื่อจบบทสนทนา
บริเวณด้านแมนชั่นและภายในงานจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยอาคันตุกะมากหน้าหลากตา แคโรเลือกปลีกตัวเดินไปยังสวนด้านหลังพร้อมภาวนาให้เจอญาติผู้พี่ซักนิดก่อนกลับ
วิวจากระเบียงของสวนด้านหลังนั่นสวยมาก ขาเรียวเดินไปยังน้ำพุกลางสวนแล้วหยิบมือถือขึ้นมากด ทว่าก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเวนดี้เดินเข้ามาหาฉันพร้อมเกวนที่อยู่ด้านหลังของเธอ
ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ สิให้ตาย
ฉันเคยคิดว่าบ้านของคนตระกูลเยลคงจะไม่น่าอันตรายเท่าไหร่เพราะพวกเขาคงไม่กล้าวางแผนทำอะไรกระโตกกระตากในพื้นที่ของตัวเอง แต่ฉันกลับลืมยับนี่ไปเสียสนิท เกวน เวิร์ท
ส้นเข็มสีสวยแวววาวหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของฉัน ร่างบางเงยหน้าขึ้นก่อนเห็นเวนดี้ผู้ซีดเซียวเดินเข้ามาใกล้พร้อมท่าทีข่มขู่ “เธอมีสิทธิ์อะไรที่ทำให้คนอื่นตกหลุมรักไปทั่ว?”
หล่อนขู่เสียงเข้ม
ฉันทำทีเล่นโทรศัพท์ต่อไป “อาจจะเพราะว่าฉันสวย”
คำตอบของฉันทำเอาหญิงสาวตรงหน้าอ้าปากเหวอ “เธอคิดว่าตัวเองสามารถเล่นกับความรู้สึกของผู้ชายทุกคนได้เพราะตัวเองสวยงั้นเหรอ?”
ผู้ชายทุกคนเนี่ยนะ?!
ฉันไม่เคยยุ่งกับฌอนหรือแลนซ์ด้วยซ้ำ คนเดียวที่โชคร้ายมีเพียงดิกสันต่างหาก
ฉันปรายตามองคนตรงหน้าก่อนสรุปได้ว่าเวนดี้คงโดนเกวนเป่าหูเป็นแน่ ฉันจ้องหน้าเธอกลับพร้อมพูดเสียงเย็น “งั้นไหนลองบอกมาหน่อยสิว่าเธอคิดว่าฉันคบชู้กับใคร? มีคนที่รักอยู่ในรายชื่อด้วยใช่ไหม?”
เวนดี้หน้าบึ้งตึงก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้ฉัน “แลนซ์ เฮนรี่ แล้วก็ดิกสัน พวกเขาโดนคนแบบเธอปั่นหัวกันหมด”
ยัยพวกนี้เหมารวมเฮนรี่ไปด้วย...
ฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนพูดเสียงเนือยแต่ดัง “เกวน เธอเป็นคนเป่าหูยัยนี่เหรอ?”
เกวนยังคงยืนนิ่งด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้าย การไม่สะทกสะท้านของเธอทำให้ฉันเริ่มคิดว่าเธอจะทำอะไรบางอย่าง
ดวงตาเฉี่ยวสวยด้วยอายไลเนอร์ของฉันจ้องกลับไปที่เวนดี้และพูดเสียงต่ำ “ก็อย่างที่พูด ฉันเล่นกับความรู้สึกของคนพวกนี้ แต่เธอจะทำอะไรได้นอกจากหงุดหงิดเป็นยัยบ้าแบบนี้? คิดว่าดิกสันจะรักเธอหรือไง?”
ฉันขี้เกียจจะมานั่งแก้ตัวกับคนพวกนี้ ไหน ๆ แล้วก็ขอเล่นตามน้ำเลยแล้วกัน
เวนดี้ชะงักไปก่อนจะทำหน้าเคร่งเครียดเมื่อรู้ว่าฉันเดาความรู้สึกของเธอออก มองก็รู้ว่าเธอคงอยากจะตบฉันเต็มแก่ แต่นี้คืองานเลี้ยงของพ่อเธอ คนตรงหน้าถึงได้แต่ยืนกำมืออย่างอดกลั้น
เวนดี้โกรธจนหน้าแดงก่ำแต่ทำอะไรไม่ได้ ไม่นานเกวนที่ยืนนิ่งอยู่นานก็ถามเสียงเรียบ “เธอคิดว่าตัวเองเก่งกล้ามากเหรอ? เธอจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดเสมอตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน”
จุดสูงสุด?
ฉันไม่เคยมีโอกาสได้ยืนอยู่ในจุดนั้นเลยต่างหาก
แคโรหันมองไปยังงานเลี้ยงด้านในแทน ไม่ใครสองร่างตรงหน้า
ในอดีตเกวนเคยทำร้ายฉันมากขนาดไหน ทำไมฉันจะต้องให้เกียรติยัยนี่ด้วยล่ะ?
ฉันขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งพลันหัวเราะเสียงเบา “อย่างน้อยฉันก็ไม่กลัวเธอเลยซักนิด”
เกวนหยิบขวดบางอย่างที่ซ่อนไว้ออกมา ไม่รู้ว่าด้านในคือน้ำอะไร แต่สีของมันดูแปลกกว่าปกติ
“หน้าของเธอทำให้ฉันสะอิดสะเอียน คงจะดีถ้าทำลายมันได้ เธอเป็นหนามยอกอกมานานเกินไปแล้ว”
เกวนพูดมันออกมาเสียงนิ่งอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ ท่าทางดูแปลกไปจากที่ฉันเคยได้คุยกับเธอที่โรงพยาบาลเมื่อครั้งก่อน
ทันใดนั้นคำพูดของซัมเมอร์ที่บอกว่าเกวนเป็นโรคจิตก็ลอยเข้ามาในหัว
ผู้ป่วยทางจิตจะไม่สามารถควบความการกระทำของตัวเองได้
ร่างบางผุดลุกขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าจะสาดน้ำในขวดนั่นมา ฉันเบี่ยงตัวหลบแต่ไม่คิดว่าจะพ้นรัศมี ทว่าวินาทีเกวนสาดน้ำมาก็มีใครบางคนพุ่งเข้ามากอดฉันไว้ก่อนที่เราทั้งคู่จะล้มลงแล้วกลิ้งไปอีกด้าน
เกวนร้องเสียงหลงออกมาทันที “ดิกสัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ