หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 133

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ดวงของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โชคไม่เข้าข้างแถมยังโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เคยโดนตบรุมกระทืบ ยังไม่รวมตอนที่โดนมีดเฉือนเฉี่ยวหัวไหล่ และยังจะมาโดนสาดด้วยน้ำอะไรก็ไม่รู้เพราะตัวการที่ชื่อดิกสันอีก

อ้อมกอดที่กอดไว้ราวปกป้องทำให้ฉันไม่ได้รับอันตราย ฉันตั้งสติอยู่ครู่กอดจะมุดออกมาจากอ้อมแขนนั้นแล้วกลับขึ้นไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ

โชคที่ที่ความนิ่มของหญ้าช่วยรองรับแรงกระแทกให้เรา ฉันนั่งลงลนเก้าอี้พลางสำรวจสภาพตัวเองและเมินเฉยต่อชายหนุ่ม

ดิกสันลุกขึ้นยืนพร้อมจัดชุดสูทให้เรียบร้อย สายตาคมมองไปยังหญิงสาวอีกสองคน “คุณคิดจะทำอะไรของคุณ?”

เวนดี้รับโพล่งเอ่ยปัดความผิด “คุณเกร็ก ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ ฉันไม่รู้ก้วยว่าเกวนจะทำอะไรแบบนี้ คุณกับคุณชอว์ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”

ดิกสันเพิกเฉยต่อคำพูดของเวนดี้ก่อนจะเบนสายตาไปยังเกวนแล้วจ้องเธอด้วยความกดดัน “ในขวดนั้นคือน้ำอะไร?”

เกวนแสยะยิ้ม “ดิกสัน นี่คือน้ำกรดไงล่ะ”

ยัยนั่นบ้าไปแล้ว เธอพูดออกมาพร้อมยิ้มรับราวกับมันเป็นเรื่องปกติ

แคโรจ้องไปรอยน้ำกรดบนพื้นที่กำลังกัดกร่อนพื้นซีเมนต์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากมันโดนหน้าละก็ คงแย่แน่

ฉันคงทนรับสภาพน่าเกลียดของตัวเองไม่ได้!

มันเจ็บปวดยิ่งกว่าตายเสียอีก!

ร่างบางหันไปมองเมื่อได้ยินดิกสันออกคำสั่งกับเลขาของเขาที่เดินเข้ามา “แมทธิว พาเกวนออกไป”

และเมื่อแมทธิวพาลากเกวนออกไป เวนดี้ที่กำลังปอดแหกก็รีบเอ่ยขอตัวออกไปจากสถานการณ์นี้ทันที

ร่างสูงเดินมานั่งลงข้างฉันพร้อมคว้าหัวไหล่เข้าไปกอด “ไม่เป็นไร อย่ากลัวไปเลย ผมอยู่นี่แล้ว”

ฉันส่ายศีรษะไปมา และนั่นทำให้ดิกสันเสียใจ “ผมขอโทษที่ทำให้คุณเจอเรื่องแบบนี้ ผมมักจะช้าไปก้าวหนึ่งเสมอ”

ใบหน้าหล่อโน้มลงมาเตรียมจะจูบฉัน ทว่าฉันกลับถอนหายใจก่อนบอกปัด “ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก”

ดิกสันถดตัวกลับไปอย่างเสียดาย “เราสองคนไม่ควรมาเล่นเป็นพ่อแง่แม่งอนกันหรอกนะ”

“ดิกสัน เงียบปากเถอะน่า” ฉันบ่นและหันไปย้ำเขา “คุณควรเช็คเรื่องสภาพจิตใจของเกวนนะ ถ้าเธอป่วยทางจิต ช่วยพาเธอไปอยู่ไกล ๆ จากฉันที”

การทีตัวตนของเธอในเมืองอู๋เป็นภัยคุกคามสำหรับฉัน

“โอเค เดี๋ยวผมจัดการเอง”

ร่างสูงหอมแก้มฉันเหมือนคู่รักคู่อื่นทำก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป และฉันก็ไม่ได้ผลักเขาออก

เพราะมัวแต่ตกใจกับการกระทำนั่น

แคโรนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม และไม่นานเฮนรี่ก็เดินเข้ามาหาพลางสำรวจสภาพร่างกายของฉัน มือหนายื่นออกมาขยี้ผมนุ่มเบา ๆ “ทำไมถึงดูเครียดแบบนั้น?”

“ไม่มีอะไรหรอก” ฉันส่ายหน้าน้อย ๆ

ร่างเล็กยืนขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปเก็บมือถือที่หล่นอยู่บนพื้น คนเป็นพี่ถามเรื่องสุขภาพของฉันอีกครั้ง และคงทำได้เพียงตอบว่า “ฉันสบายดี”

เสียงทุ้มถามต่อ “เธออยากไปลบรอยแผลเป็นไหม?”

ฉันถามกลับ “ทำได้เหรอ?”

“ได้สิ ไว้ฉันจะแนะนำคนที่ทำได้ให้รู้จักเมื่อเรากลับไปที่เมืองเอส”

ฉันขอบคุณเสียงเบา “ขอบคุณนะ เฮนรี่”

“ไม่เป็นไร เราไม่ควรเกรงใจกันในเรื่องแบบนี้หรอกนะ”

เขาพูดแบบเดียวกับดิกสันเปี๊ยบเลย

เรานั่งคุยกันอยู่ไม่นานเฮนรี่ก็ขอตัวกลับไปจัดการธุระด่วนที่เมืองเอส ทว่าอีกฝ่ายยังหันหลังกลับมาย้ำอีกครั้งว่าให้ฉันกลับไปที่เมืองเอสให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าหากไม่กลับเขาจะมาลากฉันกลับไปเอง

ฉันบอกสัญญาก่อนจะนั่งหลับตาลงที่เก้าอี้ตัวเดิม ไม่นานนักก็ลืมตาขึ้นมาและเบนสายตาสำรวจไปรอบด้าน พลันต้องชะงักตัวเกร็งเมื่อเห็นภาพด้านหน้า

ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนเอามือไพล่หลังพร้อมมองตรงมาที่ฉันจากระเบียงห้องจัดเลี้ยง หญิงสาวไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นยืนมองเธออยู่นานเท่าไหร่

อย่าบอกนะว่าก่อนที่เธอจะมาที่สวน?

อย่างนั้นเขาก็เห็นทุกเหตุการณ์เลยใช่ไหม?

แม้แต่ตอนที่ดิกสันหอมแก้ม?

รวมทั้งตอนที่เฮนรี่โผล่เข้ามา?

เวนดี้พูดไว้ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เล่นกับความรู้สึกของผู้ชายไปทั่ว แต่นั่นมันไม่จริงเลย ทว่าดิกสันกับเฮนรี่ก็เป็นผู้ชายไฮคลาสที่ปรากฏตัวเข้ามาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันในสถานการณ์เมื่อครู่

คนพวกนี้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับฉัน นอกจากนี้ดิกสันจังเคยได้ยินฌอนเรีนกฉันว่า ‘ที่รัก’ อีกต่างหาก

แล้วชายคนนี้ล่ะ เขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นไหม?

และฉันยังตอบโต้เวนดี้ในเชิงไม่ปฏิเสธอีก เขาต้องคิดว่าฉันเป็นอย่างที่เธอพูดแน่!

รอมฝีปากเม้มแน่นอย่างลังเล

เขารู้ว่าฉันมองอยู่แต่เลือกที่เงียบเหมือนไม่รับรู้

ฉันจ้องตากับเขาอยู่นานจะเริ่มเบลอ แคโรตัดสินใจเบือนหน้าไปอีกทางก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปจากสวน

บรรยากาศด้านหน้ายังคงครึกครื้นจนอยากจะปลีกตัว ทว่าเลขาคนเก่งยังคงป้วนเปี้ยนไปรับงานเพื่อนสร้างมิตรทางธุรกิจ

ขาเรียวสวยก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ตระกูลเยลแล้วเดินไปตามถนนด้านนอกอาณาเขตของบ้านด้วยรองเท้าส้นสูงแบบนั้น ก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นเบนท์ลีย์สีดำคันสวยจอดอยู่ไม่ไกล

ฉันเท้าสะเอวอมลมเข้าแก้มพลันกดโทรออกหาชัค

เขารับในที่สุด “ประธานชอว์ คุณอยู่ที่ไหนแล้ว?”

“ฉันเพิ่งออกมาจากงาน พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันจะกลับไปเมืองอู๋เอง” ฉันลังเลอยู่พักหนึ่ง “นายเคยได้ยินชื่อแซคคารี่ไหม?”

ชัคถามกลับ “แซคคารี่ ชิค แห่งเมืองถงนะเหรอครับ?”

“ใช่ เขานั่นแหละ”

ฉันมุ่งหน้าเดินเข้าเมืองไปเรื่อย ๆ ชัคถอนหายใจกับคำถามของฉัน พลางเอ่ย “ผมรู้จักเขาครับ”

ทว่าเสียงของเลขาคนเก่งกลับปนด้วยความกลัว “แซคคารี่ ชิค แห่งเมืองถง การมีอยู่ของเขาค่อนข้างจะพิเศษ ให้พูดตามตรง ครอบครัวของเขามีกิตติศัพท์ที่น่ากลัวมากนะครับ! ประธานชอว์ คนในวงการของเราไม่ค่อยคุ้นเคยกับแซคคารี่ แต่มีข่าวลือว่าเขาเป็นพวกอารมณ์ฉุนเฉียว พวกเขาพูดกันว่าแซคคานี่มีนิสัยหลาบคายและเกรี้ยวกราด”

คนพวกนั่นย้ำแต่เรื่องที่ว่าแซคคารี่หยาบคาย

ชัคยังคงเล่าต่อ “ตระกูลสก็อตแห่งเมืองถง ตระกูลสโตนแต่งเมืองเอ ตระกูลสมิธแห่งเมืองเอส และตระกูลฮันเตอร์แห่งเมืองดี ทั้งหมดล้วนเคยเป็นต้นตระกูลหลังของแต่ละเมือง ทว่าแปดปีก่อน แซคคารี่ทำลายอิทธิพลและอำนาจของพวกเขาจนหมด นั่นทำให้ตระกูลคุกและตระกูลเยลมามีบทบาทในการขยายธุรกิจ! จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าแซคคารี่ทำแบบนั้นได้ยังไง แต่ผมเคยได้ยินมาว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับตระกูลเหล่านั้น”

ฉันก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับชอว์ คอปเปอเรชั่น และตอนนั้นฉันพึ่งได้รับแต่งตั้งในสืบทอดธุรกิจของตระกูล ถ้าชัคไม่พูดมันขี้นอีกครั้ง ฉันคงลืมมันไปแล้ว

เหมือนว่าเมื่อก่อนเคยมีการปฏิวัติทางด้านอำนาจกันเกิดขึ้น เป็นโอกาสทำให้บริษัทเล็ก ๆ สามารถขยายธุรกิจไปสู่ต่างแดนได้

ตระกูลเยลและตระกูลคุกก็ใช้โอกาสนั้นด้วยเช่นกัน

แต่ไม่ใช่กับชอว์ คอปเปอเรชั่นที่แผ่ขยายอิทธิพลไปไกลมากแล้ว และมันเกินกว่าที่แซคคารี่จะทำอะไรได้แม้ว่าเขาเลือกจะทำมันเมื่อตอนนั้นก็ตาม

ฉันเดาว่านั้นคือสาเหตุที่เขาปล่อยชอว์ คอปเปอเรชั่นไป

ชัคยังคงเตือนฉัน “แซคคารีไม่เคยเป็นมิตรกับใครแถมยังสร้างแต่ศัตรู ผมไม่รู้ว่าจู่ ๆ ทำไมคุยถึงพูดเรื่องเขา แต่ประธานชอว์ ผมหวังว่าคุณจะไม่เอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับคนคนนั้น การใกล้ชิดกับเขาเป็นเหมือนข่าวร้ายของ ชอว์ คอปเปอเรชั่น และคุณไม่ควรพาตัวเองเข้าไปเสียงอันตรายนะครับ ประธานชอว์”

ทั้งฌอนกับชัคพูดไปในเชิงเดียวกันเกี่ยวกับแซคคารี่ แต่ว่าเขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?

ทำไมคนที่น่าเกรงขามแบบนั้นถึงโดนตามล่าโดยนักฆ่าล่ะ?

ฉันยังไม่ปักใจเกี่ยวกับเรื่องของแซคคารี่ ก่อนจะตอบชัคกลับไป “ฉันไม่ได้อะไรกับเขาซักหน่อย ฉันแค่ได้ยินข่าวลือแล้วสงสัยเฉย ! แต่เราก็ไม่ควรกลัวเขา ชอว์ คอปเปอเรชั่นมีชื่อเสียงที่ดีเรื่องการดีลงานขนาดไหนนายก็รู้ และเราก็ไม่ควรกลัวที่โดนเล่นงาม มันไม่มีประโยชน์ที่จะเอาแต่คอยหลบหลีก”

“ครับ ผมแค่บอกให้คุณรู้ไว้เฉย ๆ คุณเคยเห็นประวัติของชาร์ลสแล้ว ซึ่งของแซคคารี่นั้นลึกลับกว่าเขาเยอะ”

เรื่องของแซคคารี่คงไม่ใช่เรื่องขี้ปะติ๋วอีกต่อไปสินะ

ร่างบางหยุดเดินพลันหันกลับไปมองเบนท์ลีย์สีดำคันสวยที่ยังจอดนิ่งอยู่ที่เดิม ฉันไม่เคยกลัว แต่เรื่องของฌอนกับชัคกำลังทำให้ฉันเริ่มคิด

มันทำให้ฉันเริ่มมีความรู้ต่อต้านแซคคารี่ขึ้นมาแวบหนึ่ง

ฉันวางสายจากเลขาพร้อมก้าวเท้าเดินลงเขาไปเรื่อย ๆ รถคันสวยที่เคยจอดนิ่งสนิทกลับขยับไล่หลังตามมาอย่างเงียบ ๆ แคโรทนไม่ไหวพลางหันไปเผชิญหน้ากับผู้ติดตาม ทว่าฉันกลับมองไม่เห็นแซคคารี่ในรถ

ฉันถามคนขับทันควัน “แซคคารี่อยู่ไหน?”

คนขับรถตอบกลับสุภาพ “คุณชิคบอกให้ผมขับตามคุณและพาคุณกลับบ้านหากคุณต้องการครับคุณชอว์”

เป็นคนที่ตรงดีเหมือนกันนะแซคคารี่

ฉันไม่ได้มีที่พักส่วนตัวในเมืองเอ จึงวานให้คนขับช่วยไปส่งแถว ๆ โรงแรมแทน ทว่าเขากลับพูดขึ้นเสียก่อน “คุณชอว์ครับ คุณชิคสั่งให้ผมพาคุณไปที่บ้านของเขาหากคุณยังไม่ได้จองที่พัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ