ฉันไม่รู้จะตอบเขาไปว่าอะไรดี
คนขับรถพึงพาฉันมุ่งตรงไปยังอพาร์ตเมนต์ของแซคคารี่
ตอนแรกฉันวางแผนว่าจะลงจากรถไปเรียกแท็กซี่ ทว่าสายตาจ้องมองมาไม่เลิกเชิงกดดันของคนขับรถทำให้ฉันไม่มีโอกาสได้โต้แย้ง
แคโรถอนหายใจอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะเดินตามเขาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด
หลังจากใส่พาสเวิร์ดอีกฝ่ายก็ผายมือให้ฉันเดินเข้าไปด้านในพลันปิดประตูห้องกลับไปทันที เขาอย่างกับเป็นกิจวัตรไปเสียงั้น ร่างบางเดินไปรอบห้องอย่างสำรวจและพบว่าแซคคารี่ไม่ได้อยู่ที่นี่
ถ้าให้เดา ตอนนี้เขาคงยังอยู่ที่งานเลี้ยงตระกูลเยล
ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ถึงห้องน้ำ มือเรียวลบเครื่องสำอางของตัวเองออก พลางเงยหน้ามองเงาสะท้อนของใบหน้าที่ขาวซีดแล้วยิ้มออกมา “ขอบคุณพระเจ้าที่มันไม่ได้ดูน่าเกลียดขนาดนั้น”
นัยน์ตาสวยจ้องไปยังรอยแผลเป็นที่เริ่มจางลง มันจางมาก
และมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่แซคคารี่พูด
เท้าเปลือยเดินออกมาจากห้องน้ำหลังล้างหน้าจนสะอาด แคโรมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น พลางมองออกไปนอกกระจกใสบานใหญ่ ภาพด่านล่างนั้นเต็มไปด้วยแสงไฟและผู้คนที่เดินกันควักไขว่
ชีวิตกลางคืนได้เริ่มขึ้นแล้ว
ฉันเดินกลับไปที่โซฟาล้มตัวลงนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่นานดิกสันก็โทรเข้ามา เสียงเข้มถาม “คุณอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ที่โรงแรม” ฉันโกหก
“ส่งที่อยู่มาเดี๋ยวผมไปรับ” เขาบอก
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันก็กลับไปแล้ว”
เสียงเข้มเปลี่ยนเป็นนุ่มทุ้มหลังจากโดนปฏิเสธ “แคโร ผมคิดถึงคุณมากนะ ผมอยากไปอยู่ข้าง ๆคุณตอนนี้”
ได้ยินแบบนั้น คงจะเรียกได้ว่าโกหกถ้าฉันบอกว่าตัวเองไม่ใจเต้นไปกับคำพูดของเขา
แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะกลับไปเจ็บแบบเดิม
อีกอย่างสภาพร่างกายตอนนี้ก็แย่ลงกว่าเดิม...
ฉันไม่อยากผูกพันไม่มากกว่านี้ไม่ว่ากับใคร
นิ้วเรียวกดตัดสายพลางพิมพ์ข้อความส่งไป: “ให้เวลาฉันอยู่กับตัวเองซักพักนะ อย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงวันที่ควินซี่กลับมา”
แคโรไม่รู้เลยว่าจะรับมืออย่างไรหากเธอกลับมา
ในใจลึก ๆ ยังคงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา
มือบางวางทาบลงบริเวณไตของตัวเอง ทันใดนั้นข้อความที่แอนดรูถามขึ้นมาเมื่อวานก็แล่นเข้ามาในหัวอีกครั้ง “พูดกันแบบเปิดใจเลย ถ้าควินซี่กำลังจะตายแล้วต้องการไตของเธอ เธอจะให้ยัยนั่นไหม?”
ด้วยความสัจจริง ฉันไม่ให้เธอ
ฉันถูกจับแยกกับเธอเกือบสิบเอ็ดปี ไม่ว่าเราจะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยังไง มันก็แทบไม่เหลืออยู่แล้วหลังจากเราห่างกัน
นอกจากนี้เธอกลับมาเพราะต้องการแก้แค้นตระกูลชอว์ และฉันก็ไม่ใช่คนใจกว้างที่สามารถยกไตของตัวเองให้เธอได้หรอก
ฉันจะบริจากให้เธอหากตัวเองลาโลกไปแล้ว แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ไตนี้ก็จะอยู่กับฉัน
ฉันตอบแอนดรูกลับไปอย่างเห็นแก่ตัว “ฉันจะไม่มันให้เธอ”
ทุกครั้งในละครหลังข่าวที่เคยเห็นในทีวี นางเอกก็ควรปฏิเสธเชิงเห็นแก่ตัวแบบนี้บ้าง แต่ก็อย่างว่า ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในหนัง
แอนดรูชะงักก่อนจะโพล่งออกมา “ดี! นี่แหละแคโรไลน์ที่ฉันรู้จัก ถ้าเธอยอมยกมันให้ยัยนั่น ฉันจะเลิกคบเธอแน่ ๆ”
คำพูดของเขาทำให้ฉันประหลาดใจ “ฉันคิดว่านายอยากให้ฉันยกมันให้ยัยนั่นซะอีก!”
“ก็ใช่ แต่ถ้ามันเป็นไปตามความต้องการของเธออ่ะนะ นี่คือสิ่งที่ตระกูลชอว์ติดค้างควินซี่ ไม่ใช่เธอ นี่ฉันถามแบบนี้ก็เพราะอยากให้เธอเตรียมใจไว้ ฉันรู้สึกว่าครั้งนี้ควินซี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ”
ควินซี่จะทำทุกอย่าง
มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรักษาฉัน
นี่คือแรงแค้นที่ดิกสันไม่มีวันเข้าใจ
แคโรกดปิดเครื่องโทรศัพท์ ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตู ร่างบางหันหน้ากลับไปทางประตูและพบกับใบหน้าที่เย็นชาของแซคคารี่
“พี่รอง” ฉันเรียกอย่างสุภาพ
มีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่าฉันกำลังกลัวขนาดไหนในยามที่จดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเข้มคู่นั้น คงต้องโทษคำเตือนของฌอนกับชัคซะแล้ว
เมื่อก่อนฉันไม่เคยรู้สึกกลัว ทว่าตอนนี้กลับเกร็งแทบบ้าเมื่อได้จ้องหน้ากัน
เสียงเรียบตอบกลับมาเบา ๆ “เธอกินอะไรหรือยัง?”
“ยังค่ะ” ฉันตอบพร้อมส่ายศีรษะไปมา
ได้ยินแบบนั้นร่างสูงก็เดินเข้าโซนห้องครัวไป ฉันได้ยินเสียงก๊องแก๊งของหม้อของชาม ไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมบะหมี่ชามหนึ่ง หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวเริ่มอบอุ่นเพียงแค่มองชามตรงหน้า
ฉันกินบะหมี่อย่างเก้ ๆ กัง ๆ เพราะเรื่องชัคบอกก่อนหน้า พอกินเสร็จเรียบร้อยก็เดินถือชามเข้าไปล้างในครัว เมื่อเดินก็มาก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียง
ควันสีเทาลอยวนไปมาอยู่รอบตัวและใบหน้าของเขา
นัยน์ตาคู่คมสังเกตเห็นฉันพลางดับบุหรี่ลงทันควัน เขาเงียบอยู่นานก่อนเอ่ย “เธอแต่งหน้าได้สวยดีนะ”
ฉันถึงกับเหวอไปเลย
ตอนแรกเขาบอกว่าฉันน่าเกลียดไม่ใช่เหรอ?
ผู้ชายแมน ๆ เขาทำกันแบบนี้หรือไง?!
คนตัวเล็กอมลมเข้าแก้มแล้วเงียบนิ่ง
ร่างสูงตรงหน้าเองก็นิ่งทั้ง ๆ ที่ปกติก็นิ่งอยู่แล้วก็เถอะนะ เราต่างเงียบกันอยู่แบบนั้นจนในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้อง ฉันเดินกลับมาที่โซฟาพลางเอนหลังลงแล้วหลับไป
คำพูดของฌอนและชัคยังคงตามมาหลอกหลอนในฝัน ทันใดนั้นภาพของแซคคารี่ที่หน้าอาบไปด้วยเลือดก็ผุดเข้ามา สภาพเขาดูย่ำแย่จนน่าใจหาย ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างแล้วตะโกนออกไป “ไม่!”
ฉันหอบหายใจหนัก พลันเบนสายตาไปยังหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกล
ก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเบา ๆ เพ่งมองภาพตรงหน้า เป็นแซคคารี่ที่ยื่นนิ่งอยู่ใกล้ๆ หน้าต่าง
“คุณยังไม่นอนอีกเหรอ?” ถามออกไปแม้หัวใจยังเต้นแรงจากฝันร้ายเมื่อครู่
ในยามนี้ร่างสูงสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีกระดุมติดอยู่ตรงปรายแขนเสื้อและกางเกงลำลองสบาย ๆ ผมดำขลับยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เขาค่อย ๆ หันมามองฉันพลางเอ่ย “ข้างนอกมันเย็น กลับเข้าไปนอนในห้องของเธอซะ”
ร่างเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ “อาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว ขอเอนหลังตรงนี้อีกแปบนึงเดี๋ยวจะลุกไปแล้ว อ่า แต่ยังไม่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเลยแหะ”
มือเรียวควานหาโทรศัพท์เพื่อกดเข้าไปจองตั๋วเที่ยวบินกลับเมืองอู๋ ทว่าเมื่อชะระเงินเสร็จถึงนึกได้ว่าบัตรประจำตัวประชาชนของฉันโดนแฟนเก่าฌอนหักไปแล้ว
ตอนนั้นที่นั่งเครื่องมา ฉันใช้แค่ทะเบียนบ้าน
แต่ตอนนี้ทะเบียนของอยู่ที่ชัค
คงได้แต่หวังว่าจะยื่นขอหนังสือเดินทางชั่งคราวได้ที่สนามบิน
ไม่อย่างนั้นก็คงต้องโทรหาชัคแล้วบอกให้เขารอฉันก่อน
ฉันวางโทรศัพท์ลงพลันรู้สึกถึงสายตาของร่างสูงที่ยังจ้องมองมาไม่เลิก นั่นทำให้ฉันประหม่าแล้วจับรอยแผลเป็นที่แก้ม “มันน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม?”
เสียงเข้มตอบกลับเพียงสามคำ “ฉันไม่รู้”
ไม่รู้เหรอ...
ถ้าไม่รู้แล้วจะบอกว่าฉันหน้าเกลียดทำไมกัน?
แคโรกรอกตามองบนใส่แซคคารี่ไปหนึ่งที ร่างสูงยังคงมองท่าทีของฉันแต่ไม่พูดอะไร แม้กระตอนที่เดินออกมาจากห้องของเขาเพื่อเดินทางกลับเมืองอู๋ อีกฝ่ายก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมริมหน้าต่างนั่น
ช่างเป็นคนที่เข้าใจยากดีแท้
ลิฟต์ไล่ระดับลงมาถึงชั้นล่าง เสียงเตือนข้อความโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นอีกครั้ง มันมาจากแซคคารี่ “บอกฉันถ้าเธอต้องการอะไร”
บอกเขาหากฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ?!
หรือเขาคิดว่าฉันไปกับผู้ชายคนนู้นคนนู้นเพื่อเงินกัน?
ฉันตอบกลับไปเรียบ ๆ “ฉันต้องการความรัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ