ฉันพูดพลางมองเขาอย่างสำรวจ ไม่บ่อยนักที่ดิกสันจะสวมเสื้อเชิ้ตสีดำแบบนี้ ผมดำหนาที่ไม่ได้เซตกระจายอยู่บริเวณหน้าผากทำให้อีกฝ่ายดูอ่อนวัยกว่าปกติ ริมฝีปากยกยิ้มอีกครั้ง “ได้โปรดอย่าพูดอะไร เพราะฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณเหมือนกัน แต่คงขออวยพรให้แทน ในที่สุดคุณก็ได้มีภรรยาที่แข็งแรงที่พร้อมจะมีลูกให้คุณเสียทีนะ”
ดิกสันเริ่มขนับตัวเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างทว่าก็นิ่งไป ขาเรียวก้าวผ่านผู้ชายตรงหน้าแล้วเดินกลับบริษัทไป เมื่อถึงออฟฟิศฉันก็ลองเดินไปริมหน้าต่างแล้วก้มมองแถว ๆ หน้าคาเฟ่ ดิกสันยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
พอตกกลางคืนควินซี่ก็โทรเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
นิ้วเรียวกดบล็อกเบอร์ทันที
ตอนนี้ฉันไม่พร้อมจะต่อกรกับเธอ ถ้าจัดการเรื่องวุ่นวายในตอนนี้ได้แล้วฉันถึงจะติดต่อกลับไป
ฉันเริ่มรู้ว่าตัวเองเด็ดขาดขึ้นกว่าเดิมก็ในตอนที่กดบล็อกเธอโดยไม่ลังเลเนี่ยแหละ
แคโรรอจนกว่าดิกสันจะหายไปจากบริเวณคาเฟ่ถึงค่อยเดินออกจากออฟฟิศ สายลมของฤดูร้อนพัดเข้าเต็มหน้าเมื่อประตูทางเข้าของบริษัทเปิดออก
มันเย็นกำลังดี ทำให้ฉันเลือกเดินกลับบ้านแทนการขับรถและแวะซื้อดอกไม้ริมทางอย่างผ่อนคลายอารมณ์
ใจจริงอยากได้เป็นช่อหรือกระเช้าดอกไม้ แต่แถวนี้ไม่มีร้านดอกไม้ใหญ่ ๆ เลย น่าเสียดายจริง ๆ
ทว่าขณะที่เดินไปเรื่อยกลับไปได้ยินเสียงฝีเท้าตามหลัง ร่างเล็กหมุนตัวกลับไปแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย “คุณตามฉันมาทำไม?”
แม้คนตรงหน้าจะดูเหมือนดิกสันขนาดไหนแต่ฉันก็แยกออกอยู่ดี
แลนซ์ยิ้มตอบ “มันดึกแล้ว ให้ผมเดินไปส่งดีกว่า”
ฉันฟังเขาแล้วมองไปยังถนนกว้างด้านหน้า “ไม่เป็นไร มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกน่า”
“งั้นคุณก็เดินต่อไปสิ”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยฉันเดินไปคนเดียว ฉันมองเขาก่อนจะหันกลับไปเดินตามทางอีกครั้ง แต่ตลอดทางนั้น เราสองคนไม่ได้คุยกันซักคำ
เสียงฝีเท้าของเขายังคงเดินตามมาเรื่อย ๆ จนถึงบ้าน สุดท้ายฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขา แต่รีบเปิดประตูเข้าบ้านไปแทน
มือเรียววางดอกไม้ลงแล้วรับพุ่งตัวไปลอบมองอีกฝ่ายที่หน้าต่าง แลนซ์ยังยืนอยู่ตรงทางเข้าด้านล่าง ห้านาทีต่อมาเขาถึงยอมกลับไป
เขาทำให้ฉันเห็นภาพของตัวเองเมื่อห้าปีก่อน
ทว่าครั้งนี้มันเป็นเขาแล้วล่ะ ที่ต้องตามฉันบ้าง
ทำไมถึงมีความรู้สึกว่าเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน แลนซ์สามารถโผล่หน้าออกมาได้ทุกเวลาราวกับรู้ว่าตอนนั้นฉันอยู่ไหน
พลันคำพูดที่เขาเคยบอกว่าตัวเองทั้งเที่ยวไปรอบโลกพร้อมกับพบปะคนมีอิทธิพลมากมายก็เข้ามาในหัว
แลนซ์อาจจะมีความสามารถมากกว่าที่ฉันคิด
เขาสามารถไปไกลได้มากกว่านี้ทว่ากลับไม่สนใจรับช่วงต่อกิจการของตระกูลตัวเอง
ฉันหยิบดอกไม้ที่ตกพื้นขึ้นมาใส่แจกันให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมากินยาเพื่อพักผ่อน แต่พอล้มตัวนอนลงเตียงปุ๊บ ข้อความจากลอเรนก็ดังขึ้นปั๊บ
เธอส่งมาว่า: “ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนั้น”
เธอคงหมายถึงแลนซ์สินะ
เขาเป็นเพียงหัวข้อเดียวที่เราจะคุยกันได้
แต่เป็นแค่ลอเรนคนเดียวนะ ที่ชอบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
และดูเหมือนว่าคนรอบตัวฉันจะดูวิดีโอนั่นหมดแล้ว
วิดีโอที่เขาสารภาพว่าตัวเองตามหาฉันมาตลอดเก้าปี เขาพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาหมดทุกอย่าง
ทำให้คนอื่นอาจคิดว่าระหว่างฉันกับแลนซ์จะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น
แคโรดึงตัวเองกลับมาจากคลื่นอารมณ์นั่น พลางล็อกอินเข้าเว่ยป๋อเพื่ออ่านคอมเม้นในเทรนที่กำลังมาแรงเช่น “เพลงแห่งสายลม” แต่ละความเห็นต่างบอกว่ามันเป็นเพลงที่เศร้า
น้อยคนที่จะเข้าใจความหมายของเพลงจริง ๆ ทว่าพวกเขาต่างพากันเขียนว่ามันทำให้เศร้าอย่างไร้สาเหตุ
ร่างเล็กกวาดสายตาไล่อ่านคอมเม้นไปเรื่อย ๆ แล้วเห็นว่ายังมีอีกหลายคนที่เขียนด่าฉันอยู่ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ในหัว แต่คงเบื่อกับชีวิตของตัวเองจนมีเวลามายุ่งกับชีวิตของฉันแทนละมั้ง
ฉันพยายามคิดง่าย ๆ เพื่อจะได้ไม่เครียด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้ยืดยาวเกินไป
อย่างน้อยคืนนี้ก็ควรคิดทางออกได้ซักทาง
เพราะแค่นี้พนักงานฝ่ายไอทีก็ทำงานหนักกันเกินพอแล้ว
มือเรียวกดออกจากโปรแกรมพลันกดตอบข้อความจากลอเรน: “ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนั้น แล้วก็ ลอเรน ฉันก็ไม่ได้อยากให้แลนซ์ทำแบบนี้เหมือนกัน”
ฉันหวังให้เขากลับไปเป็นคนที่เคยเอาแต่ปลีกตัวออกห่างเหมือนเมื่อก่อน
เพราะฉันไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับแลนซ์คนนี้อย่างไร
เธอตอบ “ฉันอิจฉาเธอ”
คำตอบของเธอทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก
ไม่รู้เหมือนกันว่าควรตอบว่าอะไร
ไม่ว่าจะตอบแบบไหนมันก็ไม่ช่วยทำให้ฉันดูดีขึ้นในสายตาของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ