เราทานอาหารเที่ยงด้วยกันก่อนจะเดินช้อปปิ้งเพื่อฆ่าเวลา ซัมเมอร์ซื้อเข็มขัดหนังสีดำเส้นหรูให้ฉันเป็นของขวัญ
เธอเอื้อมมือมาช่วยคาดสายเข็มขัดพลางบีบเอวของฉันเบา ๆ “ว้าว เธอผอมมากเลยแคโร! ดูเธอสิ ทั้งหน้าสวย ๆ ผิวเนียน ๆ แล้วก็เสื้อตัวสั้นโชว์เอวคอดนั่นอีก โคตรดึงดูดเลย”
คำพูดของเธอทำฉันนึกเขิน
เพราะเข็มขัดที่ซัมเมอร์ซื้อให้มีลักษณะเป็นเส้นหนังที่หนากว่าปกติ มันเสริมให้เอวของฉันดูบางลงกว่าเดิมเสียอีก ราวกับแซคคารี่สามารถโอบมันได้ด้วยมือข้างเดียว
เดี๋ยวนะ
“แล้วทำไมฉันถึงต้องคิดถึงเขาด้วยเนี่ย?”
แคโรส่ายหัวไปมาให้กับความคิดของตัวเอง เราเดินซื้อของกันอยู่ซักพักก่อนจะบอกลากัน ทว่าผ่านไปซักพักแซคคารี่ก็โทรเข้ามา น้ำเสียงเย็นเยียบถามขึ้น “มีอะไรหรือเปล่า?”
ฉันรีบฟ้องอีกฝ่ายถึงวีรกรรมของโจชัวร์ ปลายสายฟังอย่างเงียบ ๆ จนจบก่อนจะพูดขึ้น “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ฉันตอบรับดีใจ “ขอบคุณนะคะ”
“แต่ตอนนี้ฉันอยู่ที่เมืองอู๋”
แล้วทำไมถึงจู่ ๆ ถึงบอกฉันล่ะ...
เขามาทำอะไรที่นี่?
และฉันควรจะตอบไปว่ายังไงดี?
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น พลันเอ่ยถาม “คุณอยู่แถวไหน?”
“ยังอยู่ที่สนามบิน แต่หลังจากนี้ต้องไปประชุมต่อ”
ปกติแซคคารี่ไม่เคบบอกเกี่ยวกับตารางงานของตัวเองเลย
เสียงเล็กถามกลับ “คุณจะกลับไปที่เมืองถงคืนนี้เลยไหม?”
“ยังมีธุระอีกเยอะที่ต้องจัดการในเมืองอู๋”
‘หมายความว่าคืนนี้คุณจะยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม?’
ฉันคิดวนไปมาก่อนจะถามออกไปในที่สุด “แล้วคุณจะพักที่ไหน?”
ทว่าเสียงเข้มกลับตอบเพียง “หืม?” ราวคนสงสัย
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าฉันยุ่งวุ่นวายเกินไปหรือเปล่
แต่มันคงดูแย่ถ้าเจ้าบ้านอย่างฉันไม่เอ่ยปากให้การต้อนรับเขา
อย่างน้อยแซคคารี่ก็เคยช่วยชีวิตเธอไว้นะ
ความคิดมากมายกำลังตีกันไปมาอยู่ในหัว ร่างบางพยายามคุมสติแล้วเอ่ยถามความคิดเห็นของอีกฝ่าย “ถ้าคุณยังไม่ได้จองที่พัก จะมาพักที่อพาร์ตเมนต์ของฉันก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปนอนที่คฤหาสน์”
พลันปลายสายก็พูดขึ้น “แคลลี่”
“คะ?”
“ฉันจะกลับเมืองถงคืนนี้”
“อะไรนะ?”
ฉันยืนงงอย่างกับคนโง่ “นี่เขาเปลี่ยนใจเพราะฉันชวนไปนอนบ้านเนี่ยนะ?”
หยาบคายที่สุด!
หรือว่าเขาจะเป็นสัตว์เลือดเย็นกัน?
ใช่แน่! เขาต้องเป็นแบบนั้นแหละ
แคโรคิดก่อนจะตอบโอเคกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ แซคคารี่วางสายไปทันทีหลังจากนั้น
ทว่าไม่กี่นาทีต่อมา โจชัวร์ก็โทรเข้ามาอีก
“เธอฟ้องแซคคารี่เรื่องฉันใช่ไหม?”
ฉันปฏิเสธบ่ายเบี่ยง “เปล่าหนิ”
“งั้นบอกมาสิว่าทำไมเขาถึงส่งฉันไปทำงานต่างประเทศปุบปับแบบนี้?”
‘นี่เขากำลังลงโทษโจชัวร์อยู่สินะ?’
ฉันคิดพลางเอ่ย “มันไม่ซีเรียสขนาดนั้นหรอก ใช่ไหม?”
“เธอหมายความว่ายังไง? เขาพึ่งโทรมาสั่งฉันเมื่อกี้เลย! ฟังนะ ตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองอู๋ ฉันไม่สนว่าเธอจะทำอะไรอยู่ แต่โทรไปขอร้องให้เขาเอาฉันออกตากตะขอเบ็ดนี่ซะ ไม่งั้นฉันจะรีโพสต์ทุกโพสต์ที่แท็กหาตระกูลชิคแล้วเขียนตอบข้อความพวกนั้นด้วยข้อความหวานเลี่ยนจนเธอจินตนาการไม่ออกเลยล่ะ”
หมอนี่กำลังสร้างเรื่องน่าปวดหัวให้ฉันอีกแล้ว “เรามาคุยกันอย่างคนโต ๆ เขาทำกันดีกว่าไหม”
“ก็กำลังทำอยู่นี่ไง ฟังนะ ครอบครัวของฉันอยู่ที่เมืองถง ฉันไม่สนใจธุรกิจต่างประเทศอะไรพวกนั้น แก้ไขมันซะไม่งั้นฉันจะเล่นเธอแทน!”
แคโรอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
ฉันกลัวว่าโจชัวร์ทำอย่างที่พูดจริง ๆ ถ้าเรื่องมันแย่ไปกว่านี้ฉันคงไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป แค่คิดก็ไม่ดีแล้ว
นิ้วเรียวกดโทรออกหาแซคคารี่อีกครั้ง แต่สถานการณ์ในครั้งนี้นั่นต่างออกไป “คุณอยู่ที่ไหน?”
และอีกครั้งที่เสียงเข็มตอบ “มีอะไร?”
ร่างบางชะงักไปด้วยความกังวล หัวสมองกำลังคิดวนหาทางออก ยิ่งปลายสายเงียบก็ยิ่งกดดัน
ฉันตัดสินใจตอบออกไปตรง ๆ “โจชัวร์โทรมาขอโทษฉันแล้ว คุณช่วยยกเลิกงานที่ต่างประเทศของเขาจะได้ไหมคะ?”
ทว่าแซคคารี่กลับไม่ตอบ
การคุยกันผ่านโทรศัพท์ของเราเริ่มดูเป็นเรื่องยุ่งยาก ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยโจชัวร์ไปง่าย ๆแม้ว่าฉันจะโทรมาขอร้อง เราคงต้องใช้เวลาในการอธิบายมากกว่านี้ ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลันเอ่ยถาม “คุณยังอยู่ที่สนามบินไหม?”
ปลายสายยังคงเงียบ
ฉันลองพยายามอีกครั้งพร้อมปรับเสียงให้นุ่มลง “ฉันขอเจอคุณหน่อยได้ไหมคะ?”
พูดเองก็ขนลุกเอง
ฉันพยายามพูดเพราะ ๆ กับเขา เพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็อายุมากกว่า
เวลาผ่านไปนานราวทศวรรษ ในที่สุดอีกฝ่ายก็ยอมตอบฉัน “ฉันมีเวลาให้เธอสี่สิบนาที”
นัยน์ตากลมเบิกกว้างแล้วหัวเราะอย่างดีใจ “จะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ