แซคคารี่ถามฉันที่กำลังถูกครอบงำโดยความโศกเศร้าเสียงเบา ถ้าถามว่าฉันอยากลืมดิกสันไหม ฉันขอปฏิเสธ ศีรษะเล็กส่ายไปมาทันควันก่อนเอ่ยตอบ “ฉันไม่อยากลืมเขา”
แคโรเลือกที่จะเก็บความทรงจำนี้ไว้ มันมีทั้งเรื่องดีและร้ายมากมายที่เราสองคนฝ่าฟันไปด้วยกัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของฉัน จะให้ฉันลืมมันได้ยังไง?
ร่างเล็กยังคงนอนเหยียดกายอยู่กลางดงดอกไม้ดังเดิม ร่างสูงไม่ได้เอ่ยปาก ทว่ายกมือมาลูบหน้าผากของฉันแทน มือสากขยับลูบอยู่สองสามครั้งจึงเอ่ย “แคลลี่ พักเถอะนะ”
คืนนั้น ฉันร้องไห้ตลอดคืนจนสลบไปด้วยความอ่อนเพลีย วันเวลาผ่านไปกับความเจ็บช้ำในใจที่ยังอยู่ ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมากลับต้องเจอกับความจริงที่คอยตอกย้ำ ร่างกายเริ่มอ่อนแรง มือเรียวคว้าโทรศัพท์ข้างเตียงขึ้นมา พลางกวาดสายตามองวันที่
สามวันผ่านไปแล้วตั้งแต่วันที่ดิกสันประสบอุบัติเหตุ ฉันยังนอนซึมอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับไปไหน นิ้วโป้งขยับเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์ของแลนซ์ ทว่าดันเจอของลอเรนเสียก่อน
ฉันกดโทรออก และไม่นานเธอก็รับสาย “พี่สะใภ้”
น้ำตาที่แห้งหายรื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงสั่นระเรื่อของเธอ “ลอเรน ดิกสัน ล่ะ?”
เศษเสี้ยวในใจลึก ๆ ของฉันยังไม่ยอมรับการจากไปนี้
“พี่สะใภ้ เราจะฝังพี่รองในวันพรุ่งนี้นะคะ”
ฝังเหรอ!!
ดิกสันจากฉันไปแล้วจริง ๆ สินะ
น้ำตาที่กลั้นไว้พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง ฉันกดวางสายพลางเบนสายตาไปยังเสื้อเปื้อนเลือดตัวเดิมในคืนวันนั้น มันคือเลือดของดิกสัน ที่เข้ามาช่วยฉันไว้ แคโรสะอื้นคลานลงไปบนพื้น เพื่อคว้าเอาเสื้อของชายที่รักมากอดไว้แน่น
สองชั่วโมงผ่านไปน้ำตาถึงหยุดไหล มือบางหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นแล้วสาวเท้าเดินออกไปจากห้องสู่โถงใหญ่ของคฤหาสน์
แซคคารี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันกำเสื้อไว้แน่นอย่างหวงแหน ก่อนจะขับรถกลับไปยังเมืองอู๋ ทว่ากว่าจะถึงตัวเมืองก็เย็นแล้ว แถมฝนยังตกลงมาอีกต่างหาก
ฉันกดส่งข้อความหาลอเรน ซักพักอีกฝ่ายก็ส่งข้อความกลับมาพร้อมแนบที่อยู่บางอย่างมาให้ฉัน
ที่อยู่ของสถานที่นี้... คือสุสานที่ครั้งหนึ่งฉันเคยโดนฝังไว้เช่นกัน
เมื่อก่อนฉันเคยเห็นกับตาว่าดิกสันเซอร์ไพรส์เกวนด้วยกุหลายแดงสดสวยเต็มคันรถ ตอนนั้น ดิกสันยังเยาว์วัยและเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะทุ่มเทให้แก่หญิงที่รักอย่างสุดความสามารถ
พูดตามตรง ในตอนนั้นฉันอิจฉา
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาดิกสันไม่เคยซื้อกุหลาบให้ฉันเลยแม้แต่ดอกเดียว
แคโรจอดแวะร้านดอกไม้ และเลือกซื้อกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ฉันขับรถไปถึงสุสาน ก่อนจะกางร่มสีดำพร้อมอุ้มช่อดอกไม้ช่อนั้นเดินขึ้นไปยังเนินเขาด้านหน้า
แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาหัวค่ำ และถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบตัวจะเต็มไปด้วยไอเย็นของหลุมศพนับพันรอบตัว แต่ฉันกลับไม่รู้สึกกลัวเลยซักนิด นัยน์ตาสวยมองไปยังงานฌาปนกิจศพแบบส่วนตัวด้านหน้า ก่อนจะมองหาป้ายหินของดิกสัน
แท่นป้ายของเขาสะดุดตากว่าอันอื่น ขาเรียวก้าวเท้าเข้าไปด้านหน้าพลางย่อตัววางช่อดอกไม้ลง มือเรียวยื่นออกไปแตะที่รูปของเขา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้นอนไร้วิญญาณอยู่ด้านล่างแท่นสลักนี่
ด้านล่างนั่นเย็นและมืด
ฉันมองรูปของเขาด้วยสายตาร้อนผ่าว ทว่าการร้องไห้หนักหลายวันติดไม่สามารถทำให้น้ำตาไหลออกมาได้อีกแล้ว แคโรมองไปยังป้ายหลุมศพที่อยู่ติดกัน มันเป็นของฉัน เฮนรี่ไม่เคยสั่งให้คนมาเปลี่ยนเลยตั้งแต่วันนั้น และรูปของฉันก็ยังติดอยู่บนนั้นเหมือนเดิม
“เรื่องของเราสองคนทำไมถึงลงเอยแบบนี้นะ?” ฉันพึมพำ
ฝนตกลงมาหนักขึ้นจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นรอบข้าง
“ดิกสัน คุณได้ยินฉันไหม?”
ทั้งสุสานมีแต่ความเงียบ ยกเว้นเสียงของฝนและฉัน มือเรียวหยิบแหวนแต่งงานที่เก็บเอาไว้ออกมาจากกระเป๋าถือ มันเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่ดิกสันเคยให้ฉัน
หญิงสาววางมันลงในกล่อง ก่อนจะขุดรูเล็ก ๆ แล้วฝังมันลงตรงหน้าหลุมศพ พร้อมวางช่อดอกกุหลาบสีแดงสวยปิดทับไว้ด้านบน
ริมฝีปากพยายามยกยิ้มให้คนในรูปอย่างเจ็บปวด “ดิกสัน ฉันรักคุณนะ”
ฉันสูดหายใจเข้าลึกเพื่อคุมอารมณ์ ไม่นานนักก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินลงไปจากเนินเขานี่ ฉันเดินลงไปช้า ๆ ไม่เร่งรีบ ทว่าพอเงยหน้าขึ้นมากลับต้องตกใจเมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ