เฮนรี่ยังคงดื้อรั้นไม่ยอมกลับไปเมืองเอส เช่นเดียวกับฉันที่ยืนขวางทางตรงประตูไว้อย่างไม่ยอมหลังจากที่เขามาส่งฉันที่บ้าน พี่ชายปรายตามองมาที่ฉันก่อนถอนหายใจ “เธอจะไล่ฉันกลับไปจริง ๆ เหรอ?”
ฉันมีคนสนิทไม่เยอะมาก และส่วนมากก็อยู่ไกลกัน และเพื่อนคนเดียวของฉัน ซัมเมอร์ ตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในคุก
ว่ากันตามจริง ถ้าเฮนรี่กลับไปฉันคงจะหงอยมากเลยล่ะ
แต่ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เริ่มมีสายโทรตามเขาเยอะมากแล้ว
ฉันได้แต่คิดถึงสิ่งที่เฮนรี่ต้องกลับไปดูแลที่บ้าน เขายังมีสิ่งที่ต้องทำ คนที่ต้องดูแล ฉันคงเกลียดตัวเองมากแน่ ๆ ถ้าฉันรั้งเขาไว้
นอกจากนี้ ฉันยังทำให้เขาต้องมารับรู้เกี่ยวกับการป่วยเจียนตายของตัวเองอีก
ฉันก้มหน้าลงก่อนเอ่ยยืนยันคำเดิม “ใช่ ให้เวลาฉันอยู่กับตัวเองบ้างนะคะ”
“อยู่กับตัวเองมาเก้าปียังไม่พอหรือไง?”
แคโรถึงกับตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คำพูดของเฮนรี่ทำให้เธอระลึกได้ว่าเป็นเวลากว่าเก้าปีแล้วที่เธอเสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วรามกับชั่วพริบตา แต่เธอยังไม่เคยได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลยซักอย่าง
สิ่งเดียวที่เธอตัดสินใจทำลงไปกลับกลายเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ
หากเธอย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่มีทางตอบตกลงแต่งงานกับ ดิกสัน เกร็ก เป็นแน่
ฉันได้แต่คิดย้อนไปพลางขมวดคิ้ว “ขอบคุณนะคะ พี่เฮนรี่ สำหรับที่พี่ดูแลฉันตลอดสามสี่มาวันนี้”
เมื่อฉันเอ่ยปากตอบกลับไปแบบนี้ เขาถึงยอมตกลงว่าจะกลับไปที่เมืองอู๋
เขาเดินไปส่งฉันที่ห้อง พลางช่วยเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้อย่างแผ่วเบา เฮนรี่ไม่สบอารมณ์เมื่อเขาเห็นรอยแผลเป็นจาง ๆ บนใบหน้าของฉัน ก่อนถามเสียงสั่น “เกิดอะไรขึ้น?”
ความทรงจำเหล่านั้นหวนกลับคืนมาอีกครั้ง ในวันที่ดิกสันผลักฉันล้มลงบนพื้นเพราะเกวน ดิกสันไม่แม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำว่าฉันเจ็บปวดขนาดไหน
หลังจากนั้น เขาก็ไม่เคยกังวลถึงอาการบาดเจ็บของฉันอีกเลย
ฉันยิ้มจาง “ฉันแค่หกล้ม”
“ถ้าล้มธรรมดาจะเป็นแผลขนาดนี้เหรอ?”
เฮนรี่รู้ว่าฉันโกหก แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ซักไซร้อะไรต่อเพราะไม่อยากทำลายความสบายใจของฉัน ฉันกระพริบตาก่อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องที่ดูจริงจังกว่าเรื่องนี้แทน “การถอดถอนธุรกิจกับตระกูลเกร็กจะไม่ส่งผลเสียต่อตระกูลคุกเหรอ?”
เฮนรี่มองออกว่าไม่มีทางปกปิดเรื่องนี้กับฉันไปได้ตลอด เพราะที่ผ่านมาฉันก็ทำงานอยู่ในแวดวงนักธุรกิจเช่นเดียวกับเขา “แน่นอน มันอาจจะมีปัญหาบางอย่างตามมา แต่ว่าตระกูลเกร็ก ก็ต้องโดนผลกระทบเหมือนกัน แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ”
ฉันได้เบนสายตาไปบนพื้นขณะรับฟัง “ขอบคุณนะคะ พี่เฮนรี่”
“แคโร เธอคือทายาทตระกูลชอว์ คนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ ด้วยสายเลือดตรงที่ยังคงไหลเวียนและกอบกุมไว้ซึ่งอำนาจ ถ้าเธอเลือกที่จะทิ้งทั้งหมดนี้ไป มันก็ต้องเป็นคราวของฉันที่จะปกป้องดูแลเธอ ฉันอยากจะทำให้เมืองอู๋และ ดิกสัน เกร็ก รู้ว่าถึงหมอนั่นจะจะปฏิเสธเธอ แต่เธอคือสิ่งสำคัญที่สุดของที่สุดสำหรับฉัน”
“สำคัญที่สุดของที่สุด...”
เฮนรี่เดินลงไปเตรียมอาหารร้อน ๆ สำหรับฉันก่อนที่เขาจะเดินทางกลับเมืองเอส แถมยังโทรมาบอกด้วยว่าเขาเดินทางถึงเมืองเอสอย่างปลอดภัยแล้ว เฮนรี่ย้ำกับฉันอีกครั้ง “โทรมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเข้าใจไหม มันใช้เวลาแค่สองชั่วโมงจากเมืองเอสมาที่นี่ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน ฉันจะมาหาเธอภายในสองชั่วโมง เพราะฉะนั้นแคโร ได้โปรด อย่าเผชิญปัญหาแค่คนเดียวอีก”
ฉันรีบตอบกลับไปด้วยหัวใจที่โดนเยียวยา “ฉันรู้สึกขอบคุณแม่มาก ๆ ที่มอบพี่ชายที่แสนดีให้กับฉัน”
“เด็กโง่เอ้ย เธอคือทุกอย่างแล้ว”
ฉันแอบอมยิ้ม “พี่สะใภ้ต้องอิจฉาแน่ ๆ เลย”
“ไม่หรอก หล่อนรักเธอมากเหมือนที่ฉันรัก”
“โอเค งั้นฉันวางสายแล้วนะ”
หญิงสาววางสายไป และในไม่กี่นาทีต่อมาเธอจึงลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ไม่นานมานี้เธอได้รับสายจากคุณกรีน หล่อนเคยเป็นคนสอนเปียโนของเธอ เช้าวันถัดมา แคโรติดต่อกลับไปยังคุณกรีนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคลาสเรียนเปียโนของเธออีกครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยฟื้นฟูให้ทักษะเปียโนของเธอกลับมา นอกจากนี้ มันก็ไม่แปลกที่เธอต้องการคุณกรีนเป็นคนช่วยเรื่องนี้ นั้นก็เพราะแทบจะเรียกได้ว่าหล่อนคือคุณครูสอนเปียโนที่เก่งกาจของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของเมืองอู๋เลยก็ว่าได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ