“เรื่องแค่นี้ทำไมไม่ไปขอให้พ่อนายช่วยเองล่ะ?” แคโรกัดฟัน “ทำไมนายต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย? ที่ฉันพยายามโทรหาแซคคารี่ ก็เพราะว่าเลขาของฉันไม่ว่าง และฉันก็ไม่ได้รู้จักใครในเมืองถง ถ้าไม่ใช่แซคคารี่แล้วจะให้ฉันหวังพึ่งใคร?”
ทว่าก่อนที่ฌอนจะได้โต้เถียงกลับ เสียงจากปลายสายที่รอคอยก็ดังขึ้น
พลันเสียงของแซคคารี่ก็ดังลอดออกมา
“มีอะไร?”
“พี่รอง ตอนนี้ฉันติดอยู่ที่สถานีตำรวจ”
อีกฝ่ายเงียบไป
“คุณช่วยพาตัวฉันออกไปได้ไหม?”
ทว่าปลายสายกลับวางหูลงทันที ฌอนยิ้มเหยียดก่อนจะเอ่ยเย๊าะเย้ย
“ไงล่ะ เขาพึ่งเมินคุณไปเนี่ย!”
มือเรียวทิ้งโทรศัพท์ไปอีกทาง
“แซคคารี่จะมา” ฉันโต้กลับ “เพราะถ้าเขาไม่มาเขาจะต้องปฏิเสธไปแล้ว”
ฌอนถอนหายใจเบื่อหน่ายกับความคิดของฉัน
“เรามารอดูกันดีกว่า” นาธานเอ่ยพลางยิ้ม “ถ้าแซคคารี่ไม่มา เดี๋ยวฉันโทรหาเลขาของให้”
นาธานมองไปยังยารา ที่กำลังนั่งทำการบ้านไปพร้อมกินขนมไปข้าง ๆ นายตำรวจท่านหนึ่งอย่างหมดหวัง
“ไม่มีทางหลบหนีไปได้เลยสินะ” พูดพร้อมกลืนน้ำลายดังอึก
แคโรเบนสายตาไปนั่งหญิงสาวด้านข้างบ้าง เมื่อก่อนฉันมองว่ายาราเองก็ดูเหมือนเด็กสาวใสซื่อธรรมดาคนหนึ่ง แต่นั้นเป็นเพียงภาพลวงตา เธอแค่แกล้งโง่เพื่อรอฉวยโอกาสในสถานการณ์นั้น ๆ มากกว่า
ฉันจมอยู่กับความคิดของตัวเองพักใหญ่ ก่อนจะได้ยินเสียงของฌอนที่โพล่งถามออกมา “คุณสนิทกับแซคคารี่มากเลยเหรอ?”
“ไม่อ่ะ พูดตรง ๆ ฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องของเขาขนาดนั้น” ฉันตอบ
“แต่ดูเหมือนคุณคงหนีไปจากเขาไม่ได้แล้วล่ะ” พลันเสียงเขากลับจริงจังขึ้น
“พูดบ้าอะไรของนาย?” คิ้วเรียวขมวดคิด
“จะทำอะไรก็ทำ พูดอะไรไปคุณก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี”
บรรยากาศระหว่างเราตอนนี้เริ่มตึงเครียด ทว่าไม่นานอีกฝ่ายกลับถอนหายใจออกมาพลางเอ่ย “แคโรไลน์ ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณเสมอนะ”
“ขอบคุณนะฌอน” ฉันยิ้มบาง
ฉันขอบคุณเขาที่เลือกจะยอมรับและเข้าใจ
ทุกคนต่างคิดว่าแซคคารี่คงไม่มาแล้ว แต่ในขณะที่กำลังถอดใจ ร่างสูงใหญ่ของเขากลับปรากฎตัวขึ้นพร้อมชายกลุ่มใหญ่ที่เดินตามหลังเขาเข้ามายังสถานีตำรวจ
และพอนาธานเห็นเขา อีกฝ่ายก็ถอนใจออกมาอย่างหมดหวัง
“จบเห่เลย” นาธานพึมพำ “พ่อฉันก็มาด้วย แซคคารี่คงรีบออกจากที่ประชุมมาแน่ ๆ พ่อเลยตามเขามาแบบนี้!”
ฉันชะงักไปนิด
ก่อนมองไปยังบรรยากาศรอบตัวอันแสนดุดันของแซครารี่ ร่างสูงกำลังยืนฟังคำอธิบายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคุยจบเลขาแยร์ก็เดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อจัดการกับเอกสารให้เรา และไม่นานก็ถูกปล่อยตัว
ฉันเดินเข้าไปหาแซคคารี่ด้วยความรู้สึกผิด พลางเหลือมองท่าทีเย็นชาของอีกฝ่ายอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทว่าร่างสูงกลับหมุนตัวเดินออกไปจากสถานีทันที
ไม่มีแม้แต่คำพูดซักคำ
ขาเรียวเร่งสาวเท้าตามไปทันควัน เลขาแยร์ที่เดินอยู่ด้านข้างเอ่ยเบา ๆ ว่า “คุณชิคกำลังโกรธ”
“เขาโกรธเรื่องอะไรกัน?” ฉันถาม
“เขาคิดว่าคุณเอาตัวเองไปเสี่ยงบนรถแข่งบ้า ๆ นั่น”
“ฉันไม่ได้ขับเลยด้วยซ้ำ” แคโรรีบอธิบาย “ฉันแค่นั่งดูพวกเขาแล้วโดนหางเลขไปด้วยต่างหาก”
“นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องอธิบายกับคุณชิคเองแล้วล่ะครับ” คุณเลขาย้ำ
แซคคารี่โน้มตัวเข้าไปนั่งในรถ แล้วหมุนแหวนบนนิ้วเล่นราวกับคิดบางอย่าง ฉันรีบนั่งลงข้างเขา ก่อนจะสังเกตเห็นรอยฟันที่อุ้มมือหนา
“ฝีมือฉันสินะ?” ถามหยั่งเชิง
แต่คนข้างกายก็ยังคงนิ่ง จนต้องกระตุกชายเสื้อสองสามครั้ง
“อย่าเป็นแบบนี้ อย่าโกรธฉันเลยนะ!”
“เธอจะเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นอีกไหม?” เสียงเข้มถามขึ้น
ร่างสูงยังคงเข้าใจว่าฉันลงไปลุยในสนามแข่ง แต่ฉันก็ไม่ได้อธิบายถึงความจริง และปล่อยในเขาเข้าใจผิดแบบนั้นต่อไป ฉันแค่รู้สึกดีที่เห็นอีกฝ่ายแสดงออกถึงความเป็นห่วงกัน
“พี่รองห่วงฉันใช่ไหม?”
ริมฝีปากหนาเม้มเข้าหากันแน่นไม่พูดอะไร มือบางจึงคว้ามือหนามาจับไว้พร้อมเอ่ยเน้นว่า “พี่เป็นห่วงฉัน”
“หยาบคายน่า ปล่อยมือฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ