หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 44

ฉันหันไปหาเจ้าของเสียงนั่น ก่อนจะยืนนิ่งงุนงันปนตกใจเพียงเพราะสายตาอ่อนโยนจากชายคนนั้น แต่เมื่อฉันพยายามจ้องกลับเข้าไปในดวงตาของเขา สิ่งที่สะท้อนออกมามีเพียงแค่ความเย็นชาและระยะห่างระหว่างเรา

ดิกสันพูดถูก พวกเขาพี่น้องไม่ต่างกันเลยซักนิด ทั้งความเย็นชานี้ และความรู้สึกไกลห่างที่ฉันได้รับ

หญิงสาวพยายามใช้น้ำเสียงหนักแน่นเพื่อยืนยัน “ฉันแค่มาทานข้าวเฉย ๆ”

ลอเรนยิ้มพลันเอ่ย “ถ้าฉันรู้ว่าพี่จะมานะ เราคงได้ทานอาหารด้วยกันไปแล้ว”

ริมฝีปางบางเม้มเบา ๆ พร้อมอธิบาย “ฉันพึ่งจะเสร็จงานที่ออฟฟิศน่ะ ฉันไม่ได้ต้องการจะเบี้ยวเธอนะ”

แคโรไม่อยากจะผลัดนัดหรือทำให้ลอเรนรู้สึกแย่จากการปฏิเสธของเธอ และฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำเหมือนลอเรนเป็นไม้กันระหว่างเธอกับชายหนุ่ม ทว่าเธอกัลไม่พร้อมจะสู้หน้าแลนซ์ในตอนนี้จริง ๆ

ลอเรนค่อย ๆ เอื้อมมือมาขว้าแขนของฉันไว้ พลางเอ่ยชื่นชม “พี่แคโคไลน์ พี่เป็นคนที่สวยมา ๆ เลย การแต่งหน้าอ่อน ๆ แบบนี้ทำให้พี่ดูเด็กลง น่ารักเหมือนเด็กน้อยเลยค่ะ พี่อายุเท่าไหร่กันแน่คะเนี่ย พี่แคโรไลน์?”

เมื่อได้ยินลอเรนพูดแบบนั้น สายตากลับตวัดมองไปยังแลนซ์ที่ยืนมองเราคุยกันอยู่เงียบ ๆ อย่างลืมตัว เขาสบตาฉันด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าเมื่อครู่ ก่อนจะเอ่ย “ลอเรน คุณแคโรไลน์เกิดปีหนึ่งเก้าเก้าหก”

แลนซ์รู้แม้กระทั่งปีเกิดของฉันงั้นเหรอ เป็นอีกครั้งหัวใจกลับมาสั่นไหวจากการกระทำอันน้อยนิดของเขา

ลอเรนได้แต่ยืนอึ้ง “เก้าหกเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณอายุน้อยกว่าฉันเหรอคะ?”

ฉันยิ้มตอบเธอเล็กน้อย ลอเรนได้แต่ทำแก้มพองอมลมเชิงขัดใจ “งั้นฉันก็เรียกคุณว่าพี่แคโรไลน์ไม่ได้แล้วสิ?”

แต่ฉันกลับคิดว่าเธอยังสามารถเรียกแบบนั้นได้ เพราะอย่างน้อยฉันก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเธอ

ร่างบางได้แต่คิดอยู่ซักพัก ก่อนตอบ “เธอยังเรียกแบบเดิมได้นะ ยังไงซะ ฉันก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเธอ”

สีหน้าของแลนซ์ไม่เปลี่ยนแปลงเลยซักนิดแม้จะได้คำว่า ‘พี่สะใภ้’

แคโรซ่อนความผิดหวังเล็ก ๆ นี้ไว้ พลันเอ่ย “ฉันเป็นภรรยาเก่าของดิกสัน น้องชายคุณค่ะ”

ลอเรนผงะถอยหลังสุดตัว ก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนของฉัน

ฉันยิ้มให้พวกเขาพลันเอ่ย “ฉันยังมีธุระที่ต้องไปทำต่อ ไว้ครั้งหน้าฉันจะเลี้ยงข้าวพวกคุณทั้งสองนะคะ”

ขาเรียวก้าวเท้าหันหลังเดินออกมาจากร้านอาหาร พลางเงยหน้ามองก้อนขาวเล็ก ๆ ของเกร็ดหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมา พร้อมความรู้สึกหวิวที่เกิดขึ้นในใจ ไม่นานนัก ฉันก็ค่อย ๆ เริ่มเดินลงไปลุยหิมะพวกนั้น ก่อนจะรับรู้ถึงร่มสีดำคันใหญ่ที่มาขวางเกร็ดหิมะไว้ไม่ให้โดนตัว

ใบหน้าสวยหันกลับไปช้า ๆ ครั้นตกใจเมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าคือเขาคนนั้น “คุณตามฉันมาทำไม?”

เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยบอกฉัน “ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน”

จากมือที่แบออกอยู่ก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นกำหมัดแน่น “ฉันขับรถมา”

แลนซ์ยังคงยืนกราน “งั้นผมจะไปส่งคุณที่รถ”

หญิงสาวได้แต่เงียบ

ลานจอดรถอยู่ห่างออกไปประมาณยี่สิบเมตร

แคโรยืนจ้องมองชายหนุ่มต้องหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ ดูเหมือนว่าแลนซ์จะชอบใส่เสื้อโค้ทตัวยาวคลุมเข่าแบบนี้เหลือเกิน สีน้ำเงินเข้มของเสื้อโค้ทตัวนั้นทำให้ร่างสูงดูหล่อเหลามากกว่าปกติ รูปลักษณ์ของเขาล้วนคล้ายคลึงกับดิกสัน ฉันได้แต่หัวเราะกับตัวเองเมื่อคิดถึงมัน พวกเขาเหมือนกันอย่างกับแกะ

แต่ว่าอันที่จริงระหว่างดิกสันกับแลนซ์ก็มีส่วนที่แตกต่างเหมือนกัน แลนซ์ไม่เคยแคร์ว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร จะรวยจะจน จะร้อนหรือหนาว เขาไม่สน แลนซ์เป็นนักดนตรีที่เล่นคอนเสิร์ตไปตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เขาดูเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ คนหนึ่ง

และเป็นคนง่าย ๆ ที่ค่อนข้างแสดงออกถึงความเจนโลก รวมทั้งมีความเป็นผู้ใหญ่ทั้งภายในและภายนอก

ฉันหันหลังกลับก่อนเดินไปที่ลานจอดรถ

หิมะยังคงตกลงมาเรื่อย ๆ พร้อมเสียงรองเท้าหนาของเขาที่เดินตามหลังฉันมาไม่ขาด เราทั้งคู่เดินมาถึงลานจอดรถเร็วกว่าที่คิด แลนซ์ยิ้มให้ฉันบาง ๆ ก่อนพูด “เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเมื่อเก้าปีก่อน”

ฉันโต้กลับทันควัน “ใช่ ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ชอบแค่คุณคนเดียว”

ในตอนนั้นเธอพึ่งสูญเสียครอบครัวที่รักไปไม่นาน จึงทำให้ทุกความรู้สึก ทุกอารมณ์เสน่ห์หาเอียงไปหาชายหนุ่มตรงหน้าทั้งสิ้น

รวมทั้งเพราะแลนซ์คือสิ่งปลอบใจเดียวที่อยู่ในใจของเธอเสมอมา

จึงเป็นเหตุผลให้ฉันตัดสินใจทำทุกอย่าง โดยปราศจากการไถ่ถามความคิดเห็นจากคนอื่น ๆ และเพื่อทำให้เขากลายมาเป็นที่พึ่งทางใจเพียงหนึ่งเดียวของฉัน

ร่างสูงนิ่งเงียบพลางมองเข้ามาที่นัยยตาของหญิงสาว แม้ว่าดวงตาคมคู่ของชายหนุ่มมักจะไม่แสดงความรู้สึกใดใดออกมา ทว่าดวงตาของเขากลับทำให้ฉันนึกถึงกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อยนับพัน ริมฝีปากบางเม้มแน่น แคโรอยากจะถามถึงเจตนาที่แท้จริงที่เขาทำแบบนี้ แต่มันกลับไม่ง่ายเลยเมื่อเป็นคนคนนี้ เขาทำให้เธอรู้สึกกลัวคำตอบ คำตอบที่ว่าเธอเป็นฝ่ายจมปลักกับรักข้างเดียวมาตลอดเก้าปีที่ผ่านมา

บางครั้ง การเผยมันออกไปอาจจะมีแต่สร้างภาระและความทุกข์ใจให้กับเขา

นอกจากนี้ ความรู้สึกตลอดระยะเวลาสามปีที่ฉันได้ใช้ชีวิตร่วมกับดิกสันยังคงเป็นน็อตที่ยึดแน่นจนไม่สามารถไขมันให้หลุดออกไปได้

ฉันบังคับตัวให้หลับตาลงเพื่อลบเลื่อนชายตรงหน้า พลางตัดสินใจเปิดประตูรถเตรียมขับออกไป พลันแลนซ์กลับพุ่งเข้ามาลูบศรีษะ ก่อนจะดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

แคโรได้แต่ยืนอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใกล้เขาขนาดนี้ และเขาเป็นคนที่ดึงเธอเข้าไปกอดเอง...

มือทั้งสองของฉันสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ฉันอยากจะกอดเขาตอบมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วดันเป็นตัวเธอเองที่ไม่มีความกล้าพอจะทำแบบนั้น

“ยัยเด็กบ๊อง ฉันเคยถามเธออยู่ครั้งหนึ่งว่าทำไมเธอถึงเอาแต่ตามฉันไปทั่ว จำได้ไหม”

ฉันนึกคิด ก่อนจำได้ว่าเขาเคยพูดแบบนั้นเมื่อตอนที่ฉันยังเด็กกว่านี้ และเป็นวัยที่ฉันยังไม่เข้าใจถึงความหมายของคำว่ารัก

ทว่าวันถัดมา แลนซ์ก็หายไปจากโลกของฉันตลอดกาล

“แล้วตอนนี้เธอเข้าใจคำว่ารักแล้วใช่ไหม?”

เสียงเข้มที่เรียบนิ่งและอ่อนโยน หญิงสาวจรดปรายคางของเธอลงบนไหล่หนาของชายหนุ่มแผ่วเบา พลางเงยหน้ามองไปยังหิมะเม็ดขาวนุ่มที่กำลังล่วงหล่นจากท้องฟ้า

แลนซ์ต้องการจะบอกอะไรเธอกันแน่?!

ฉันกัดริมฝีปากแน่นกว่าเดิม และเอ่ยพึมพำ “คุณหมายความว่ายังไง?”

ทุกคนต่างรู้ดีว่าตัวเธอไม่ได้มีสุขภาพที่ดีเหมือนแต่ก่อน

และเหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้น่าอึดอัดมากถึงมากที่สุด

แต่เขาดันถามอะไรแบบนี้กับฉันเนี่ยนะ?!

มือหนาลูบหลังศรีษะฉันอย่างแผ่วเบา เสียงทุ้มนุ่มเอื้อนเอ่ย “เด็กน้อย ฉันขอโทษจริง ๆ นะ เวลานี้มันอาจจะ...”

“แลนซ์ ทำไมพี่ถึงกอดพี่แคโรไลน์แบบนั้น?”

ไม่ทันจะได้เอ่ยต่อ กลับมีเสียงของลอเรนขัดขึ้นมาเสียก่อน แขนแกร่งค่อย ๆ คลายออก ก่อนที่ฉันจะโค้งลาเขาเล็กน้อยพลางก้าวเท้าขึ้นรถไป หลังจากที่ฉันกดปุ่มสตาร์ทรถ เสียงแว่ว ๆ ของลอเรนก็ลอดเข้ามาให้ได้ยินอีกครา “แลนซ์ พี่ชอบพี่แคโรไลน์เหรอ? แต่เธอเป็นภรรยาเก่าของดิกสันไม่ใช่หรือไงกัน?”

แลนซ์ดุเธอติดเล่น “ไร้สาระน่า”

หากคนเป็นน้องยังคงถามต่อด้วยความไม่เข้าใจ “งั้น แล้วพี่จะกอดเธอทำไมล่ะ?”

“ลอเรน แคโรเป็นคนที่น่าสงสารมาก ๆนะ”

ฉันแทบจะพูดอะไรไม่บอกเมื่อได้ยินคำตอบของเขา

อย่างนั้นคุณคงกอดฉันเพราะความสงสาร เวทนาฉันอย่างนั้นสิ?

แคโรเหยียบคันเร่งรถ ก่อนจะเร่งเครื่องออกไปจากบริเวณนั้นทันควัน ฉันไม่สามารถรับรู้สิ่งที่พวกเขาคุยกันต่อได้อีก หลังจากที่แลนซ์พูดประโยคนั้นออกมา ประโยคที่สั้นแต่เจ็บยิ่งกว่าคมมีด “ฉันปฏิเสธเธอ”

เสียงของลอเรนและบทสนทนาต่าง ๆ ยังคงกังวาลอยู่ในหัว “แสดงว่าพี่รักเธอเหรอ?”

“เมื่อเก้าปีก่อน ฉันไม่ได้ปฏิเสธเธอให้ชัดเจน”

ทว่า หากเขาไม่ได้มีใจ ทำไมเขายังคงเล่นเพลงนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อีกล่ะ?

“ถนนแห่งสายลม” คือเพลงหลบซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุดในจิตใจของแลนซ์

“ถ้างั้น เพราะอะไรพี่ถึงปฏิเสธฉัน?”

สีหน้าของแลนซ์เปลี่ยนเป็นเรียบตึงราวกับก้อนหิน ซึ่งเป็นอะไรที่ยากจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้จากเขา เสียงเข้มเอ่ยตัดทันที “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก”

ร่างสูงเงียบไปซักพักก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่ “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอควรกลับไปที่ตระกูลเกร็กแล้วอยู่กับดิกสันที่นั่น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ