หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 47

ร่างบางรีบลุกออกจากเตียงพลางจัดชุดนอนของเธอให้เรียบร้อยมิดชิด ฉันลุกขึ้นยืนข้างเตียงและจ้องมองไปยังชายตรงหน้าผู้มีสีหน้าท่าทางที่นิ่งขรึม มีเพียงดิกสันเท่านั้นที่หน้าไม่อายทำอะไรแบบนี้

แลนซ์จะไม่ผลุบเข้ามาในห้องนอนกลางดึกของเธอแบบนี้หรอก

ร่างสูงยักคิ้วขึ้นถาม “ผมไม่เป็นที่ต้อนรับไปแล้วเหรอ?”

พูดอยากกับว่าฉันต้องต้อนรับคุณหรือไง

แคโรพยายามควบคุมกักเก็บความโมโหเหล่านั้นไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พลันเอ่ย “ไม่ใช่ว่าคุณลืมฉันไปแล้วเหรอ? คุณยังจำรหัสเข้าบ้านของฉันได้ยังไง?”

ดิกสันลุกขึ้นฉับพลันพร้อมก้าวฉับฉับตรงเข้ามาหาฉัน เท้าเล็กก้าวถ่อยหลังทิ้งระยะห่างก่อนเอ่ย “บอกฉันมา”

ชายหนุ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม “ผมจำได้ดีหากเป็นเรื่องตัวเลข ถ้าผมเคยเห็นมันแล้ว ผมจะจำมันไปตลอด นอกจากนี้ ผมลืมแค่เรื่องของคุณ ไม่ใช่รหัสของคุณ และตัวเลขหนึ่งสองสองเจ็ดคงจะเป็นเลขวันเกิดของแลนซ์ พี่ชายผมสินะ”

เสียงเข้มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อพูดถึงคนเป็นพี่ ฉันเริ่มไม่พอใจพลันโต้ตอบ “อย่าพูดจาซี้ซั้วนะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับแลนซ์เลยซักนิด”

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม “ไม่เกี่ยวกับแลนซ์เหรอ?”

ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะเป็นฝ่ายถามเขากลับ “คุณคิดว่าระหว่างรหัสเลขกับแลนซ์มีความเกี่ยวพันกันงั้นเหรอ?”

สีหน้าของดิกสันเริ่มนิ่งตึงพลันก้าวเข้ามาคว้าข้อมือบางไว้ เสียงเข้มที่แสนจะเยือกเย็นเอ่ยเค้นออกมาอย่างสะกดกั้นอารมณ์ “ผมไม่สนว่าพวกคุณจะมีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน และผมไม่สนถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ในอนาคต คุณคือแคโรไลน์ ชอว์ คุณเป็นผู้หญิงของผมคนเดียว และจะไม่มีใครแย่งคุณไปจากผมได้”

“อา” ฉันได้แต่กระตุกยิ้มมุมปาก “จะจองหองเกินไปหน่อยไหมดิกสัน? เราทั้งคู่ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีกต่อไปแล้ว หรือหากว่ายังมี คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันแบบนี้ ทำไมคุณไม่ไปยุ่งย่ามกับยัยเกวน เวิร์ท แทนล่ะ?”

ทันใดนั้นริมฝีปากหนาก็ประกบลงมาทันทีราวกับไม่อยากฟังคำพูดเหล่านั้นจากฉัน

ผ่านไปซักพักร่างสูงตรงหน้าถึงเอ่ยออกมาอย่างนิ่มนวล “เพราะผมรักคุณแคโร”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินดิกสันพูดคำว่ารักกับฉัน ตั้งแต่ที่ฉันกลับมาที่เมืองอู๋

หญิงสาวหัวเราะแกมประชด ก่อนเอ่ยถาม “ไม่ใช่ว่าคุณลืมไปแล้วหรือไง?”

ลมหายใจยังคงระบายอยู่บริเวณแก้มของฉัน “ใช่ ผมลืมมันไปแล้ว แต่ว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันยังอยู่ ผมรู้สึกว่าตัวผมรักคุณมาก มากจนต้องมาที่นี่อีกครั้ง ผมห้ามตัวเองไม่ได้แคโรไลน์ ผมอยากเจอคุณอยู่ตลอดเวลา ทุกนาที ทุกวินาที”

“คุณนี่มัน... เลวจริง ๆ”

“ทุกคนคิดว่าคุณความจำเสื่อม แต่ฉันกลับเป็นคนที่เข้าใจถึงการกระทำของคุณมากที่สุด”

“ดิกสัน คุณเป็นคนชอบหาทางออกให้กับตัวเองเสมอ คุณกลัวว่าฉันจะไม่ยกโทษให้คุณ ดังนั้นคุณถึงต้องโกหกกับคนอื่น ๆ ว่าคุณความจำเสื่อม และนั่นจะทำให้ฉันเชื่อเหมือนกับพวกเขาว่าคุณสูญเสียความจำจริง ๆ! ฉันมั่นใจแบบนั้น ทว่าดิกสันที่ฉันรู้จัก คือชายที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองเก่ง และเขาจะไม่ยอมบอกรักผู้หญิงง่ายๆ เป็นแน่ อะไรที่ทำให้คุณยอมก้มหัวแบบนี้ดิกสัน?”

แคโรพยายามทำให้ดิกสันตบะแตก...

เพราะเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มเพียงแสร้งทำเป็นความจำเสื่อม

ร่างสูงตรงหน้ายังคงเงียบ เขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาขุ่นเคืองราวกับจะผาไหม้กัน แต่ดิกสันกลับไม่ได้อธิบายหรือพูดอะไรเพื่อแก้ตัวออกมา ทว่าชายหนุ่มเลือกที่จะถามด้วยเสียงนิ่งเงียบแทน “แคโรไลน์ คุณอยากจะเข้าใจเขาจริง ๆ ใช่ไหม?”

ดิกสันพูดถึงแลนซ์

“นี่มันคำถามแบบไหนกัน?”

ทั้ง ๆ ที่ฉันกำลังพูดเรื่องนี้แต่เขากลับพูดเรื่องนู้นเสียอย่างนั้น

“แลนซ์ ไม่เหมาะสมกับคุณ”

พลันดิกสันกลับโพล่งพูดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาไม่ได้ปฏิเสธที่ฉันกล่าวหาเขาว่าแสร้งความจำเสื่อม แต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับมันเช่นกัน เขาเลือกที่จะไม่สนใจประเด็นที่ฉันตั้งขึ้น

ฉันผละตัวออกห่างจากเขาอีกคราพร้อมกระชับเสื้อให้แน่นขึ้น ก่อนเอ่ยปัด “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ”

ได้ยินแบบนั้นดิกสันถึงกลับบึ้งตึงกว่าเดิม พลันถามเสียงเย็น “แคโรไลน์ คุณคิดว่าคุณไม่จะเป็นต้องกลัวอะไรแล้วใช่ไหม?”

ร่างบางถามกลับอย่างงุนงง “คุณหมายความว่ายังไง?”

ริมฝีปากหนาเม้มแน่นทว่าไม่ได้เอ่ยเอื้อนสิ่งใดออกมา

แคโรไม่เข้าใจสิ่งที่ดิกสันต้องการจะสื่อแต่เธอรู้ดีว่าชายคนนี้เก่งเรื่องข่มขู่คนอื่นขนาดไหน “คุณต้องการจะทำอะไร?”

ทันใดนั้นดิกสันก็ปรายตามาที่เธอ ก่อนจะจ้องเข้ามาราวกับดูดกลืน เสียงเข้มเอ่ยแผ่วเบา “ผมไม่อยากจะทะเลาะหรือมีปากเสียงกับคุณ แต่ถ้าผมไม่ทำ คุณจะคิดว่าผมเป็นคนไม่ใส่ใจกับเรื่องอะไรเลย แคโรไลน์ เส้นทางข้างหน้าของเราทั้งคู่ยังอีกยาวไกล และคุณยังมีเวลาอีกหลายปีสำหรับอนาคตข้างหน้า ผมแค่หวังว่าเราทั้งคู่จะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก”

ฉันถามกลับเสียงแข็ง “คุณจะทำอะไรกันแน่ดิกสัน?”

ร่างสูงยิ้มเยาะก่อนเอ่ย “คุณลองเดาดูสิ”

ฉันทำได้เพียงยืนนิ่งกับสิ่งที่ได้ยิน

ดิกสันเดินออกไปแล้วเมื่อจบประโยคเมื่อครู่

เขาขู่ฉันก่อนเขาไป

เธอตามความคิดของเขาไม่ได้เลยว่าจริง ๆ เขาคิดอะไรอยู่

แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ เขาไม่ละมือไปจากเธอง่าย ๆ แน่นอน

แคโรถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน หมดสิ้นทุกความรู้สึกง่วงงุน ฉันเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะเห็นแผ่นหลังแกร่งนั่นจากไปพร้อมไมบัคสีดำคู่ใจของเขา

บทที่ 48

ฉันเริ่มคิดถึงสิ่งที่ท่านประธานเกร็กบอกไว้เมื่อครู่ และข้อความเหล่านั้นคือความเป็นจริงทั้งสิ้น คนที่อยู่ด้วยกันกับเธอมาตลอดสามปี คนที่มอบความรู้สึกเหล่านั้นให้เธอเสมอมา ล้วนแล้วแต่เป็นดิกสัน เกร็ก

ร่างสูงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในหัวใจของฉันอย่างไม่สามารถสลัดออกไปได้

เขาทำให้เธอกล้าพอที่จะรักใครอีก

แคโรทำได้เพียงปิดซ่อนความทรงจำที่เขาเคยเรียกเธอ “ยัยเด็กบ๊อง” ให้เจือจางลงจากความรู้สึก และไม่คิดถึงมันอีก ฉันไม่อยากหวังอะไรไปมากกว่านี้แล้ว

ทันใดนั้นฉันกลับมีความรู้สึกอยากออกไปจากเมืองอู๋

การกลับมาครั้งนี้ของตัวเธอนั้นไม่มีความหมายอะไร

สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงทำให้ตัวเองถลำลึกลงไปในโชคชะตาที่แสนอนาถนี้

นัยน์ตาคู่สวยหลับลงพร้อมความรู้สึกแย่ ๆ ที่พรั่งพรูออกมา

ทำไมเรื่องมันถึงเลยเถิดขนาดนี้นะ?!

เป็นไปได้อย่างไรที่เธอคิดถึงแต่เรื่องของดิกสันทั้ง ๆ ที่คนที่เธอชอบคือแลนซ์...

ฉันกัดริมฝีปากพลางใช้ความคิด พลันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจองตั๋วเครื่องบินทันควัน

เธอต้องไปจากเมืองอู๋ให้เร็วที่สุด

เธอต้องการเพียงไปจากที่นี่และซ่อนตัวจากสิ่งต่าง ๆ

เช้าวันถัดมา หญิงสาวเก็บกระเป๋าเดินทางก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสนามบิน แคโรไม่ได้กลับไปที่เมืองเอส แต่จะไปที่เมืองถงแทน ซึ่งเมืองถงนี้คือเมืองที่แม่ของเธอจากมา

เมืองถงเป็นเมืองที่อยู่ติดกับเมืองอู๋ ดังนั้นสภาพภูมิอากาศของเมืองทั้งสองจึงมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ค่อยข้างมืดครึ้มและสงบ ฉันค้นหาโรงแรมสำหรับค่ำคืนนี้ก่อนจะโทรหาณอน ฟล็อก

ณอน ฟล็อก คือเพื่อนห่าง ๆ ของฉันที่ติดต่อกันบ้างครั้งคราว ณอนเคยบอกให้ฉันโทรหาหากจะแวะมาเที่ยวเขา

ชายหนุ่มถึงกับตั้งตัวไม่ทันเมื่อฉันโทรหา “เธอมาถึงเมืองถงแล้วใช่ไหม?”

ฉันยิ้มบาง ก่อนเอ่ย “ใช่แล้ว ฉันเลยโทรมาบอกนายไง”

ฌอนกับฉัน เราทั้งคู่เคยผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาด้วยกัน พ่อแม่ของฉันตายในเหตุการณ์เครื่องบินตก และแม่ของเขาก็นั่งไปในไฟล์ทนั้นด้วย...

เราทั้งคู่รู้จักกันเพราะเหตุการณ์ในปีนั้น

หลังเริ่มติดต่อกันมาเรื่อย ๆ

“รอก่อนนะ เดี๋ยวผมออกไปรับเธอ”

“ไม่เป็นไร ฉันว่าจะเดินเล่นแวะนู้นนี่ซักหน่อย ไว้เจอกันคืนนี้”

นิ้วเรียวสวยกดปุ่มวางสายพลางขยับเสื้อโค้ทให้เข้าที่ ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองเก่าใกล้ ๆ ฝนที่พึ่งหยุดตกไปไม่นานทำให้บรรยากาศของเมืองเก่านั้นเต็มไปด้วยหมอกชื้นแฉะ

เมืองนี้ไม่ได้สวยงามเท่าเมืองจินหลิง

เมืองจินหลิง ตั้งอยู่ที่มณฑลหนานจิง และเป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา

และเมืองนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งความหมายที่พิเศษสำหรับฉัน

ตัวอย่างเช่น ตุ๊กตาหิมะที่ฉันเคยปั้น

หรือตอนที่ฉันได้รับความอบอุ่นใจดีจากดิกสันที่นั้น

เธอยังคงจดจำความอบอุ่นเหล่านั้นได้ดี

และจนถึงทุกวันนี้เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่ตกหลุมรักผิดคนไม่ได้ มันคือเรื่องที่ผิดพลาดมหันต น่าสมเพช จนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับมัน

ถ้าหากเป็นไปได้ เธออยากจะย้อนกลับไปเมื่อเก้าปีก่อน

เธอจะไม่เข้าคลาสเปียโนนั่นเด็ดขาด

จะได้ไม่ต้องพบเจอกับแลนซ์

และทุกเรื่องปวดหัวที่ตามมาจะไม่มีวันเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นกลับเป็นเพียงแค่อดีต

ฉันคิดวนเวียนก่อนจะระลึกได้ถึงความสัจจริง ฉันควรปล่อยวางเรื่องอดีตที่ผ่านมา

และให้อภัยตัวเอง

มือบางคว้าโทรศัพท์พลันกดส่งข้อความหาลอเรนเพื่อถามเบอร์ติดต่อของแลนซ์ เธอส่งให้ฉันเร็วกว่าที่คิด พร้อมกับข้อความบางอย่าง “แลนซ์กำลังเล่นเปียโนอยู่ตอนนี้ อีกซักพักฉันจะกลับไปที่บ้านของตะกูลเกร็กเพื่อดูแลอาการของดิกสัน”

ข้อความของลอเรนดูเหมือนเธอจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง

ฉันคิดแบบนั้น พลางเลือกที่จะไม่ตอบข้อความของเธอ

ฉันสร้างกล่องข้อความขึ้นก่อนจะลบมัน พิมพ์แล้วลบข้อความเหล่านั้นแล้วซ้ำเล่า

ในหัวของฉันเต็มไปด้วยข้อความมากมายที่อยากจะพูดออกไป ทว่าท้ายที่สุด ฉันกลับพิมพ์ส่งไปเพียงแค่ห้าคำเท่านั้น “ฉันไม่ชอบคุณแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ