ฌอนเปิดประตูรถให้ฉัน ขาเรียวก้าวเข้าไปนั่งในรถหรูพลางถาม “เราจะไปไหนกันเหรอ?”
ร่างสูงยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เธอลองเดาดูสิ”
ฉันได้แต่ยักไหล่อยากช่วยไม่ได้ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ?”
ฌอนปิดประตูพลางเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ เขานั่งลงโน้มตัวลงมาช่วยรัดเข็มขัดให้ฉัน ทว่าจู่ ๆ ร่างตรงหน้ากลับถอนหายใจ พลันเอ่ย “ไม่นานมานี้ พ่อของผมทำให้สาว ๆ พวกนั้นกลัวจนทิ้งผมไปอีกแล้ว”
ฉันฟังก่อนจะเน้นให้กระจ่าง “ความจริงแล้วมันไม่เกี่ยวกับการกระทำของพ่อนาย แต่นายแค่ไม่อยากแต่งงานต่างหาก”
ฌอนเป็นชายหนุ่มที่มีผู้หญิงวิ่งเข้าหาเสมอไม่เคยขาด และเขาปฏิบัติต่อพวกเธอทุกคนดั่งสุภาพบุรุษแสนดี ทว่าในทางกลับกัน เขาก็เป็นอีกคนที่เย็นชาที่สุด โหดร้อนที่สุดสำหรับพวกหล่อนได้เช่นกัน ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับชายคนนี้สามารถถูกเขี่ยทิ้งได้ทุกเวลาแม้ว่าเมื่อครู่พวกเขาจะดูรีกกันหวานชื่นก็ตาม
คิ้วหนาเลิกขึ้นถามอย่างกวน ๆ “แล้วจุดประสงค์หลักจองการแต่งงานคืออะไรล่ะ?”
ฉันเลือกที่จะตอบสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป “เริ่มต้นสร้างครอบครัวของตัวเองก็เป็นอะไรที่มีความหมายนะ...”
ร่างสูงปรายตามองร่างเล็กข้างกาย พลันเอ่ยตัดบท “แล้วก็หย่ากันแบบเธออ่ะนะ?”
แคโรได้แต่เงียบ
เธอเพอกเฉยต่อสิ่งที่ฌอนพูด ก่อนที่เบนท์ลี่ย์สีดำคันหรูมาหยุดลงในย่านโคมแดงที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองถง
มันเป็นย่านที่คึกคักและเต็มไปด้วยแสงสีเจิดจ้า ฌอนจับมือของฉันไว้พลางนำทางเข้าไปด้านในของบาร์แห่งหนึ่ง วัยรุ่นชายหญิงต่างพากันโยกย้ายเต้นรำบนเวที
บริกรชายเลือกที่นั่งที่ค่อนข้างส่วนตัวให้เรา ฌอนสั่งเครื่องดื่มไปเล็กน้อย พลันหันมายิ้มให้ฉัน “แคโรไลน์ เธอเคยมาที่แบบนี้ไหม?”
ฉันส่ายศรีษะปฏิเสธพร้อมถามอย่างสงสัย “นายรู้ได้ยังไง?”
ตลอดชีวิตของฉันเติบโตมากับคำว่าหน้าที่ และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย และหลังจากที่เข้ารับช่วงต่อในการบริหารชอว์ คอปเปอเรชั่น ชีวิตของฉันยิ่งเปลี่ยนไปอยากกับคนที่ใช้ชีวิตตามแบบแผนที่วางไว้แต่ละวันเท่านั้น ถ้าจะให้พูดถึงช่วงหลังแต่งงานกับดิกสัน ฉันแทบจะทุ่มเทพลังงานทั้งหมดไปที่เขากับบริษัท แคโรยอมรับอย่างสัจจริงว่าเธอไม่เคยก้าวเท้าเข้ามาในสถานที่แบบนี้เลย
“เธอเหมือนกับกวางน้อยที่กำลังตื่นกลัว เอาแต่มองไปรอบ ๆ อย่าสงสัยใคร่รู้” ร่างสูงกล่าวออกมาอย่างหยอกล้อ “อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น ผมอยู่นี่ทั้งคน เธออยากจะสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหนก็ได้อย่ากังวลเลย”
ไม่นานนักเครื่องดื่มที่สั่งไปก็มาเสริฟ์ ฌอนเปิดมันออกก่อนจะยื่นขวดทรงสวยมาให้ฉัน มือบางโบกปฏิเสธ พลางเอ่ย “ฉันไม่ดื่ม ตอนนี้ฉันต้องกินยา และหมอสั่งห้ามดื่มเด็ดขาด นายดื่มเถอะ ฉันขอนั่งดูดีกว่า”
มือหนารีบยกมันออกไปให้ห่างเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอก “ผมเกือบลืมไปแหนะ”
ทว่าแววตาที่ส่องประกายคู่นั้นของฌอน ทำให้ฉันเชื่อไม่ลงจริง ๆ
ชายหนุ่มเปิดมันฝาอีกครั้งก่อนจะดื่มมันอย่างเพลิดเพลิน ไม่นานนักก็เริ่มมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาเดินเข้ามาขอทำความรู้จักกับเขา แต่ร่างสูงกลับปฏิเสธทุกคนที่เข้าหา ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้ามือของฉันไว้ พลันเอ่ย “โทษทีนะ วันนี้ผมมากับเพื่อนน่ะ”
หญิงสาวจากไปทว่าไม่ลืมทิ้งลายของนักล่าไว้ด้วยสีหน้าและท่าเดินที่แสนยั่วยวน ฉันยกยิ้มก่อนจะหันไปบอก “นายไปได้นะ”
ฌอนยิ้มตอบ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“แต่พวกหล่อนสวยสู้เธอไม่ได้ซักคน”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ทันใดนั้นร่างสูงก็ผลุดลุกขึ้นยืน พร้อมเอ่ยปาก “แคโรไลน์ ไปเต้นรำกันไหม?”
แคโรไม่รู้จักวิธีการเต้นซักนิดและอยากจะปฏิเสธเพื่อนคนนี้เต็มแก่ ทว่าเขากลับกุมมือของเธอ ก่อนจะออกแรงดึงไปยังบริเวณเวทีที่อยู่ไม่ไกล ตอนนี้เราทั้งคู่ยืนอยู่ตรงกลางหนุ่มสาวที่กำลังวาดลวดลายเต้นกันอย่างสนุกสนาน ฉันงุนงงแทบทำอะไรไม่ถูก
ฌอนโอบกอดเธอไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง ก่อนเอ่ย “ขยับตัวได้แล้วที่รัก ขจัดความกลัวพวกนั้นให้หมดไป ปลดปล่อยมันออกมา”
ทั้ง ๆ ที่ฉันเคยคิดว่าตัวเองเต้นไม่เป็น ทว่าภายใต้การชักนำของร่างสูง ตัวของฉันเริ่มปลดปล่อยและดื่มด่ำกับสิ่งใหม่นี้มากขึ้น ฌอนเป็นคนที่สูงมาก เส้นผมสีดำแทบจะปรกลงมาบังหน้าผากของเขา นัยยตาคู่คมจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
ฉันทำได้เพียงหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยสุข น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้ตัว นี่คือความรู้สึกของคำว่าชีวิตที่ฉันไม่เคยได้รับ
ผู้คนเริ่มแหวกทางให้เราทั้งคู่ ฌอนค่อย ๆ ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขน ให้ฉันเต้นไปตามเสียงดนตรี แคโรปรายตามองชายหนุ่มตรงหน้าที่เริ่มมีเหงื่อออกจากการเต้น มุมปากของเขาค่อย ๆ ยกโค้งขึ้นช้า ๆ พลันรวบตัวฉันเข้าไปกกกอดอีกครา
เพียงเสี้ยววิที่เราสบตา ริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงมาบนริมฝีปากฉันทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ