ทันใดนั้นฉันก็หมดสติไป
ฉันไม่คาดคิดว่าจะหมดสติแม้แต่น้อย เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ฉันก็เห็นชายคนนั้นนั่งอยู่ที่เบาะโดยสาร เขากำลังก้มหน้าก้มตาจดจ้องอยู่กับโทรศัพท์
ฉันอดกลั้นความรู้สึกอันยุ่งเหยิงไว้ก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อฝนเริ่มตกเบาลง ฉันก็ขับรถลงเขาต่อ ก่อนที่เราจะขับไปถึงใจกลางเมือง ชายคนนั้นก็ขอให้ฉันหยุดรถเพื่อให้เขาลง ฉันไม่ได้ตอบอะไรและจอดรถที่ริมทางหลวง
ชายคนนั้นกางร่มสีแดงของเขาอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากครับคุณผู้หญิง หากโชคชะตานำพา เราคงได้พบกันอีกครั้ง นี่ครับ ค่าโดยสาร”
เขาส่งเงินให้ฉันหนึ่งร้อยเหรียญ ฉันไม่ได้ปฏิเสธ และขับรถออกมาหลังจากนั้น ฉันเห็นเขามองตามเส้นทางที่ฉันจะขับไปจากกระจกมองหลัง เขายืนมองฉันอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน
ฉันหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะเลี้ยวไปเลนขวาของถนนและขับออกมา
กว่าจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว เพราะความเหนื่อยล้า ฉันนอนลงบนเตียงและหลับไปอย่างรวดเร็ว ในคืนนั้นฉันฝันประหลาด ฉันฝันถึงบางอย่างที่เกิดขึ้นตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก และฝันถึงคนที่ฉันเองก็ไม่รู้จัก
ฉันไม่รู้จักคน ๆ นั้น ที่อยู่ ๆ ก็เข้ามาอยู่ในความฝันฉัน ฉันเห็นหน้าเขาไม่ชัดด้วยซ้ำ
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อนอนลงบนเตียง สิ่งเดียวที่ฉันจำได้คือความฝันประหลาดเมื่อคืนนี้
มันคือความฝัน แต่มันไม่เหมือนความฝันเลย
มันเคยเกิดขึ้นตอนฉันเป็นเด็ก แต่ว่าฉันจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว
ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันมีสุนัขพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ ฉันชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่มีขนปกปุย อยู่มาวันหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีใครบางคนถามฉันขึ้นมา “แคโร หนูชอบมันไหม?”
ในตอนนั้น ฉันตอบเขาไปว่าฉันชอบมัน หลังจากนั้นสุนัขฉันก็หายไป ในตอนที่พบมัน มันก็ได้กลายเป็นศพไปแล้ว ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่เคยเลี้ยงสุนัขอีกเลย
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่เลี้ยงสุนัขอีก จนกระทั่งไม่นานมานี้ ฉันตัดสินใจรับเลี้ยงลูกสุนัขทั้งสองตัว ในขณะเดียวกัน ฉันยังมีเยอรมันเชพเพิร์ดอีกสองตัวที่มาร์ตี้ให้มา อยู่ที่ฟินแลนด์อีกด้วย
ฉันสูดหายใจเข้าก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำในห้องน้ำและกินยาต้านมะเร็ง ฉันคิดว่าฉันควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงเปลี่ยนชุดและเดินลงไปข้างล่าง
เมื่อลงมาข้างล่าง แอนดรูก็พูดกับฉัน “ผู้ชายของเธอกลับมาแล้ว เขาอยู่ในสวนน่ะ”
ฉันรีบวิ่งออกไป และเห็นแซคคารี่กำลังอุ้มเบลล่าไว้ในอ้อมแขน ในขณะที่ราฟกำลังคลานไปมาอยู่ข้างขาเขา เมื่อร่างสูงเห็นฉัน เขาก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
เขาถามแผ่วเบา “เพิ่งตื่นเหรอ? เธอหิวหรือเปล่า?”
ฉันสั่นหน้า “ไม่หิวค่ะ”
ฉันเดินเข้าไปอุ้มราฟจากพื้น เขานิ่งเงียบอยู่ในอ้อมแขนฉัน ในขณะที่เบลล่ายื่นมือของเธอมาหาฉัน
ฉันยื่นราฟให้แซคคารี่และแลกเปลี่ยนกันอุ้มเด็ก ๆ ฉันก้มหน้าลงหอมเบลล่า เมื่อเงยหน้าขึ้น แซคคารี่ก็แนะนำฉัน “ช่วงนี้เมืองอู๋ไม่ค่อยปลอดภัย เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอกับซัมเมอร์ว่าง อย่าเที่ยวไปไหนเตร็ดเตร่ล่ะ”
ฉันถามด้วยความเป็นกังวล “ทำไมเหรอคะ?”
“ตระกูลฮูลกับตระกูลเกร็กกำลังมีปัญหาขัดแย้งกัน ในตอนนี้ดิกสันกำลังช่วยเหลือคาริสซ่า เขาว่าจ้างทีมทนายมาให้คาริสซ่า และป่าวประกาศให้ทุกฝ่ายรู้ว่าเขาจะปกป้องเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังเติมเชื้อใส่ไฟ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังทำให้แกสตันพิการซึ่งทำให้ความขัดแย้งของพวกเขาแย่ลงไปอีก เมื่อตระกูลฮูลกับตระกูลเกร็กทะเลาะกัน ตระกูลอื่น ๆ ก็คงเคลื่อนไหวเหมือนกัน และตระกูลชิคก็คงตกเป็นเป้าเช่นกัน” แซคคารี่เงียบไปก่อนจะเสริมขึ้น “แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญกว่าคือผู้ทรงอิทธิพลเพิ่งจะมาถึงเมืองอู๋เมื่อเร็ว ๆ นี้”
ฉันถามโดยไม่ทันคิด “เพื่อนเก่าของคุณเหรอคะ?”
แซคคารี่ยิ้ม “มันพูดยาก แต่เขาเป็นหนึ่งในศัตรูของฉัน ไม่มีเรื่องดีเกิดขึ้นเลยตั้งแต่ที่เขามาที่เมืองอู๋ เธอลองขอให้วอลเลซมาที่นี่สิ หากวอลเลซอยู่ที่นี่ เขาอาจจะสามารถหยุดยั้งเขาไว้ได้”
แซคคารี่ขอให้ฉันชวนวอลเลซมาที่นี่ นั่นหมายความว่าศัตรูของเขาจะต้องแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากเสียจนแซคคารี่ต้องระวังตัว!
ฉันถามต่อ “เขาเป็นใครคะ?”
“เนบิวลา นั่นคือชื่อเล่นของเขา ไม่มีใครรู้ชื่อจริงเขา เพราะเขาไม่เคยบอกใครเลย”
แซคคารี่อุ้มราฟไปข้างกำแพง ราฟยื่นมือน้อย ๆ ของเขาออกมาเด็ดดอกกุหลาบ ฉันเดินเข้าไปใกล้และได้ยินแซคคารี่พูดต่อ “เขาไม่เชื่อในใคร แทนที่จะเป็นศัตรู ฉันคงต้องบอกว่าเขาตกเป็นเป้าหมายของเหล่ามหาอำนาจในยุโรปทั้งหมด ทุกคนกลัวเขา”
“กลัว?” ฉันถามด้วยความสับสน
ชายที่เหล่ามหาอำนาจในยุโรปหวาดกลัว?
“ฉันเคยพูดไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าเขามีบุคลิกที่อันตราย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ