ฉันรีบถาม “ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมชาร์ลสถึงมอบอำนาจให้เขาล่ะคะ? นั่นจะไม่เป็นการเสียเปล่าหรอกเหรอ?”
แซคคารี่เม้มปากและพูดเคร่งขรึม “บางอย่างมันก็ซับซ้อน พวกเราไม่ใช่ชาร์ลส ดังนั้นพวกเราไม่มีทางรู้ความคิดของเขาหรอก”
“เขาต้องมาหาคุณที่เมืองอู๋แน่เลยค่ะ”
ฉันพูดเช่นนั้นก็เพราะคนที่มีอำาจสูงสุดในยุโรปนั้นอยู่ที่เมืองอู๋ ซึ่งก็คือแซคคารี่
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แซคคารี่สั่นหัวก่อนจะพูดขึ้น “มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ”
“ใครอีกคะ?” ฉันถามและในที่สุดก็เข้าใจ ก่อนจะเดา “คุณเตือนไม่ให้ฉันออกไปเที่ยวเตร่กับซัมเมอร์ นั่นแปลว่าบลูสันก็ตกเป็นเป้าเหมือนกัน คุณกระทั่งพูดว่าวอลเลซควรจะมาที่นี่...”
แซคคารี่ตอบด้วยความหนักแน่น “ฉันบอกว่าเขามีบุคลิกที่เป็นอันตราย เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว มันรวมไปถึงบลูสัน, ชาร์ลส และคนอื่น ๆ ที่ทำให้เขาโกรธเคืองที่ยุโรปด้วย”
“ก่อนหน้านี้วอลเลซก็ทำให้เขาโกรธเหมือนกันเหรอคะ?”
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแซคคารี่ถึงบอกว่าฉันควรขอให้วอลเลซมาที่เมืองอู๋งั้นเหรอ? เพื่อมาเป็นเครื่องสังเวย?
“ก็นะ ผู้มีอิทธิพลที่ยุโรปส่วนใหญ่เคยทำให้เขาขุ่นเคืองมาก่อน” แซคคารี่กล่าว
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย
“ในตอนนั้น อิทธิพลในยุโรปของฉันเพิ่งจะเริ่มเติบโต เช่นเดียวกันกับชาร์ลส อุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดของพวกเราก็คือเนบิวลา เขาเป็นพวกทำลายล้างที่ไม่สนใจว่าอะไรถูก อะไรผิด และทำร้ายครอบครัวคนอื่นตามใจตัวเอง ตอนนั้นฉันถูกเขาบีบบังคับอย่างหนัก ดังนั้นฉันจึงรวมพลังของฉันกับชาร์ลส์ และตระกูลที่มีอิทธิพลอื่น ๆ เพื่อกำจัดเขา”
“พวกเราต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว” แซคคารี่พูดขึ้น “ทว่าเขากลับยังมีชีวิตอยู่ และเดินทางมาที่เมืองอู๋”
ชายผู้นี้สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าผู้มีอิทธิพลทั้งหมด ไม่เพียงเพราะเขาแข็งแกร่งที่สุด แต่เพราะเขามีบุคลิกที่เป็นอันตราย เขาสามารถทำสิ่งชั่วร้ายได้โดยไม่มีเหตุผล
ราฟมีกำลังไม่มากพอที่จะเด็ดดอกกุหลาบ เขาทำได้เพียงสัมผัสมันเบา ๆ แซคคารี่จึงช่วยเด็ดดอกกุหลาบและส่งมันให้เขา
แซคคารี่พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน “มันไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว เพราะตอนนี้เขาไม่ได้มีอำนาจมากนัก แต่การปรากฏตัวที่เมืองอู๋ของเขานั้นทำให้ฉันกับบลูสันเป็นกังวล ท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกครอบครัวของพวกเราก็อาศัยอยู่ในเมืองอู๋ พวกเรากังวลว่าเธอทั้งสองจะได้รับผลกระทบ”
สมาชิกในครอบครัวพวกเขามีเพียงฉันกับซัมเมอร์ รวมถึงฝาแฝดในอ้อมแขนของพวกเราเท่านั้น
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะระวังตัวเวลาออกไปข้างนอก”
แซคคารี่ไม่อยากพูดเรื่องเนบิวลาอีกต่อไป เขาพาฉันเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์ก่อนจะตรงไปที่ห้องครัว ฉันส่งเหล่าเด็ก ๆ คืนให้พี่เลี้ยงดูแล ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในครัว
แอนดรูเรียกฉันว่าพวกติดสามี ฉันเหล่มองเขาและถาม “คุณสโตนอยู่ไหนคะ?”
“เธอหลับอยู่”
ฉันจงใจถาม “แล้วพี่จะไปตอนไหนคะ?”
คำถามฉันทำให้แอนดรูหงุดหงิดจนแทบหายใจไม่ออก เขาบ่น “ฉันเพิ่งมาที่นี่ได้วันเดียวเอง เธอจะไล่ฉันแล้วเหรอ? ไม่ต้องรีบไปหรอก ฉันจะอยู่กับเจดอีกสองสามวัน ยิ่งไปกว่านั้น เอเลนก็อยู่ที่นี่ด้วย ฉะนั้นฉันจึงไม่อยากกลับเลยแม้แต่น้อย!”
เขาตั้งใจพูดคำเหล่านั้นออกมาในตอนท้าย เขาจงใจพูดเพื่อให้เอเลนได้ยินจากในห้องของเธอ แอนดรูช่างมีความคิดเจ้าเล่ห์เยอะเหลือเกิน!
ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยกับเขาอีกต่อไป ในตอนที่ฉันเข้าไปช่วยแซคคารี่ในครัว จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นมา “เมื่อวานนี้เธอไปไหนมา?”
“ทำไมอยู่ ๆ คุณก็ถามขึ้นมาล่ะคะ?”
เขาพูดอย่างไม่แยแส “ตอบฉันมา”
“ฉันอยู่ที่ร้านน้ำชาช่วงเช้า และไปบริษัทในตอนบ่าย พอตกกลางคืนฉันก็ขับรถขึ้นภูเขาเพื่อไปรับยารา รถของเธอเกิดเสียกระทันหัน นาธานกับแลนซ์ก็อยู่ที่นั่นด้วย พี่รองทำไมอยู่ ๆ คุณก็ถามเรื่องนี้ละคะ?”
“มันมีกลิ่นหอมติดอยู่รอบ ๆ ตัวเธอ” เขากล่าว
ฉันก้มหัวลงไปดม “ก็ไม่มีกลิ่นอะไรนี่คะ”
เขาขมวดคิ้ว และพูดเสริม “กลิ่นที่คุ้นเคย”
“หืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ