หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 91

ไม่รู้ว่าเพราะเสียงที่ตอบเปลี่ยนไปหรือเพราะดิกสันจับทางอีกฝ่ายถูก ปลายสายถึงรีบตัดไปแบบนั้น

ฉันไม่เคยคิดว่าดิกสันจะเดาว่าเป็น เกวน เวิร์ท

อย่างกับว่าเขาเคยเจอการกลั่นแกล้งลักษณะนี้มาก่อน

ร่างสูงยื่นโทรศัพท์คืนให้ฉัน ก่อนจะอธิบาย “เมื่อก่อนตอนที่ผมกับเกวนยังคบกัน ผมมักจะมกตัวอยู่กับงานจนลืมเธอ และเธอคงหงุดหงิดจนสร้างเกมลักษณะนี้มาให้ผมเล่น เธอจะชอบดัดเสียงและให้ผมเดาว่าเธอเป็นใคร แต่ผมก็ไม่สนใจเธอยู่ดี”

เมื่อพูดจบ นัยตาคมแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม พลางเอ่ย “ผมสืบเรื่องนี้เอง ถ้าเป็นเธอจริง ๆ... ผมจะกลับมาอธิบายเรื่องนี้กับคุณเอง”

สองเดือนก่อน ครั้งที่เกวนไปยั่วโมโหซัมเมอร์ จนเพื่อนของฉันโดนจับข้อหาขับรถชนเธอ ตอนนั้นดิกสันก็ยืนกรานที่จะให้คำชี้แจ้งต่อข้อกล่าวหาและอธิบายทุกอย่างกับเกวน

เพราะเขาเคยพูดว่า “ผมต้องชี้แจ้งทุกอย่างให้เกวนเข้าใจ เหมือนกับตอนที่คุณบาดเจ็บ ผมก็ต้องพยายามพูดหาคำอธิบายที่เหมาะสมให้คุณพอใจ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะสร้างปัญหาให้ผมอีก อีกทั้งคิดย้ำไปมาว่าผู้ชายที่เธอเชื่อใจ และหวังพึ่งพาคนนั้นแท้จริงแล้วไร้ความสามรถ”

ดิกสันเป็นผู้ชายที่ดีนะ

เพียงแค่... ถ้าเขารักคุณ

ฉันยิ้มบาง “อืม ฉันเชื่อคุณ”

ฉันเชื่อว่าเขาสามารถให้คำอธิบายกับฉันได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร

ร่างสูงยิ้มพลางยื่นมือมาลูบศีรษะของฉัน แคโรขยับตัวเข้าไปหาอ้อมแขนนั้นมากขึ้น ก่อนที่ดิกสันจะกระชับแขนที่วาดผ่านลำคอของฉันให้แน่นขึ้น

ร่างบางขยับตัวออกเล็กน้อย ทว่าชายหนุ่มกลับกอดเธอแน่นกว่าเดิม “อย่าพึ่งขยับ ให้ผมกอดคุณหน่อยนะ”

เสียงแหบทุ้มเอ่ยขอ

ผ่านไปไม่นานนัก ดิกสันก็ปล่อยฉันให้เป็นอิสระ แคโรเอนกายลงบนเตียงอย่างเกียจคร้าน ดิกสันลุกขึ้นยืนพลางใช้มือขยี้ผ้าขนหนูเช็ดลงบนผมที่หมาดใกล้แห้งของตัวเอง ร่างสูงอยู่ในชุดสูทตัวเดียวกันกับเมื่อวาน ทว่าเมื่อสังเกตเห็นปกเสื้อเชิ้ตตัวในมีรอยยับ คิ้วหนาพลันขมวดขึ้นทันควัน “อันที่จริงบริษัทชอว์ คอปเปอเรชั่น ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลเกร็กนะ ถ้าคุณคิดถึงความสะดวกสบาย จะสามารถย้ายไปอยู่บ้านของผมได้”

ฉันยังคงจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเกร็กตลอดสามปีนั้นได้ดี อยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียว รอคอยว่าเมื่อไหร่เขาจะรักฉันบ้าง แต่ว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย... สิ่งที่ฉันได้กลับคืนมาจากการอยู่ที่นั่นนะเหรอ? อย่าให้พูดจะดีกว่า

แม้ว่าจะเลิกขุดคุ้ยเรื่องในอดีตได้ แต่ในใจลึก ๆ แล้วฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่อยากกลับไปอยู่ที่นั่น “ไม่เป็นไร อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”

ดิกสันไม่ได้บังคับอะไรต่อ เพียงแค่เอ่ยฮึมฮัมราวพูดกับตัวเอง “งั้นตอนช่วงบ่าย ผมจะให้ผู้ช่วยย้ายของ ๆ ผมส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่”

นี่เขาคงวางแผนจะมาอยู่กับฉันที่นี่ถาวรเลยสินะ

“ฉันยังไงก็ได้ ว่าแต่ คุณจะกลับไปหนานจิงแล้วใช่ไหม?”

ดิกสันจัดพับแขนเสื้อของตัวเองพลางเอ่ยต่อ “รอให้คุณแม่ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยดีก่อน แล้วผมจะกลับไป คงจะประมาณอีกสองสามวัน คงไม่มีปัญหาอะไรมากมาย คุณพ่อก็ดูเป็นห่วงท่านมาก”

นัยน์ตาสวยมองไปยังคนตัวสูงอย่างสงสัย “ถ้าคุณพ่อเป็นห่วงคุณแม่ขนาดนั้น แล้วทำไมพวกท่านถึงหย่ากันล่ะ?”

ดิกสันก้าวเท้าไปยังหน้าต่างบานใหญ่ก่อนจะยืนพิงมุมขอบหน้าต่างไว้ แสงจากด้านนอกที่ส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องสี่เหลี่ยมนี้ดูสว่างขึ้นทันตา พลันได้ยินเสียงเข้มปนเศร้าเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ “พวกท่านต่างดื้อดึง ต่างคนต่างไม่อยากยอมรับความผ่ายแพ้ สุดท้ายเลยจบลงที่... คุณพ่ออยากขอคุณแม่แต่งงานอีกครั้ง แต่ด้วยความศักดิ์ศรีค้ำคอละมั้ง ถึงไม่ยอมเอ่ยปากขอไปตรง ๆ ซักที”

และฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าดิกสันจะพูดอะไรต่อ

ร่างสูงหันกลับมามองฉัน “คุณอยากแต่งงานกับผมไหม?”

เป็นดังคาด ฉันเดาถูกจริง ๆ

พลันเอ่ยปากตอบเขากลับ “มันไม่จำเป็นต้องรีบหนิ”

เมื่อเห็นท่าทีว่าฉันไม่ได้เอ่ยปฏิเสธ ร่างตรงหน้าจึงผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ผมจะเข้าไปจัดการอะไรที่บริษัทซักหน่อย อย่าลืมทานข้าวเช้าแล้วก็ยาด้วย”

แคโรพยักหน้ากลับไปอย่างว่าง่ายก่อนที่ดิกสันจะเดินเข้ามากอดเธอ หญิงสาวรอจนอีกฝ่ายขึ้นรถไปทำงานจึงค่อยหันกลับมาจดจ้องยังเบอร์ที่โทรเข้ามาเมื่อเช้า นิ้วเรียวกดโทรออกทันที

ฉันแค่จะลองโทร แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับสาย “คุณคือเกวนใช่ไหม?”

ปลายสายตอบกลับเร็วควัน “ไม่ใช่”

ทว่าเสียงนั้นกลับยังแหบพร่า

เลขาเคยบอกฉันไว้แล้วว่ามันคือการแปลงเสียงขึ้นมา

เมื่อคิดวนไปมากลับเริ่มนึกออกว่าคนที่เข้าข่ายที่สุดน่าจะเป็นใคร ฉันวิเคราะห์พลางยิ้มออกมา “มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าฉันป่วย และคนที่ชอบใช้วิธีหลอกเด็กแบบนี้... คุณรู้จักเกวนใช่ไหม? เพราะคุณรู้ว่าฉันป่วย และคุณรู้เกี่ยวกับเกวน และมีไม่กี่คนในโลกที่จะเหมาะเป็นหมากในครั้งนี้ ใช่ไหมล่ะ?”

อีกฝ่ายยังคงเงียบ ฉันลอบสังเกตพลันเอ่ยต่อ “เกวน ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีเส้นสายเยอะขนาดนั้น และเธอเคยเดทกับชายอื่นก่อนดิกสันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ถ้าฉันตรวจสอบรายคนล่ะก็ ฉันรู้แน่ว่าคุณเป็นใคร หวังว่าคุณจะไม่โดนฉันจับได้นะ”

ปลายสายไม่ตอบทว่ากลับถามคำถามโง่ ๆ ออกมาเสียอย่างนั้น “คุณเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าผมเอาเกมนี่มาจาก เกวน เวิร์ท?”

คำถามนั่นทำเอาฉันหัวเราะเสียงดังลั่น “คุณนี่มันโง่จริง ๆ”

อีกฝ่ายถามอย่างตกใจ “หัวเราะบ้าอะไร?”

“ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่ได้พูดซักคำว่าคุณเอาการเล่นโง่ ๆ นี่มาจากเธอ คุณต่างหากพูดมันออกมาเอง และคุณมันก็เป็นแค่ไอ้โง่คนหนึ่งที่อยากจะลองดีกับฉัน? รอฉันเจอคุณแล้วกัน ฉันจะลากคอคุณเข้าคุกแน่!”

ชายคนนั้นรีบวางสายไปในทันที ถึงแม้ว่าดิกสันบอกว่าเขาจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง แต่ฉันก็อยากจัดการด้วยวิธีของฉัน โดยการสั่งให้ชัคจัดการตรวจสอบประวัติชายหญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเกวน

หลังจากขี้แจ้งรายละเอียดอย่างอื่นกับชัคเรียบร้อย ฉันก็เดินทางไปเยี่ยมหาซัมเมอร์ทันที

สภาพจิตใจของเพื่อนรักคนนี้ดีขึ้นแล้ว แม้ว่าเธอจะยังเงียบและไม่ค่อยพูดอะไร ดวงตาสวยที่เคยแวววาวเหลือเพียงสีดำแห้งความหม่นหมอง เมื่อซัมเมอร์สังเกตเห็นฉัน เธอก็ขอร้องฉันให้ช่วยหาเบอร์โทรศัพท์ของ ชาร์ลส คอนเนอร์ ให้เธอ ฉันจึงให้เบอร์ติดต่อของ ชัค โจนส์ ไปแทนพลางเอ่ย “จากนี้ ชัคจะทำตามคำสั่งของเธอ ถ้าต้องการอะไร บอกเขาได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เขาจะช่วยเธอเสมอ”

ฉันยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ฉันจะให้อิทธิพลของ ชอว์ คอปเปอเรชั่น ทั้งหมดเพื่อช่วยเธอนะ”

ซัมเมอร์พุ่งตัวเข้ามากอดฉันพร้อมพูดขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันลูบที่ไหล่ของเธอเบาอย่างปลอบโยน “อย่าห่วงเลยซัมเมอร์ เธอต้องจำไว้ ไม่ว่าเรื่องราวจะแน่แค่ไหน แต่เราจะรับมือและจัดการมันไปด้วยกัน”

ในตอนนั้น ตอนที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง เพียงเพื่อที่จะช่วยเหลือเพื่อนสนิทคนเดียวเท่านั้น โดยที่ฉันไม่ได้หวังให้เธอตอบแทนอะไรเลย

และตัวฉันในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่า ในอนาคตเมื่อตัวเองโดดบีบจากตระกูลคอนเนอร์ โดยปราศจากที่พึ่งอื่นใด เธอจะเป็นคนที่ช่วยฉันออกมาจากกองไฟนั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ