หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 92

หลังกลับจากอพาร์ตเมนต์ของ ซัมเมอร์ จาคอปส์ ฉันก็มุ่งหน้าตรงไปที่ออฟฟิศทันที ช่วงนี้ชัคค่อนข้างจะยุ่งกับงานของบริษัท และธุระเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันไหว้วานให้เขาทำ ฉันรู้ว่าการทำหน้าที่เลขานั้นยุ่งยากมากแค่ไหน ทว่าชัคกลับไม่เคยบ่นแถมยังจัดการทุกอย่างได้ไร้ที่ติอย่างกับมือโปร

ฉันทำงานจนถึงช่วงบ่าย พลันได้รับสายต่อตรงเข้ามาจากดิกสัน เสียงเรียบเข้มพูดออกมาชัดเจนอย่างกับยืนอยู่ตรงหน้า “คุณกินข้าวหรือยัง?”

มือเรียวพลิกอ่านเอกสารพลางตอบ “ข้าวเที่ยงเหรอ?”

“ใช่ ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวผมจะแวะไปรับคุณเอง”

บริษัทของตระกูลเกร็กอยู่ไกลจาก ชอว์ คอปเปอเรชั่น ถ้าคำนวณเวลาไปกลับก็อาจจะราว ๆ สองชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แคโรลังเลอยู่ซักพักก่อนเอ่ย “ฉันกินแล้วล่ะ”

แต่ก่อนตอนที่เรายังไม่หย่ากัน ดิกสันจะยุ่งอยู่กับงานตลอดทั้งวัน ทุกครั้งที่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวของเขา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องงานทั้งสิ้น เพราะแบบนั้นฉันถึงไม่อยากจะรบกวนสองชั่วโมงที่มีค่านี้ แล้วเลือกโกหกเพื่อปฏิเสธเขาไปแทน

ร่างสูงไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ เพียงแต่ย้ำเตือนเรื่องกินยา พลันวางสายไป

ไม่นานนัก ชัคก็เคาะประตูห้องทำงานของฉัน ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมคำตอบที่น่าพอใจ “ท่านประธานครับ ผมรู้แล้วว่าคนคนนั้นเป็นใคร”

ฉันจ้องมองไปที่คนตรงหน้าทันที “ใคร?”

“เวนดี้ เยล ครับ”

ฉันฟังคำตอบของชัค ก่อนจะเริ่มคิด โดยส่วนตัวแล้วตัวฉันเองไม่ได้มีความรู้สึกแย่ ๆ ต่อตระกูลเยล อีกอย่างตอนนี้เราทั้งคู่ต่างเป็นคู่ค้าทางธุรกิจร่วมกันแล้ว เวนดี้ ไม่น่าจะเป็นคนที่วางแผนตื่น ๆ ไร้สาระแบบนี้ได้

แม้ว่าลึก ๆ แล้วเธอจะมีความหยิ่งยโสอยู่ในตัวก็ตาม

คิ้วเรียวขมวดขึ้น “นายแน่ใจใช่ไหม?”

ชัคเริ่มอธิบาย “ช่วงนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นยังติดต่อกับเกวน เวิร์ท หนึ่งในนั้นรวมถึงเวนดี้ด้วย ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจ แต่พอคุณบอกว่าปลายสายโทรมาจากเมืองเอ...”

“แค่นั้นเหรอ?” ฉันถาม

“ผมแค่เดา ถ้าท่านประธานต้องการการยืนยัน ผมแนะนำให้คุณลองไปที่เมืองเอดูนะครับ ซิมโทรศัพท์พวกนั้นน่าจะยังอยู่กับคนในตระกูลเยล”

การเล่นละครปาหี่นี่ไม่ควรกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่คำว่าพูดที่ว่า “แคโรไลน์ ชอว์ เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหรอก” มันยังคงฝังอยู่ในจิตใจของฉัน

หญิงสาวยืนขึ้นก่อนจะหันไปถามเลขาอีกครั้ง “แล้วฉันจะใช้เหตุผลอะไรเพื่อเจอคนพวกนั้น?”

ชัคเริ่มแสดงท่าทางลังเลเล็กน้อย

ฉันจึงโต้กลับ “อยากพูดอะไรก็พูดออกมาเถอะน่า”

“จริง ๆ แล้ว ความสัมพันธ์ของประธานเกร็กกับ เวนดี้ เยล นั้นค่อยข้างดี ประธานชอว์ ถ้าคุณขอร้องให้เขาช่วย... “ ทว่าจู่ ๆ ชัคกลับเงียบไปก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ไม่ดีกว่า ถ้าประธานเกร็กเข้ามาวุ่นวาย เรื่องนี้คงจบไม่สวยแน่ ๆ”

ดิกสันกับเวนดี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันงั้นเหรอ?!

แคโรยังจำครั้งล่าสุดที่เจอกับเวนดี้ได้ เธอดูสนใจในตัวดิกสันอยู่มาก ไหนจะยังคำพูดของเจนนิเฟอร์ เยล ที่บอกว่าเวนดี้ชอบดิกสันอีก

ฉันถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น?”

“แม่เลี้ยงของเวนดี้คือป้าของประธานเกร็ก สองตระกูลนี้สนิทกันมากพอสมควร ถ้าเป็นเวนดี้จริง ๆ มันคงยุ่งยากเกินกว่าที่ประธานเกร็กจะรับมือไหว”

ตระกูลเกร็กกับตระกูลเยลเป็นญาติกันหรอกเหรอ?!

ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงไม่ร่วมงานกับตระกูลเยลล่ะ?

เพราะตั้งใจจะมอบสัญญาของตระกูลให้ฉันงั้นเหรอ?

เป็นไปได้ไงที่ตระกูลเยลจะยอมตกลงง่าย ๆ ?!

“งั้นฉันว่า เราไปเมืองเอกันแค่สองคนเถอะ”

เรื่องล้อเล่นนี่ควรจบได้ซักที

ถ้าตัวการคือเวนดี้จริง ๆ ฉันก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้

หรืออยากน้อยก็ต้องหาจุดอ่อนของตระกูลเยลให้พบ

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ฉันควรกำจัดภัยอันตรายที่อาจจะมาถึงตัวนี้ซะ

“ไว้ผมจะกลับไปคิดหาเหตุผลในการเยี่ยมเยียนเองครับ” ชัคกล่าวอย่างกระตือรือร้น

ฉันพยักหน้าตอบตกลง และเมื่อชัดหันหลังเดินออกไปจากห้องแล้ว ฉันก็กดโทรออกหาดิกสันทันที น้ำเสียงของเขาดูประหลาดเมื่อรับสาย ทว่าในน้ำเสียงนั้นกลับเจือไปด้วยความสุข “แคโร น้อยครั้งเลยนะที่คุณจะโทรหาผมก่อน”

ที่เขาพูดมาก็เป็นความจริง ตอนที่เราแต่งงานกันฉันไม่เคยโทรหาเขาเลย นอกจากวันนั้น วันที่ฉันคิดอยากจะเซ็นใบหย่า ฉันถึงโทรหาเขาเพื่อถามเวลานัดแนะ

แม้กระทั่งหย่ากันแล้ว ฉันก็ไม่เคยเลยซักครั้ง

พูดกันตรง ๆ จะบอกว่าฉันเป็นคนหยิ่งก็ว่าได้ แต่ฉันแค่ไม่ต้องอยากทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อให้เขาเหยียบย่ำมัน แคโรเลือกที่จะไม่ตอบพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฉันจะไปจัดการเรื่องงานที่เมืองเอซักพักนะ”

เสียงเข้มถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงฉุกละหุกแบบนั้นล่ะ?”

ฉันตอบกลับปัด “ตระกูลชอว์ก็มีธุรกิจอยู่ที่นั้นเหมือนกันนะ”

“อา แล้วคุณจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“ถ้าเสร็จงานแล้ว ฉันจะเมืองเอสก่อนกลับ คิดว่าคงใช้เวลานานพอสมควร ไม่แน่อาจจะถึงนี่พรุ่งนี้ตอนค่ำ ๆ”

ดิกสันเงียบไปเมื่อฉันพูดถึงเมืองเอส ดูเหมือนร่างสูงจะขยาดกับเมืองนี้มาก ๆ ปลายสายเงียบไปนานกว่าเสียงเข้มจะเอ่ยขึ้นอีกครา “คุณอยากให้ผมไปด้วยไหม?”

“ไม่เป็นไร ไว้กลับมาแล้วฉันจะโทรบอก”

ดิกสันตอบกลับ “โอเค ดูแลตัวเองด้วย”

เหตุผลที่เธอโทรหาดิกสันนั้นไม่เพียงแต่ต้องการจะรายงานกิจวัตรของตัวเองตอนนี้ แต่ยังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด หากเขารู้ว่าคืนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่เมืองอู๋ เขาจะต้องตามหาเธอไปทั่วราชอาณาจักรเป็นแน่ และถ้าเกิดว่าดิกสันรู้ว่าเธอไปหาตระกูลเยลล่ะก็...

ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจเขา ฉันแค่อยากจัดการมันด้วยตัวเอง พร้อมทั้งไม่อยากสร้างปัญหาให้เขาหนักใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น ตระกูลเยลอาจจะคิดว่าปัญหาเกิดจากสะใภ้ตระกูลเกร็ก ฉันถึงไม่อยากบอกเขาถึงเรื่องที่จะทำ

ร่างบางตัดสินใจวางสายทว่าดิกสันกลับพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน “แคโร คุณกำลังตามหาข้อมูลของ ชาร์ลส คอนเนอร์เหรอ?”

น่าจะเป็นชัคที่แอบถามเขา

ฉันคิดพลางตอบ “ใช่”

พลันเสียงทุ้มน่าฟังกลับแปรเปลี่ยนเปลี่ยนเย็นชาราวกับเอ่ยเตือน “ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนที่คุณจะต่อกรได้ง่าย ๆ คุณควรถอยห่างจากเรื่องนี้”

ฉันรู้ว่าคนคนนั้นยากจะต่อกรขนาดไหน แต่อยากน้อย เขาก็ไม่ควรมองว่าฉันเป็นศัตรูสิ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น พลันเอ่ยถาม “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันตรวจสอบเรื่องของเขาอยู่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ