หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ นิยาย บท 97

ถามออกไปก่อนจะฉุกคิดได้ถึงข้อความที่ดิกสันส่งมาให้ก่อนหน้านี้ “ที่ฉันไปเมืองเอไม่ใช่เพราะไม่เชื่อใจคุณ แต่ฉันไปเพราะสงสัยอะไรบางอย่างในตอนนั้น”

ใบหน้าหล่อหันกลับมา “แล้วทำไมต้องโกหก?”

“ทำไมต้องโกหกเหรอ...?”

เรื่องจริงที่ฉันโกหกเขา

และฉันก็ไม่ใช่คนที่จะเก่งในการหาเหตุผลไปเรื่อย แคโรถอนหายใจ ก่อนจะบอกความจริง “เบาะแสบางอย่างที่ฉันเจอเชื่อมโยงกับคนตระกูลเยล ก่อนหน้านี้ชัคเคยพูดให้ฉันบอกคุณ แต่พอรู้ว่านายหญิงเยลคือป้าของคุณ ฉันจึงเลือกที่จะโกหกเพราะไม่อยากทำให้คุณลำบากใจ และฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว...”

ร่างเล็กเงียบไปครู่ พลันถามอีกครั้ง “แล้วจู่ ๆ ทำไมคุณถึงมาที่เมืองเอล่ะ?”

ดิกสันจอดรถเมื่อถึงไฟแดงพลางดึงเบรคมือขึ้น ดวงตาคมเข้มเบนจากภาพการจราจรติดขัดตรงหน้ามายังใบหน้าของฉัน ก่อนจะต้องมองมันอยู่แบบนั้น แคโรขมวดคิ้ว มือบางยกขึ้นมาจับลูบใบหน้าตัวเองอย่างสงสัย “คุณจ้องหน้าฉันทำไมเนี่ย?”

“ผมคิดถึงคุณ และไม่อยากห่างจากคุณซักนิด”

ร่างสูงยังคงพูดคำหวาน ๆ ต่อไป “ผมถึงทนรอไม่ได้ และบินตามคุณมาทันทีหลังเสร็จงานที่บริษัท แต่พอถึงที่เมืองเอ คุณป้ากลับส่งข้อความมา ถามว่าผมมาหาเธอได้ไหม ผมเลยบอกเธอไปว่าตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองเอพอดี แล้วเธอก็บอกว่าคุณอยู่ที่นั่น”

ถ้าคิดตามคำพูดของดิกสัน นั่นหมายความว่ามาดามเยลต้องการให้ดิกสันมาจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เธอส่งข้อความหาเขาทันทีเครื่องลงจอด

เธอแสร้งโทรศัพท์หาดิกสันต่อหน้าพวกเราทุกคนในห้องโถงทั้ง ๆ ที่เธอติดต่อเขาไปก่อนหน้านั่นแล้ว ไม่แน่ว่าเธอต้องการซ่อนอะไรบางอย่างจากฉัน หรือมันอาจจะเกี่ยวกับเวนดี้?

ฉันพยักหน้าตอบรับคำพูดของดิกสัน ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มเขาเบา ๆ “อย่าโกรธเลยนะ สัญญาว่าครั้งหน้าฉันจะบอกคุณทุกเรื่องเลย”

เห็นฉันอ่อนลงให้แบบนี้ ดิกสันก็ยอมแพ้ไปโดยปริยาย

ร่างสูงถอนหายใจเล็กน้อยพลางถาม “แล้วเราจะไปไหนกันต่อ?”

“ฉันจะกลับไปที่เมืองเอส” ฉันตอบ

เสียงเข้มพึมพำราวกับไม่สบอารมณ์ “เราจะไปหาตระกูลคุกเหรอ?”

มือเรียวจับลูบใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้งก่อนจะบีบแก้มของชายหนุ่มเบา ๆ “หน่า ๆ ยังไงพรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นเฮนรี่จะกังวลแล้วบึ่งมาหาฉันที่เมืองอู๋นะสิ”

ดิกสันดูหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของเฮนรี่ มือหนายกมาทาบลงบนมือฉันที่ยังคงจับแก้มของเขาไว้ ริมฝีปากหนาขยับเหมือนจะเอ่ยถาม พลันก็ปิดเงียบลงตามเดิม

เราทั้งคู่มาถึงเมืองเอสเกือบสองทุ่ม เลขาของฉันกับดิกสันไม่ได้มาด้วย จึงกลายเป็นว่ามีแค่เราสองคนเท่านั้น

ฉันบอกกับเฮนรี่ไปก่อนหน้านี่ว่าเราจะนั่งเครื่องมาหา ดังนั้นเมื่อถึงสนามบินเฮนรี่ก็รีบขับรถมารับฉันทันที ทว่าพอเขาเห็นดิกสันยืนอยู่กับฉัน ใบหน้าของพี่ชายกลับขรึมลงทันที เฮนรี่เดินเข้ามากอดฉันพลางตบหลังเบา ๆ เสียงทุ้มเอ่ย “แคโร เหมือนเราไม่เจอกันนานเป็นปีเลยนะ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาไม่กี่วันเอง”

“แค่สามสี่วันเองหน่า” ฉันพูดและยิ้มตอบ

เฮนรี่ยิ้มกลับมาแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจับมือฉันก่อนจะเดินไปหาดิกสัน นัยน์ตาคมจ้องมองมือที่จับกันของเราด้วยสายตาเย็นชา

เฮนรี่เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายพร้อมยื่นมืออกไปก่อน “คุณเกร็ก”

เฮนรี่ เกลียดดิกสัน หรืออาจจะเรียกได้ว่าเหม็นขี้หน้า จากเหตุการณ์ที่เฮนรี่เจอดิกสันและเกวนที่โรงพยาบาลในครั้งนั้น มิหนำซ้ำดิกสันยังปล่อยให้เกวนพูดจาไม่ดีกับฉันอีก

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เฮนรี่โกรธมากจนประกาศยกเลิกธุรกิจทั้งหมดระหว่างตระกูลคุกกับตระกูลเกร็กในงานเลี้ยงต่อหน้านักธุรกิจคนอื่นรวมทั้งชนชั้นไฮโซทั้งหลาย และส่งผลให้เกวนอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกต่างหาก

จุดประสงค์ของเฮนรี่ไม่ใช่เพราะอยากทำร้ายใคร เขาเพียงแค่ต้องการแก้แค้นให้ฉัน เขาสามารถทำให้เรื่องราวแย่ลงกว่านั้นได้อีก

แต่ฉันก็ขอร้องเขาไว้

เฮนรี่ยอมวางแผนจัดงานศพปลอม ๆ ขึ้นมาเพื่ออยากให้ดิกสันทรมาณใจเจียนตาย

และมากกว่านั้น ยังปลุกปั่นให้ผู้ชายตระกูลเกร็กเป็นคนรับผิดชอบจัดงานฌาปนกิจศพด้วยตัวพวกเขาเองด้วย

เมื่อมองจากภาพรวมเหล่านั้น ฉันสรุปได้ว่าเฮนรี่เกลียดดิกสัน มาเสียจนไม่สามารถใช้อากาศร่วมห้องกันได้

ทว่าผู้เป็นพี่ก็ยังยอมเป็นฝ่ายยื่นมือทักทายก่อน สื่อให้รู้ว่าเขาก็ยังมีจุดที่เคารพในตัวดิกสันอยู่

และแม้ว่าเขาจะทำมันเพื่อฉันก็ตาม

ฉันเป็นคนตัดสินใจที่จะพาดิกสันมาที่นี่เพื่อเจอเขา เพราะฉะนั้นเฮนรี่จึงเคารพในการตัดสินใจของฉัน แม้ว่าเขาจะเคยมีความรู้สึกแย่ ๆ กับดิกสันก็ตาม

เห็นแบบนั้นก็ทำให้ฉันโล่งใจลงหน่อย

ดิกสันเบนสายตาลงมองมือของอีกฝ่าย พลางยื่นมือของตนออกมาจับตอบ “คุณคุก เป็นอย่างไรบ้างครับ? ผมคิดว่าเราอาจจะต้องรบกวนคุณในช่วงวันสองวันนี้”

เฮนรี่ตอบเสียงเรียบ “ไม่มีปัญหาครับ”

บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องความเกลียดแล้ว แต่จะให้พูดดี ๆ กันเลยคงเป็นไปได้ยาก

เราเดินไปยังรถที่จอดรอของเฮนรี่ ฉันนั่งลงข้างดิกสัน ที่นั่งเงียบฟังฉันพูดคุยกับเฮนรี่มาตลอดทาง

เฮนรี่เอ่ยปากถามเรื่องสุขภาพของฉันพลันชะงักไปนิด ก่อนเอ่ยพูดปัด “ถ้าไม่ใช่เรื่องดีก็อย่าเล่าให้ฉันดีกว่านะ”

แคโรเลิกลักเล็กน้อย “มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

ถ้าไม่นับเรื่องเลือดออกเมื่อคืนนะ

แต่มันคงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอะไรมาก

“ลืมแล้วเหรอว่าฉันรู้จักเธอดีแค่ไหน? แคโร ยังไงเธอก็ยังเป็นเด็กน้อยเสมอสำหรับฉัน ฉันรู้หน่าว่าเธออยากจะพูดหรือทำอะไร”

ที่เฮนรี่พูดมาล้วนถูกต้องเสมอ

ฉันเงียบลง แต่เฮนรี่กลับถามขึ้นอีก “แล้วซัมเมอร์ล่ะ? ฉันไม่ได้ข่าวเธอเลย เธอเป็นยังไงบ้าง?”

“สภาพจิตใจเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ฉันตอบ

เฮนรี่ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”

“เพื่อนของฉันที่ตายไปคือคนรักของเธอ”

เฮนรี่ถึงกับเงียบลง และไม่พูดอะไรอีก

บทสนทนาบนรถจบลงแค่นั้น เฮนรี่พาเรามาที่คฤหาสน์ตระกูลคุก ทว่าเมื่อเดินเข้าไปกลับไม่เห็นพี่สะใภ้เลย ฉันหันไปถามพี่ชาย ก่อนจะเห็นเฮนรี่ถอนหายใจพลางเอ่ยตอบ “เธอไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ๆ อีกแล้ว เธอยังคงติดเที่ยว รักสนุกเหมือนเด็ก ๆ และดูจะเด็กกว่าเธอด้วยแคโร”

ฉันยิ้มเยาะ “วัยสาวนะดีจะตายไป”

ดิกสันยังคงยืนอยู่ด้านหลังของฉัน ทำให้เฮนรี่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องส่วนตัวของคนในครอบครัวเท่าไหร่ จึงเลือกตอบแบบขอไปที “เธอไม่สนใจเรื่องแต่งงานซักนิด แต่โชคดี ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งขนาดนั้น ปล่อยไปเถอะ ตามฉันมา ห้องของเธออยู่ด้านบน”

น่าแปลกที่พี่ชายของเธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแบบนั้น...

“แล้วไม่อยากแต่งกับเธอจริง ๆ เหรอ?” ฉันถามออกไปในที่สุด

“อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้”

เฮนรี่ยังคงสบตาอยู่กับฉันแบบนั้น จนกระทั่งดิกสันเดินมาขว้ามือของฉันไว้พลันเอ่ย “ขึ้นชั้นบนกัน คุณคงเหนื่อยมากแล้ววันนี้ ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมจะทำอะไรให้คุณทาน”

ได้ยินแบบนั้น เฮนรี่ก็ยื่นกุญแจคฤหาสน์มาให้เรา “ฉันยังมีงานอีกเยอะที่ต้องกลับไปจัดการที่บริษัท อาจจะนอนค้างที่นั่นเลย พรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นเธออาจจะกลับไปที่เมืองอู๋ หรืออยู่ที่เมืองเอสต่ออีกก็ได้”

หลังจากพูดจบเขาก็เดินมากอดลาฉันแล้วหมุนตัวเดินออกจากบ้านไป ไม่นานดิกสันก็เอ่ยขึ้น “ผมไม่ชอบที่เขากอดคุณแบบนั้น”

แคโรกรอกตาใส่ร่างสูงก่อนเอ่ย “เขารักฉันไง”

เสียงเข้มตึงขึ้นทันที “รักเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ