“ใช่ค่ะ ชอบตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันไปเที่ยวต่างประเทศ เคยไปเมืองเล็กๆของประเทศ F ถนนของเมืองเล็กๆทั้งสองข้างเต็มไปด้วยกุหลาบแดง สวยมากค่ะ ฉันหวังจริงๆว่าสักวันเมืองสินธุของพวกเราจะเป็นแบบนี้” ชัชนันท์อธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ครับ…...” เขาตอบ “บางทีอาจจะมีวันนั้น”
ชัชนันท์ไม่ได้ตอบกลับ อิงแอบในอ้อมกอดเขาแล้วหลับไปอย่างเงียบๆ
เช้าวันที่สอง ทั้งสองคนถูกเสียงสั่นของมือถือปลุกจนตื่น
ชัชนันท์เอามือไปคลำหามือถือตัวเองด้วยท่าทางสะลึมสะลือ พบว่าที่สั่นนั้นไม่ใช่มือถือของตัวเอง ก็เลยห่มผ้าแล้วนอนต่อ
ส่วนแทนไทหยิบมือถือมาอย่างรวดเร็ว เดินมาที่ระเบียง แล้วกดรับสายโทรศัพท์ “มีอะไร เกริก?”
“ฝั่งผมสืบได้ว่า ก่อนหน้าดวงพรจะเจอ Henry ได้โทรไปหาเบอร์หนึ่งอยู่บ่อยๆ เจ้าของเบอร์นั้น หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ยืนยันตัวตนแล้วครับ เป็นแฮคเกอร์......ชื่อกันต์ธีร์”
“และแฮคเกอร์คนนี้ มีบันทึกการโทรคุยไปมากับชลิตาอีกด้วยครับ......” ฝั่งเกริกพูด
“ช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่ดวงพรติดต่อกับกันต์ธีร์คนนี้ กันต์ธีร์คนนี้เคยติดต่อกับชลิตามาก่อน และที่สำคัญที่สุดก็คือ กันต์ธีร์คนนี้ถูกผมสืบเจอ ว่าเขาเคยล่วงล้ำคลังข้อมูลทะเบียนบ้านของประเทศเราอยู่หลายครั้ง……เพื่อสืบข้อมูลของคุณชาย......” ฝั่งเกริกพูดขึ้นมาอีก “ตอนนี้คนของฝั่งเราได้ไปตามหากันต์ธีร์แล้วครับ”
ได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว สีหน้าของแทนไทก็เย็นชาขึ้นมาทันที......
“คุณชายห้าครับ เรื่องนี้เกรงว่าจะเหมือนกับที่คุณคิดเลยน่ะสิครับ ว่าชลิตาคงจะหนีเรื่องนี้ไม่พ้น” ฝั่งเกริกพูดแต่ละคำอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้ว…...” แทนไทพูดเสร็จก็ตัดสายไป
ชัชนันท์ที่อยู่บนเตียงในเวลานี้ก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา
เธอบิดขี้เกียจด้วยความเกียจคร้าน หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่ง จัดผมเพ้าให้เรียบร้อยเป็นอันดับแรก มองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงระเบียง แล้วถาม “ใครโทรมาเหรอคะ?”
ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งลงข้างๆเธอ แล้วพูด “เรื่องนั้นที่ดวงพรเปิดโปงผมเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับชลิตาจริงๆ”
พอได้ยิน สายตาของชัชนันท์ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายนัก เพราะว่าเธอคิดไว้ตั้งนานแล้ว
หลังจากนั้น แทนไทก็พูดสิ่งที่เกริกพูดให้ชัชนันท์ฟังอีกรอบ
หลังจากที่ชันนันท์ตั้งใจฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ครุ่นคิดอยู่ไม่นานแล้วพูด “เพราะงั้นเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแผนยืมมือฆ่าคนจริงๆสินะ”
“ครับ…...”
“รอให้เกริกจับตัวกันต์ธีร์คนนั้นได้ก่อน คุณค่อยให้เขาซักถามอีกที พวกเราอย่าพึ่งด่วนตัดสินเลยค่ะ......” ชัชนันท์พูดขึ้นมาอีก
ต่อให้ต้องแบไพ่ในมือให้ดู ก็ต้องรอหลักฐานที่ชี้ชัดก่อนค่อยว่ากัน
“ครับ......เขาจัดการได้แน่” แทนไทพูด
ชัชนันท์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เหลือบมองเวลา แล้วพูด “พวกเราไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนเถอะ แล้วค่อยไปกินมื้อเช้า......”
“ครับ อยากกินอะไร?”
“ได้หมดค่ะ”
หลังจากนั้น ชัชนันท์ก็เดินเข้าห้องน้ำไป
แทนไทตามไปติดๆ
หลังจากที่ทั้งสองคนล้างหน้าแปรงฟันแล้ว แทนไทก็ตรงลงไปห้องครัวชั้นล่าง เพื่อทำอาหารเช้าให้เธอ
ส่วนเธอนั้นนั่งแต่งหน้าอยู่หน้าโต๊ะแป้งฝังทองกำลังแต่งหน้าอยู่
เพราะช่วงเช้านั้นรีบมาก เธอเลยแต่งหน้าแบบง่ายๆ หลังจากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวมา รวมถึงชุดสูทยาวสีฟ้าอ่อน
ชุดสูทถูกออกแบบเป็นแบบเก็บเอว ทำเอวเธอดูคอด
ชุดด้านบนสั้นมาก ทำให้ขาของเธอดูเรียวยาวเป็นพิเศษ
สะพายกระเป๋าชาแนลสีขาว แล้วลงไปกินอาหารเช้าพร้อมกับแทนไท หลังจากนั้นก็ไปที่รัตนากรกุลกรุ๊ปอย่างรวดเร็ว
มาเซราตีคันสีแดง ในตอนที่ขับมาถึงหน้าประตูบริษัท มือถือของเธอก็สั่นขึ้นมา
เห็นว่าเป็นเบอร์ของคุณพ่อ เธอเลยรีบรับสาย หลังจากนั้นก็ถือกระเป๋าลงจากรถ รับโทรศัพท์ไปด้วย เดินเข้าไปในบริษัทไปด้วย ด้วยรองเท้าส้นสูงสีขาว
จังหวะการก้าวเท้าของเธอเร็วมาก เวลาเดินกระแทกส้นเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนหญิงแกร่งที่มีความมั่นใจอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว
บทที่ 244-339 หาอ่านได้ที่ไหนค่ะ...
คมสันกับขจีจบลงยังไงคะ...