หลินไป๋หลัน นิยาย บท 37

ทางด้านหนึ่งของศูนย์หัวหน้าอี้ที่บังเอิญเดินผ่านมาเห็นท่านเฉินหยวนยืนคุยกับบุรุษผู้หนึ่งท่าทางลับๆล่อๆ จึงหลบไปทางด้านหลังเรือนนอนของผู้ใหญ่ตงแล้วแอบฟัง

ครั้นเมื่อได้ยินทั้งสองพูดคุยกันก็ต้องตกใจ เพราะบุรุษผู้นั้นคือองค์ไท่จื่อ!! ตนเองก็นึกแปลกใจอยู่มิน้อยที่พระองค์เสด็จมาถึงที่นี่ได้อย่างไร แต่ดูจากการแต่งกายแล้วคงปลอมตัวหลบหนีออกจากวังเป็นแน่

เมื่อฟังทั้งสองสนทนากันก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะองค์ไท่จื่อทรงสนใจในตัวคุณหนูหลันและยังทรงเอ่ยปากขอกับบิดาของนางอีกด้วย แต่ดูจากสีหน้าของท่านเฉินหยวนแล้วคงจะไม่อยากให้บุตรสาวของตนสนใจองค์ไท่จื่อสักเท่าไร

ไม่ได้การแล้วเขาต้องรีบส่งข่าวให้หลานชายของตนทราบอย่างเร่งด่วนตอนนี้หลานชายมีคู่แข่งหัวใจแถมยังเป็นพี่น้องต่างมารดากันอีกต่างหาก สวรรค์ใยช่างชอบกลั่นแกล้งนัก เมื่อคิดได้จึงหลบออกมาและสั่งให้เงาของตนรีบส่งข่าวถึงหลานชายทันที

ยามเซินขณะนี้ชาวบ้านที่จักสาน ทำกระเป๋าออกมาได้คนละหนึ่งใบ ชาวบ้านเรียนรู้กันได้รวดเร็วและยังพอมีเวลามาสานหมวกไป๋หลันจึงแนะนำหมวกหลากหลายทรงจะได้ให้ลูกค้าเลือกกันตามความชอบ

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงให้ชาวบ้านทำสัญลักษณ์ที่สามารถจดจำได้ว่าชิ้นไหนคือของตน นางให้ชาวบ้านนำของที่ทำมาวางรวมกันไว้เพื่อให้คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมฝึกมาชื่นชมความงามก่อนจะทาทับด้วยน้ำมันวานิชเพื่อเพิ่มความเงางามและรักษารูปทรง

เมื่อชาวบ้านทยอยเดินมากินอาหารเย็นรวมถึงคุณชายเฟยเทียนที่เดินหายออกไปก็เดินกลับเข้ามาภายในโถงด้วยเช่นกัน เมื่อทุกคนเห็นสิ่งที่กลุ่มจักสานทำต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่างดงามและช่างแปลกตายิ่งนัก บางคนถึงกับอยากได้ไว้ใช้บ้าง ทำให้กลุ่มฝึกอาชีพของนางยิ้มจนแก้มปริกันแทบทุกคน

"ไป๋หลันของพวกนี้คือสิ่งที่เจ้าจะให้ข้านำไปขายเช่นนั้นหรือ?" เฟยเทียนเอ่ยถาม ครั้งแรกที่เขาเห็นสินค้าที่นางจะให้เขานำไปขายนั้น เขาเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นชาวบ้านกำลังทำกันเมื่อช่วงเช้าจะออกมาสวยงามเช่นนี้ได้

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ ท่านพอจะช่วยข้าได้หรือไม่แต่ท่านรับปากข้าไว้แล้วนะเจ้าคะห้ามกลับคำพูดโดยเด็ดขาด แต่มันยังไม่เสร็จเรียบร้อยดียังเหลือทาเคลือบเงาให้มันสวยเงางามและคงทนอีกเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ย

จะมากลับคำพูดไม่ได้เด็ดขาดแล้วอย่าหาว่านางไม่เตือน!!

"ข้าพูดคำไหนคำนั้นไม่กลับคำพูดหรอกแล้วเจ้าจะให้ข้าพาพ่อค้ามารับสินค้าวันไหนหรือ" เฟยเทียนเอ่ยถาม

"เอาเป็นวันเปิดศูนย์พักพิงบ้านหลันฮวา ในอีกสี่วันข้างหน้าแล้วกันเจ้าค่ะ จะได้ถือฤกษ์งามยามดีให้แก่กลุ่มฝึกอาชีพ พวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำผลงานชิ้นต่อไปเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยด้วยความดีใจ นางคงมีความสุขมากถ้าได้เห็นสิ่งที่สอนให้ชาวบ้านสามารถทำให้พวกเขามีกินมีใช้และมีชีวิตที่ดีขึ้นได้

"ย่อมได้ ไว้วันเปิดศูนย์ข้าจะพาพ่อค้ามารับซื้อสินค้าของชาวบ้าน เจ้าก็เร่งมือผลิตออกมาให้ได้จำนวนมากที่สุดก็แล้วกัน สินค้าพวกนี้สวยงามแปลกใหม่คงจะมีผู้คนสนใจอยู่มิน้อย" เฟยเทียนเอ่ย เขาต้องกลับไปปรึกษาท่านเจ้าเมืองให้ช่วยติดต่อพ่อค้าให้ เพราะท่านเจ้าเมืองกว้างขวางที่สุดในเมืองเหอหนาน

"ได้เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนเชิญท่านกินอาหารเย็นที่ศูนย์เลยนะเจ้าคะ จะได้ลองชิมพืชผัก ผลไม้ที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ด้วยว่ารสชาติจะยอดเยี่ยมเพียงใด" ไป๋หลันเอ่ยชวน

จากนั้นนางก็แยกตัวกลับบ้านก่อนอย่างเคยปกติทุกวัน วันนี้ที่ศูนย์ทำปลาช่อนเผาเกลือ ทานกับผักต้มและน้ำจิ้มรสเด็ดที่หากินได้เฉพาะที่ศูนย์เท่านั้น ชาวบ้านชื่นชอบความหอมหวานของเนื้อปลาจนติดใจ

ต้มยำไก่ใส่หัวปลีเพราะกล้วยที่ปลูกเอาไว้มันออกเครือมาเยอะมากจึงต้องนำมาทำเป็นอาหาร บางวันก็นำมาชุบแป้งทอดกินกับน้ำพริกบ้าง แกงไก่ใส่กล้วยดิบบ้างอร่อยกันไปแบบยาว ๆ แถมยังนำมาทำเป็นอาหารว่างได้หลายอย่าง เช่นกล้วยฉาบ กล้วยทอด กล้วยปิ้ง กล้วยตากและอีกสารพัดจนคนที่ศูนย์หน้าจะเป็นกล้วยอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน