หลินไป๋หลัน นิยาย บท 41

เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนต่างเก็บข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดที่มีภายในบ้านเข้าไปเก็บไว้ในแหวนมิติ รถม้าคันใหญ่ภายในบุด้วยผ้า หนานุ่มมีเบาะรองนั่งและโต๊ะสำหรับวางอาหาร

             ในคราแรกไป๋หลันคิดจะจ้างคนบังคับรถม้าแต่บิดาและพี่ชายเอ่ยห้ามเอาไว้ พวกท่านบอกว่าจะผลัดเปลี่ยนกันบังคับรถม้าเอง นางก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะการเดินทางก็ไม่ได้เร่งรีบถ้าเหนื่อยก็หยุดพักกันได้ตลอดเวลา

เมื่อเตรียมพร้อมนางและมารดานั่งกันอยู่ในรถม้า ส่วนบิดาเป็นคนบังคับม้าโดยมีพี่ชายนั่งอยู่ด้านข้าง รถม้าคันใหญ่เคลื่อนตัวออกจากเมืองหนานเหอมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงทันที

การเดินทางนั้นใช้เวลาราวๆสิบกว่าวันก็จะถึงเมืองหลวง แต่!ครอบครัวของนางไม่ได้เร่งรีบอะไรคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณยี่สิบวันกว่าจะถึง บิดาของนางจะคอยหาที่พักและแวะพักโรงเตี๊ยมตามหมู่บ้านที่เดินทางผ่าน หรือบางครั้งอาจจะออกนอกเส้นทางบ้างในการหาที่พักแต่ก็เพื่อความปลอดภัย ท่านบอกว่าจอดพักค้างแรมข้างทางไม่ปลอดภัยอาจมีโจรผู้ร้ายคอยดักซุ่มโจมตีก็เป็นได้

ไป๋หลันเปิดผ้าม่านหน้าต่างรถม้าออกเพื่อชื่นชมบรรยากาศขุนเขาป่าไม้เขียวขจีช่างสดชื่นยิ่งนัก นางสูดลมหายใจเข้าปอดด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ตอนนี้นางและครอบครัวเดินทางมาได้สิบวันแล้วและอีกไม่กี่วันก็จะถึงเมืองหลวง บิดาเล่าว่าเส้นทางนี้เคยมีโจรดักปล้นขบวนรถม้าส่งสินค้าของพ่อค้าอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นภูเขาและป่ารกทึบเหมาะแก่การซุ่มโจมตี ท่านจึงเร่งความเร็วเพื่อให้ผ่านพ้นป่าแห่งนี้โดยเร็วที่สุด

"ฮี้!!...ฮี้!!..." เสียงม้าร้องดังขึ้นอย่างตื่นตกใจเหมือนมันกำลังตื่นตกใจอะไรบางอย่างด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ที่มีสัมผัสที่รวดเร็วว่องไวและมันทำท่าจะเตลิดเฉินหยวนจึงรีบควบคุมม้าให้เป็นปกติพร้อมกับเอ่ยเตือนทุกคนให้ระวังตัว

"ทุกคนระวังตัวด้วยพ่อได้ยินเสียงเหมือนมีการต่อสู้กันจากด้านในป่าข้างหน้า" เฉินหยวนเอ่ยบอกคนที่อยู่ภายในรถม้า

"เป็นพวกโจรเช่นนั้นหรือเจ้าค่ะท่านพ่อ" ไป๋หลันเอ่ยถาม นางคิดว่าการเดินทางมาหลายวันจะราบรื่นดีเสียอีก แต่! มีอะไรให้น่าตื่นเต้นบ้างมันก็ทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นมาทันที

"ข้างหน้าอาจจะมีพวกโจรกำลังบุกปล้นขบวนสินค้าอยู่ พ่อว่าเราค่อยๆแอบเข้าไปดูเหตุการณ์จะดีกว่า" เฉินหยวนเอ่ย ตนที่เคยเป็นแม่ทัพออกปราบพวกโจรตามชายแดนไม่อาจนิ่งนอนใจได้เมื่อเห็นผู้คนที่กำลังเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลืออยู่

เฉินหยวนค่อยๆบังคับม้าลัดเลาะเข้ามายังด้านในของป่า เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังต่อสู้ ไม่สิ!! มีพวกคนปิดบังใบหน้ามิดชิดไม่บอกก็รู้ว่าเป็นพวกโจรประมาณยี่สิบคนกำลังรุมทำร้ายบุรุษหน่วยก้านดีหกคน น่าจะเป็นคนคุ้มกันสินค้าที่ถูกว่าจ้างมาได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังไม่ยอมจำนนท์ต่อสู้กับพวกโจรอย่างห้าวหาญ เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆพบศพชาวบ้านนอนจมกองเลือดอยู่จำนวนหลายคนคงจะเป็นกลุ่มของพ่อค้า

เนื่องจากจำนวนของกลุ่มโจรนั้นมีมากกว่าและมีฝีมือดีใช้ได้น่าจะเสียเปรียบอยู่ไม่น้อยถ้าต้องต่อสู้กันแต่ตนไม่มีทางเลือกให้คิดมากนักยังไงซะก็ต้องช่วยเหลือกลุ่มของพ่อค้าให้ถึงที่สุดเมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหันไปสั่งการกับบุตรสาวของตนทันที

"หลันเอ๋อร์เจ้าอยู่ดูแลแม่ของเจ้าทางนี้ให้ดี พ่อและเฉินหยางจะเข้าไปช่วยพวกเขา" เฉินหยวนเอ่ยสั่ง

"เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านและพี่ใหญ่ระวังตัวด้วยนะเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าทั้งสองจะได้รับอันตราย

ทั้งสองพยักหน้ารับคำ และเข้าจู่โจมโรมรันต่อสู้กับพวกกลุ่มโจรทันที

ไป๋หลันคอยสังเกตการณ์อย่างไม่วางตา นางจะไม่ยอมให้ทั้งสองคนที่นางรักต้องได้รับบาดเจ็บเป็นอันขาด

ทางด้านตงชุนที่ติดตามคุณหนูหลันมาหลายวันก็คอยเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่เงียบๆถ้าหากเกิดเรื่องร้ายแรงเกินการควบคุมของคนสกุลหลินตนก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือไม่อาจปล่อยให้พวกเขาต้องได้รับอันตรายเป็นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วท่านประมุขคงได้โกรธกริ้วเป็นแน่และตนเองนั้นคงอาจจะเหลือเพียงชื่อก็เป็นได้

ทางด้านไป๋หลันสังเกตเห็นพวกโจรสองคนกำลังเดินมาทางรถม้าคันหนึ่งที่จอดอยู่ไม่ไกลมากจากกลุ่มที่กำลังต่อสู้กันอยู่พร้อมกับเข้าชุดกระชากหญิงสาวนางหนึ่งออกมาจากรถม้าด้วยท่าทางหื่นกระหาย นางหันไปมองทางด้านของท่านบิดา และพี่ชายก็เห็นทั้งสองกำลังต่อสู้ติดพันอยู่กับพวกโจรอยู่ไม่สามารถปลีกตัวออกมาช่วยเหลือหญิงสาวผู้นั้นได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน