ไป๋หลันเมื่อได้ยินชื่อของตนเองในโลกเก่าดวงตาก็พลันเบิกกว้างหัวใจเต้นแรงโครมครามไม่เป็นจังหวะ หญิงตรงหน้ารู้จักชื่อนางได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าคนบนโลกใบนี้ไม่มีใครรู้จักชื่อนี้แน่นอน นอกเสียจากว่าไม่ใช่!! ด้วยความสงสัยจึงถามหญิงสาวตรงหน้าทันที
"เจ้ารู้จักชื่อนี้ได้อย่างไร เจ้าเป็นใครกัน”
"ข้าวหอม!นั่นแกจริง ๆ ใช่ไหม ฉันมีมี่เพื่อนซี้ของแกไง นางชะนีขี้จุ๊!!" มีมี่เอ่ยขึ้นพร้อมหยดน้ำตาที่รินไหลด้วยความดีใจไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนรักไวขนาดนี้
"มีมี่...." ไป๋หลันทวนชื่อพลางนึกถึงเพื่อนซี้ที่โลกเก่าแต่เพื่อนของนางไม่ใช่หน้าตาแบบนี้ และที่สำคัญนางเป็นสาวประเภทสองไม่ใช่สาวงามเช่นนี้ แต่จะว่าไปโลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เหลือเชื่อไม่แน่หญิงตรงหน้าอาจจะเป็นเพื่อนของนางก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงลองเอ่ยชื่อจริงของสหายออกมา
"มีมี่ บารมี ทองแท้!!?" เอ่ยจบนางก็สบตากับหญิงตรงหน้าอย่างไม่วางตานางพยักหน้าหงึกๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาหนักกว่าเดิม
หัวใจของนางกระตุกวูบ!ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตื่นเต้นดีใจ สงสัย และอีกมากมายที่เพื่อนของนางมาอยู่ตรงหน้า
"แล้วทำไม... " ยังไม่ทันได้เอ่ยถามจนจบบิดาและพี่ชายที่จัดการกับพวกโจรจนเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งมาหานางทันทีพร้อมด้วยมารดาก็รีบออกมาจากที่หลบซ่อนเช่นกันเมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายพวกโจรถูกสังหารจนสิ้น
"เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่หลันเอ๋อร์" เฉินหยางเอ่ยถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง เขาเห็นนางวิ่งมาช่วยสตรีผู้นี้เอาไว้ไม่ให้ถูกพวกโจรทำร้าย เขาที่เห็นแต่ก็ไม่อาจละมือมาช่วยนางได้ด้วยพวกโจรที่มีจำนวนมากกว่ากำลังปะทะโรมรันกันอยู่
"ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ปลอดภัยดี" ไป๋หลันเอ่ยพี่ชาย
"แม่นางเจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่" เฉินหยางเอ่ยถามสตรีตรงหน้าที่มีหยดน้ำตาเปียกชื้นเต็มทั้งสองแก้ม
มีมี่รวบรวมสติของตนเองว่านางมาอยู่ยังยุคสมัยจีนโบราณการพูดจาก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยโชคดีที่ยังมีความรู้จากเจ้าของร่างอยู่จึงสามารถพูดและฟังภาษาได้อย่างแตกฉาน
"ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมาก" มีมี่เอ่ยตอบพร้อมกับขอบคุณชายตรงหน้าที่เป็นห่วงนาง
แต่ว่าเขาช่างหล่อเหลายิ่งนัก!!
"พวกข้ามาช่วยพวกเจ้าช้าเกินไปทำให้คนของเจ้าล้มตายกันเกือบหมดเหลือเพียงคนคุ้มกันสินค้าห้าคนเท่านั้นแต่พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บหนักเอาการอยู่" เฉินหยวนเอ่ยบอกสตรีตรงหน้าด้วยสีหน้าเศร้าใจ
มีมี่ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบวิ่งไปดูบิดาของเจ้าของร่างที่นางมาอาศัยอยู่ทันที เมื่อมาถึงก็พบว่าท่านนอนสิ้นใจเลือดสีแดงไหลออกมาจากกายไม่หยุด
“ท่านพ่อ!!”
ดวงตากลมโตพร่างพราวด้วยหยาดหยดน้ำตาที่รินไหลร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดร่างที่ไร้ลมหายใจอยู่ คงเป็นความรู้สึกของร่างเดิมเป็นแน่ เนื่องด้วยร่างนี้อาศัยอยู่กับบิดาที่เป็นพ่อค้าส่งสินค้าตามใบสั่งเข้าเมืองหลวงเพียงสองคนเท่านั้น
"ข้าเสียใจกับเจ้าด้วยนะ"ไปหลันเอ่ยปลอบใจสหาย
"พวกเราเสียใจกับเจ้าด้วย ถ้ามีอะไรให้พวกเราช่วยก็บอกมาได้เลยมิต้องเกรงใจ" อู๋เหยาเอ่ยบอกสตรีตรงหน้าที่เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้อายุนางยังน้อยนักต้องมาเสียบิดาไปอีก
"ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้าจะฝังศพบิดาและคนอื่นไว้ที่นี่" มีมี่เอ่ยอย่างน้อยนางก็ทำได้ดีที่สุดเพียงเท่านี้ หวังว่าทั้งสองคนคงจะได้พบเจอกันในปรโลก
"เช่นนั้นให้พวกเราช่วยเจ้าเถิด" ไป๋หลันเอ่ย พร้อมกับหันไปพยักหน้าให้พี่ใหญ่เป็นเชิงขอความร่วมมือ
เฉินหยางเมื่อเห็นน้องสาวส่งสัญญาณให้ ตนเองก็พยักหน้ารับคำและเร่งช่วยสตรีตรงหน้าฝังศพบิดาและพรรคพวกทันที ส่วนบิดาและมารดาของตนก็ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กันคนคุ้มกันสินค้าที่รอดชีวิตจนพวกเขาอาการดีขึ้นด้วยโอสถรักษาของน้องสาว
ใช้เวลาอยู่ราว ๆ สองชั่วยามก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ไป๋หลันจึงรีบเอ่ยบอกกับทุกคนถึงความต้องการที่จะพาสหายต่างภพของนางมาอยู่ด้วยกัน
"ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ ให้นางเดินทางไปกับพวกเราได้หรือไม่เจ้าคะ บิดาของนางก็จากไปแล้วสตรีตัวเล็กๆผู้เดียวจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกกว้างได้อย่างไร" ไป๋หลันเอ่ยบอกทุกคนด้วยสีหน้าเศร้า มองตาทุกคนปริบๆหวังให้พวกเขาเห็นใจ
"ถ้าเจ้าไม่มีที่ไปและไม่รังเกียจก็มาอยู่กับพวกเราเถิด เป็นสตรีเพียงตัวคนเดียวไม่ง่ายนักที่จะใช้ชีวิตให้ปลอดภัย แล้วเจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?" อู๋เหยาเอ่ย หญิงสาวตรงหน้ามีวัยไล่เลี่ยกันกับบุตรสาวของตนและมีใบหน้าที่สวยงาม ถ้าต้องไปเร่ร่อนคงจะไม่ปลอดภัยเป็นแน่
มีมี่หันไปมองเพื่อนสาวของตนเองอย่างตื้นตันปนดีใจที่ครอบครัวของนางไม่รังเกียจตนที่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า เมื่อเห็นเพื่อนสาวพยักหน้ารัว ๆ จึงเอ่ยตอบทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...