# เช้าวันแข่งขัน
ลี่อินนั่งอ่านจดหมายของเมิ่งซูฮวา นางกับสหายติดต่อกันอย่างลับ ๆ เป็นประจำเหตุคือการได้กลั่นแกล้งศิษย์ของอาจราย์หม่าชิงหลุน ด้วยความริษยาตัวนางนั้นมีความสามารถมากกว่าโดดเด่นกว่าไม่แพ้ผู้ใดในสำนัก แต่อาจารย์หม่าไม่เลือกนางเป็นศิษย์ แต่กลับเลือกพวกที่ด้อยพลังปราณพวกนั้น ยามที่ฝึกซ้อมกันนางจึงหาวิธีระบายความเกลียดออกไปโดยฝากรอยแผลให้พวกนางอยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน ป่านนี้เนื้อตัวคงมีรอยแผลเต็มตัวจนดูไม่จืดแล้วกระมัง
ลี่อินได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เมิ่งซูฮวารับรู้อยู่ตลอด และสหายยังเตือนว่าไม่ให้นางประมาทฝีมือของพวกมันเด็ดขาด พร้อมกับส่งยาพิษกร่อนวิญญาณมาให้ ยาพิษชนิดนี้เมิ่งซูฮวาให้คนจัดหามาให้จากสำนักพิษแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในความร้ายกาจเรื่องการปรุงพิษ ลี่อินนั่งมองขวดยาในมือพร้อมคิดแผนการที่จะใช้งานมัน
วันแรกของการแข่งขันจะเป็นด้านการหลอมโอสถ เหล่าศิษย์ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ที่ลานด้านหน้าซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน เวทียกระดับมีเก้าอี้ประจำตำแหน่งตั้งอยู่ห้าตัว คือเก้าอี้ของเจ้าสำนักหม่าชิงหลุน รองเจ้าสำนัก และอาจารย์อีกสามท่านตามลำดับ ทั้งห้าคนจะเป็นคนตัดสินแพ้ชนะด้วยความยุติธรรม หลายปีที่ผ่านมาทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์สำนักเดียวกันต่างรักใคร่ดุจพี่น้อง รู้แพ้ชนะและอภัยให้กันไม่มีบาดหมาง ทำให้การแข่งขันภายในสำนักบรรลุเป้าหมายและในปีนี้ก็หวังว่าจะราบรื่นเช่นเดียวกัน
ช่วงแรกจะเป็นการคัดสมุนไพรและสรรพคุณมาให้ได้มากที่สุดภายในเวลาหนึ่งก้านธูป รอบแรกมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดหกสิบเก้าคน จะตัดออกเหลือเพียงสามสิบคนเท่านั้น เมื่อเริ่มจับเวลาทุกคนต่างก้มหน้าเขียนกันอย่างจริงจัง การแข่งขันรอบนี้มีความรู้ใช่เพียงพอยังต้องอาศัยความชำนาญในการใช้พู่กันอีกด้วย...
เมื่อหมดเวลาการแข่งขันทุกคนต่างวางพู่กันลงและมีคนมาเก็บกระดาษสอบไปตรวจทานคัดหาคนเข้ารอบและจะประกาศผลในอีกสองเค่อข้างหน้า
ไป๋หลันและมีมี่เดินกลับกระโจมที่ทางสำนักจัดเตรียมเอาไว้ให้ มีทั้งหมดห้ากระโจมด้วยกันแบ่งตามศิษย์ของแต่ละอาจารย์ สี่กระโจมนั้นมีผู้คนนั่งกันอย่างเนืองแน่น ส่วนกระโจมของพวกนางนั้นมีเย่วซินนั่งอยู่คนเดียวเท่านั้น
“ข้าว่านะศิษย์พี่ลี่อินคงจะเก่งไม่เบาเลย" มีมี่เอ่ยขึ้นหลังเดินมาถึงกระโจมพัก
"ก็แค่เก่งภายในสำนักเท่านั้น ข้าได้ยินว่านางได้รับเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งระหว่างสำนักก็ไม่เคยชนะเลยสักครั้ง" ไป๋หลันเอ่ยตอบ
"ว่าแต่พวกเราจะผ่านรอบแรกหรือไม่ข้าไม่ถนัดเขียนพู่กันเลย" มีมี่เอ่ยถามสหายพร้อมกับทำหน้าเครียด
"อย่าว่าแต่เจ้าเลยมีมี่ข้าเองก็เช่นกัน" ไป๋หลันเอ่ย ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจเช่นกัน ปกตินางจะใช้ปากกาเขียนเสียมากกว่า มาใช้พู่กันเช่นนี้เลยทำให้เขียนช้าลงไปมาก
"พวกเจ้านี่นะ...คงได้แต่ภาวนาเอาแล้วล่ะ ไม่เช่นนั้นอาจารย์ได้ไล่ออกจากการเป็นศิษย์แน่ ๆ" เย่วซินเอ่ยบอกสหายทั้งสองพร้อมกับทำหน้าเห็นใจ
ทั้งสามต่างทำหน้าตาตลกจนต้องหัวเราะกันออกมายามที่หันมองกัน เสียงหัวเราะสดใสกอรปกับท่าทางน่าเอ็นดูของทั้งสาม พาใจผู้คนที่เผลอมองถึงกับใจกระตุกไม่อาจถอนสายตาออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...