"แม่จะไม่ยอมให้หลานสาวถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวทางพรรคจันทราต้องรับผิดชอบ" อวี้เหลียนเอ่ยกับบุตรสาวและบุตรเขย
"เจ้าจะกราบทูลฮองเฮาหรือไม่ " หยงสือเอ่ยถามบุตรเขยของตน ฮองเฮาของแคว้นคือบุตรสาวคนโตของตน พระนางทรงเอ็นดูหลานสาวยิ่งนักด้วยเมิ่งซูฮวามีใบหน้างดงามและมีความสามารถหาผู้ใดเปรียบ
"พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังเพื่อกราบทูลฮองเฮาให้ทรงทราบขอรับท่านพ่อ'' เมิ่งฮุ่ยอันเอ่ย ตนจะกราบทูลฮองเฮาให้ช่วยเหลืออีกทาง แค้นนี้ใหญ่หลวงและต้องสะเทือนถึงเเว่นแคว้นอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับฮองเฮาว่าจะมีวิธีเป้าหูองค์ฮ่องเต้อย่างไร
"ดี ๆ หลานโดนรังแกเช่นนี้ฮองเฮาคงไม่อยู่เฉยเป็นแน่" หยงสือที่โดนบิดเบือนความจริงจนเข้าใจผิดคิดว่าหลานสาวถูกรังแกจึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้แก่นาง
"ท่านแม่ ท่านไม่ต้องไถ่ถามสหายของท่าน เพราะถึงอย่างไรพวกเขาคงไม่ยอมเอ่ยความจริงและคงเข้าข้างหลานชายของตนเป็นแน่ มิเช่นนั้นซูเอ๋อร์จะเป็นเช่นนี้หรือ?" เมิ่งฮุ่ยอันเอ่ย ไม่ให้ท่านแม่ยายติดต่อกับสหายเพราะกลัวว่าจะทราบความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะเปลี่ยนใจไม่คิดล้างแค้น
"แต่นางต้องรับรู้ว่าคู่หมั้นของหลานชายนางร้ายกาจแค่ไหน จะได้ช่วยกันหาวิธีกำจัดนางมิดีหรือ?" อวี้เหลียนเอ่ย ตนและสหายเป็นเพื่อนรักกันย่อมรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี สิ่งใดถูกผิดย่อมว่าไปตามนั้นตนมั่นใจว่าถ้าสหายรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นย่อมไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน
"ท่านแม่เจ้าคะ เชื่อท่านแม่ทัพเถิดเจ้าค่ะพวกเราย่อมหวังดีกับซูเอ๋อร์มิใช่ผู้อื่น" เมิ่งฮูหยินเอ่ยบอกมารดาของตน
"ก็ได้ ๆ ได้ความเช่นไรก็ส่งข่าวให้พวกเรารับรู้ด้วยแล้วก็แล้วกัน " อวี้เหลียนเอ่ยบอกบุตรสาวของตนก็จริงอย่างที่นางเอ่ยคนในครอบครัวย่อมต้องหวังดีต่อกันมิใช่ผู้อื่น
# เมืองหลวงเเคว้นหนาน
"บอกความจริงข้ามาเดี๋ยวนี้!!" เสียงทุ้มต่ำข่มขวัญคนตรงหน้าอย่างดุดัน หนานเหวินหลงให้คนจับตาดูอยู่หลายวันกว่าจะจับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้ ฮึ่ย...มันน่าบั่นคอยิ่งนัก!!
"ท่านประมุขคือว่า..." ตงชุนเอ่ยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ที่สำนักเซียนโอสถให้เจ้านายเก่าได้ฟังอย่างละเอียดและเป็นความจริงทุกคำพูด
"เจ้าแน่ใจนะว่ามิได้โป้ปดแม้แต่คำเดียว" หนานเหวินหลงเอ่ยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"เป็นความจริงขอรับท่านประมุข'' ตงชุนเอ่ย
"เจ้า...ข้าจะคาดโทษเจ้าเอาไว้ก่อน ต่อไปนี้ให้รายงานข้าทุกอย่าง ถ้าเจ้าขัดคำสั่งอีกข้าจะจับเจ้าขังลืมห้องใต้ดิน" หนานเหวินหลงเอ่ยขู่เงาข้างกาย จริง ๆ เขาเองก็รู้ว่าตงชุนทำตามคำสั่งของคู่หมั้นและก็ไม่มีทางขัดนางได้ แต่เขาเพียงต้องการระบายอารมณ์และมีตงชุนเท่านั้นที่จะรองรับมันได้ในขณะนี้
“ข้าน้อยมิกล้าแล้วขอรับท่านประมุข" ตงชุนเอ่ยอย่างนอบน้อม พลางนึกว่าตนเองต้องโดนนายหญิงคาดโทษอีกเป็นแน่ แต่ใครจะหลบรอดสายตาของท่านประมุขหนานไปได้ ตนหลบมาได้หลายวันก็ถือว่ามากพอแล้ว
หนานเหวินหลงเดินทางกลับพรรคจันทราทันที เพื่อหารือกับท่านตาและท่านยาย ตนคิดว่าทางจวนแม่ทัพเมิ่งคงจะไม่อยู่เฉยเป็นแน่ถ้าหากบุตรสาวเป็นอันตราย หนานเหวินหลงมั่นใจว่ายาพิษสลายวิญญาณที่เสี่ยวหลันของเขาใช้นั้นเมิ่งซูฮวาจะไม่มีทางถอนพิษได้เป็นแน่ ป่านนี้คงไม่แคล้ววิญญาณสลายหลุดลอยจากร่างไปแล้วหรือ ตนจะต้องรู้ให้ได้ว่าทางนั้นคิดจะทำเช่นไรต่อไป...
# หมู่บ้านขนาดเล็กนอกเขตเมืองหลวง
ยามอิ่ว(17.00-18.59) หลังจากรักษาชาวบ้านเสร็จเรียบร้อยไป๋หลัน มีมี่และเย่วซิน ก็เข้าห้องพักเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายเนื่องจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พวกนางทั้งสามเลือกที่จะพักอยู่ร่วมกันเรียกได้ว่าตัวติดกันทั้งวันและทั้งคืน หลังอาบน้ำเรียบร้อยก็นั่งกินข้าวเย็นกันบนห้อง ส่วนเรื่องอาหารส่วนหนึ่งสั่งทางโรงเตี๊ยมเป็นผู้จัดหามาให้เพราะอยากให้ทางโรงเตี๊ยมมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีบางอย่างที่ไป๋หลันเสกออกมาเพิ่มเติม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...