‘อ่อนหัด’
ต้าเป่าเขียน
ชายชราตกใจ เจ้าเด็กบ้าอธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ อ่อนหัดหมายความว่าอย่างไรกัน
ต้าเป่าไม่ใส่ใจเขา แต่ชายชรามองเห็นประโยคหนึ่งจากสายตาของต้าเป่าว่า ‘แค่เก็บผลไม้ก็ยังถูกจับได้ ท่านทำประโยชน์อะไรได้บ้าง’
ในใจของชายชราร้อนระอุ ราวกับกินดินปืนเข้าไป ไม่ใช่พวกเจ้าหรอกหรือที่อยากกินผลไม้ที่ไม่ควรกิน ไฉนอยู่ๆ ก็กลายเป็นความผิดของข้าเสียแล้วเล่า
ต้าเป่าเก็บปากกาและกระดาษ ไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับใครบางคนอีก
ชายชราเห็นว่าต้าเป่ายอมแพ้แล้ว จึงดึงแขนเสื้อ แค่นเสียงขึ้นจมูกแล้วกล่าวว่า “รู้แล้วกระมังว่าตัวเองผิด สำนึกผิดแล้วใช่ไหมว่าไม่ควรทำตั้งแต่แรก!”
ต้าเป่าชะงักไป เขาหยิบกระดาษกับปากกาออกมา แล้วเขียนว่า ‘เปรียบเทียบกับผู้สูงส่ง ไม่เปรียบเทียบกับคนโง่เขลา’
ชายชรา “…!! ”
หลังจากนั้น ต้าเป่าก็ไม่สนใจเขาอีก
ชายชรายังพูดต่ออีกสองสามประโยค ต้าเป่าทำท่าราวกับไม่ได้ยินเขา คุกจึงเงียบสงัดลง
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงเจ้าลูกแกะซึ่งกำลังหลับใหล เด็กทั้งสามยังตื่นอยู่ แต่เมื่อถูกจับแล้วก็ยังไม่ร้องไห้งอแง นั่นทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
ทำไมถึงสุขุมเช่นนี้
พวกเขาเคยผ่านอะไรมาบ้างนะ
เด็กทั้งสามผ่านเรื่องราวมามากมาย พวกเขาไม่ใช่เด็กเล็กที่ร้องไห้ยามได้ยินเสียงฟ้าร้องอีกต่อไป พวกเขามีน้องสาว พวกเขาเป็นพี่ชายแล้ว พวกเขาไม่อาจขลาดกลัว พวกเขาต้องปกป้องน้องสาว!
ชายชราคล้ายกับจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ำก่อนหน้านี้ ตอนที่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์บินออกมา เด็กทั้งสามก็ยังคงเยือกเย็น เรียกง่ายๆ ว่ายิ่งเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวมากเท่าไร เด็กทั้งสามคนก็ยิ่งเยือกเย็นมากเท่านั้น
หากไม่ใช่เพราะตนเองโมโหพวกเขาจนแทบบ้า ชายชราก็อยากจะเอ่ยชมพวกเขาสักหน่อย เป็นเด็กที่เก่งจริๆ
เสียงของทหารลาดตระเวนดังมาจากหน้าประตูคุก ต้าเป่าจับเยี่ยนเสี่ยวซื่อซึ่งอยู่ในกระเป๋าหนังสือมากอดไว้ เอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่านั่งอยู่คนละด้านของต้าเป่า ซบศีรษะของตนลงบนไหล่ของเขา
ในตอนนี้มีทหารเฝ้าอยู่แน่นหนา ไม่ใช่โอกาสที่เป็นใจแก่การหลบหนี
เด็กทั้งสามหลับตาลง แล้วหลับไป
ชายชราถอนหายใจอย่างอ่อนแรง นี่มันใช่เวลามานอนไหม? ใจกล้ากันเหลือเกิน!
ทว่าเมื่อมาคิดดูแล้ว ดึกเช่นนี้ ทั้งยังเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน เด็กที่ไหนจะทนไหว
นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ชายชราเชื่อว่าพวกเขาเป็นเด็ก เด็กต้องพักผ่อนให้มาก นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก!
ส่วนชายชรากลับไม่อาจข่มตานอนได้ เหตุผลหนึ่งก็เพราะเขาคอยระแวดระวังการเคลื่อนไหวรอบตัว แม้จะบอกว่าพวกเขาได้กลายเป็นปลาบนเขียงไปแล้ว แต่หากยังไม่ถึงที่สุด ใครเล่าจะยอมรับชะตากรรมเช่นนี้
เหตุผลที่สองก็คือเขากำลังขบคิดเรื่องความสงสัยภายในใจของตนอยู่
ต้องเกิดเรื่องใหญ่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่
แต่เป็นเรื่องอะไรกัน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใช้ความคิดนานเกินไปหรือเปล่า ในที่สุดเขาก็ผล็อยหลับไป ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงร้องดังออกมาจากในกระเป๋าของต้าเป่า เสียงนั้นเบาเสียจนถ้าหากไม่ตั้งใจฟังก็อาจคิดไปว่าตนหูฝาดไป
ชายชรามิได้ใส่ใจ ตราบจนเยี่ยนเสี่ยวซื่อปีนออกมาจากกระเป๋าหนังสือ
นางสวมชุดขนแกะสีขาว ส่องสะท้อนแสงสลัวยามค่ำคืน
ชายชราคิดว่าสะลึมสะลือกำลังจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน เมื่อเห็นแกะน้อยตัวหนึ่ง เขายังคิดว่าในคุกจะมีแกะได้อย่างไรกัน…
เดี๋ยวนะ แกะหรือ?
แกะ?
ชายชราลืมตาตื่นขึ้นทันใด!
เขามองไปยังเยี่ยนเสี่ยวซื่อ ก็พบว่าเยี่ยนเสี่ยวซื่อคลานไปถึงประตูคุกแล้ว สองมือของนางคว้าบานประตูไม้ คล้ายกับอยากออกไป
ชายชราส่ายหน้า อย่าโง่ไปหน่อยเลย เจ้าแกะน้อย ออกไปไม่ได้หรอก!
คิดว่าเขาไม่เคยลองหรือ? ทันทีที่เขาเข้ามา เขาพยายามใช้มือขยับแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ไม้ธรรมดา แต่นี่เป็นไม้นิลซึ่งถูกเสริมพลังเข้าไป ความแข็งแกร่งทนทานนั้นมิได้เป็นรองเหล็กนิล
ต่อให้ใช้ดาบของเขาฟันบานประตู ก็ไม่รู้ว่าจะต้องฟันลงไปกี่ครั้งจึงจะเป็นรอย
สุดท้ายแล้ว บานประตูไม้นี้ก็พังลงด้วยน้ำมือของเยี่ยนเสี่ยวซื่อ
ชายชรา “…”
เจ้าลูกแกะตัวน้อยแลดูอ่อนแอนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาหรอกหรือ?
พี่ชายคนหนึ่งก็วิปลาส อีกคนก็ฟันเหล็ก เขายังคิดเสียอีกว่าทารกคนนี้อ่อนแอไร้เดียงสา เขานี่โง่จริงๆ เลย…
เยี่ยนเสี่ยวซื่อคลานเตาะแตะออกไป
ชายชราจะตามออกไปจับแต่ก็ไม่ทัน เขานึกอยากปลุกต้าเป่าขึ้นมา ทว่าทันใดนั้นก็นึกได้ว่าหากต้าเป่าตื่นขึ้นมาแล้ว ต้องพาน้องชายและน้องสาวออกไปจากที่นี่เป็นแน่ เขาไม่อยากรีบไปจากที่นี่ ในเมื่อมาแล้ว เขาก็อยากสำรวจภายในเผ่ามารดูสักหน่อย บางทีอาจได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มาบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]