อวี๋เซ่าชิงโศกเศร้า บุตรสาวที่เขาเลี้ยงดูมา เขายังรักและดูแลนางไม่พอ ก็มาถูกชายอื่นฉุดแย่งไปอีก สิ่งที่น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือบุตรสาวของเขาค่อนข้างเต็มใจให้แย่งไป…
อวี๋เซ่าชิงไม่อาจบันดาลโทสะต่อหน้าคนภายนอก รอจนกระทั่งฮูหยินเหยา ลุงวั่นและแม่นางหงตู้จากไป เขาจึงเดินไปที่โรงงานด้วยอาการแน่นหน้าอกและหายใจหอบถี่
ลุงใหญ่กำลังตรวจสอบรายการของขวัญในหนังสือแสดงสินสอด จวนคุณชายจัดพิธีใหญ่โตยิ่งนัก ของขวัญหนึ่งร้อยหกสิบสองชิ้น ไม่ต้องเอ่ยถึงชาวบ้านที่ตะลึงตาค้าง หากไม่เกรงว่าจะทำเรื่องน่าขันต่อหน้าบ่าวรับใช้ของคุณชาย เขาก็คงคุกเข่าคารวะตรงนั้นไปแล้ว
จะรู้ได้อย่างไรว่าจวนคุณชายเตรียมของขวัญแต่งงานไว้หนึ่งร้อยสามสิบชิ้น แล้วซั่งกวนเยี่ยนก็แอบนำมาเพิ่มอีกสามสิบสองชิ้น จำนวนเมื่อนำมารวมกันชวนให้ผู้คนต้องตกตะลึง กระทั่งองค์หญิงคนโตที่สูงศักดิ์ที่สุดของราชวงศ์นี้อภิเษกสมรส ก็ยังได้ของขวัญเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบชิ้นเท่านั้น
ลุงใหญ่พาเด็กอีกสองมาช่วยนับทั้งวัน เพียงครึ่งหนึ่งก็ยังนับไม่เสร็จ ต้องให้สามพี่น้องหนิวมาช่วย หนิวน้อยสองคนกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้านเก่า และจะมาเปลี่ยนเวรกับเขาในอีกไม่นาน ของขวัญมากมายเพียงนี้กังวลว่าจะมีใครมาขโมย จึงต้องให้คนมาเฝ้าไว้ทั้งกลางวันและกลางคืน
“พี่ใหญ่” อวี๋เซ่าชิงเดินไปนั่งบนกล่องใบใหญ่ที่อยู่ด้านข้างลุงใหญ่ ในโกดังนี้มีเก้าอี้เพียงตัวเดียว และลุงใหญ่ก็นั่งอยู่
ลุงใหญ่เห็นว่าน้องชายของตนดูท้อแท้หมดอาลัยตายอยาก จึงถามด้วยความแปลกใจ “เจ้าเป็นอันใดไป? มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นรึ?”
อวี๋เซ่าชิงไม่รู้จะบอกพี่ใหญ่อย่างไร เป็นเรื่องน่าอายที่จะบอกว่าเขาเป็นบิดาของอาหวั่น แต่ระหว่างเขากับเด็กเหลือขอคนนั้น อาหวั่นกลับเลือกเด็กเหลือขอ
“คงเป็นเรื่องกำหนดวันแต่งงานสินะ” ลุงใหญ่เดา
“อืม” อวี๋เซ่าชิงตอบลวกๆ
ลุงใหญ่มาตรว่าน้องชายคงทนไม่ได้ที่จะแยกจากบุตรสาว จากนั้นจึงยกแขนอันเมื่อยล้าขึ้นตบไหล่เขาพลางเอ่ยว่า “เปิดใจสักหน่อย ลูกผู้หญิงอย่างไรท้ายที่สุดก็ต้องออกเรือน อาหวั่นไม่ได้แต่งงานไปที่ใดไกล หากเจ้าคิดถึงนาง ก็ไปหานางได้และหากนางคิดถึงบ้าน นางก็กลับมาบ้านเกิดได้ ดูของขวัญเหล่านี้สิ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน… เจ้าอยู่ในค่ายทหารเกรงว่าคงไม่รู้ ว่าคุณชายวั่น… ไม่สิ คุณชายเยี่ยนโปรดปรานอาหวั่นของพวกเราอย่างแท้จริง… ดูสิ เจ้าทุบตีเขากี่ครั้ง บิดาของเขาเป็นถึงเยี่ยนอ๋อง ยิ่งใหญ่พอที่จะประหารเจ้า!”
แม้ลุงใหญ่จะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าในใจก็รู้สึกอึดอัด แม้ว่าอาหวั่นจะไม่ใช่บุตรแท้ๆ ของเขา ทว่าในใจเขาก็เห็นนางเป็นบุตรแท้ๆ ไหนเลยจะอยากให้นางแต่งงานออกไป?
แต่มันไม่มีทางเลือกหรือไม่?
ลุงใหญ่ทอดถอนใจ “เมื่อครู่ข้าเพิ่งถามคนของจวนคุณชายมา ว่าไม่มีวันฤกษ์ดีอีกแล้วหรือ? คนของจวนคุณชายบอกว่า วันมงคลล้วนอยู่ในเดือนนี้ และครึ่งปีหลังจากนี้จะไม่มีฤกษ์ดีอีก จะปล่อยให้อาหวั่นรอไปอีกครึ่งปีคงไม่ได้กระมัง? อาหวั่นก็ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว”
อวี๋เซ่าชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไม่มีฤกษ์ดีบ้าบออะไรทั้งนั้น! เดิมทีก็เพราะเด็กคนนั้นอดทนไม่ไหว จึงคิดหาวิธีหลอกล่อบุตรสาวของเขาไปเข้าถ้ำหมาป่า!
ลุงใหญ่เอ่ยอย่างจริงใจ “เอาละ เอาละ อย่าได้โกรธเลย ตอนที่น้องสะใภ้แต่งงานกับเจ้ายังอายุน้อยกว่าอาหวั่นอีก ครอบครัวเขาว่าอย่างไรละ?”
เมื่อนึกถึงภรรยาของตน อวี๋เซ่าชิงก็เงียบกริบ
หลังจากอำลาพี่ใหญ่ อวี๋เซ่าชิงก็กลับไปที่บ้าน
วันนี้ในบ้านเสียงดังอึกทึก เถี่ยตั้นน้อยไม่ได้เรียน เขาพาเด็กทั้งสามไปเล่นกันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งวัน ยามนี้พวกเขาทั้งหมดหลับไปแล้ว อวี๋หวั่นก็ไม่อาจต้านทานความง่วง นอนกอดบุตรชายของเธอและหลับไป ส่วนนางเจียงยังไม่หลับ นางนอนจิ้มหน้าของเถี่ยตั้นน้อยครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเตียง
“อาซู” อวี๋เซ่าชิงนอนลงข้างๆ นางเจียง และกอดนางจากด้านหลัง พลางสูดดมกลิ่นหอมที่ลำคอของนาง
“หือ?” นางเจียงตอบอย่างสงสัย
อวี๋เซ่าชิงกล่าว “เจ้าอยู่กินกับข้ามาหลายปีแล้ว…คิดถึงบ้านหรือไม่? รอให้ข้าออกจากเมืองหลวงได้ ข้าจะพาเจ้ากลับไปยังบ้านเกิดนะ”
เขากล่าวต่อโดยไม่รอคำตอบของนางเจียง “พ่อตากับแม่ยายมิอยู่แล้ว ทว่าญาติข้างเคียงก็น่าจะมีอยู่ เจ้ามีผู้ใดที่อยากพบหน้าหรือไม่?”
“ไม่มี” นางเจียงกล่าว
ไม่รู้ว่านางหมายความว่าไม่มีญาติคนอื่น หรือไม่มีผู้ใดที่อยากพบหน้ากันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]