หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 131

บทที่ 131 ถอนคำสาป (2)
Ink Stone_Romance

จื่อซูนึกถึงใบหน้าไร้ความรู้สึกใต้แสงจันทร์ในคืนนั้น ใบหน้านั้นราวกับทับซ้อนใบหน้าของซูมู่ในตอนนี้ ทว่าเพียงชั่วลัดนิ้วมือหนึ่งก็เท่านั้น ทันทีที่นางตระหนักได้ว่าตนคงคิดไปเอง ซูมู่ก็กลับมามีสีหน้าอ่อนแรงดังเดิม

“วางเอาไว้เถอะ อีกสักพักข้าค่อยกิน” ซูมู่บอกอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

จื่อซูกำผ้าเช็ดหน้าแน่น แล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ฮูหยินให้พวกข้าดูเจ้ากิน”

ซูมู่ขมวดคิ้ว

ฝูหลิงหมดความอดทนเสียแล้ว นางเกาหัวเล็กน้อย บีบแก้มของซูมู่ ตักโจ๊กเต็มช้อนแล้วกรอกใส่ปาก “ให้เจ้ากินเจ้าก็กินเข้าไป! พูดพล่ามอยู่ได้!”

ยังไม่กินอีก!

ในโจ๊กใส่พุทรา ทั้งยังใส่น้ำตาลทรายแดง ทั้งหอมทั้งหวาน

ฝูหลิงน้ำลายสอ แต่นางก็เชื่อฟังคำสั่งของฮูหยิน กรอกโจ๊กใส่ปากซูมู่จนหมด

……

จื่อซูกลับไปรายงานภารกิจที่เรือนชิงเฟิง อวี๋หวั่นไม่ได้พูดอะไร แล้วบอกให้นางออกไป

novel-lucky

เยี่ยนจิ่วเฉามีธุระนอกจวน อวี๋หวั่นนั่งอยู่ในเรือนรอเขากลับมากินข้าว ทว่ารอจนฟ้ามืดก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมา ในตอนนั้นเอง เจียงไห่ก็เข้ามารายงานว่าคุณชายจะไปงานเลี้ยงข้างนอก เชิญฮูหยินน้อยไปด้วยกัน

งานเลี้ยง?

อวี๋หวั่นเลิกคิ้ว ในเมื่อเป็นงานเลี้ยง ก็ต้องสวมชุดสำหรับงานเลี้ยง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นงานเลี้ยงอะไร เธอจึงไม่กล้าสวมชุดที่เลิศหรูจนเกินไป อวี๋หวั่นเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบชุดยาวแขนกว้างออกมา ให้ปั้นซย่าซึ่งมือไม้คล่องแคล่วเกล้ามวยผมทรงก้นหอยให้ ปักด้วยปิ่นทองคำลายหงส์ประดับมุุก ประดับศีรษะด้วยเตี่ยนชุ่ย[1] ดูหรูหราแต่ไม่ขาดความสง่า วิจิตรแต่ไม่เกินพอดี ดวงตาเป็นประกาย ฟันเรียงสวย ดูงดงามเหลือเกิน

สาวใช้ในห้องล้วนตกตะลึง พวกนางรู้แต่แรกแล้วว่าฮูหยินน้อยนั้นรูปโฉมงดงาม แต่ก็ไม่รู้ว่านางจะงดงามได้ถึงเพียงนี้

“ฮูหยินน้อย” จื่อซูส่งกระดาษชาดสีแดงสดให้อวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นเม้มปากเบาๆ

ริมฝีปากของเธอเป็นสีแดง

อวี๋หวั่นพาจื่อซูเดินทางออกจากจวนคุณชาย

เมื่อเจียงไห่เห็นอวี๋หวั่นก็ตกตะลึงไปชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง แต่เขาก็หลุบตาลงอย่างรวดเร็ว พร้อมบอกกับอวี๋หวั่นว่า “ฮูหยินน้อยเชิญขึ้นรถขอรับ”

เจ้านายและบ่าวขึ้นรถม้าไป

อวี๋หวั่นถามขึ้นว่า “คุณชายบอกหรือไม่ว่างานเลี้ยงที่ไหน?”

“คุณชายบอกว่าที่ทะเลสาบลี่ขอรับ” เจียงไห่ตอบ

“อ้อ” อวี๋หวั่นร้องขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เดิมทีเธอก็คิดว่าบ้านใครตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เมื่อไปถึงแล้วจึงรู้ว่าจะเป็นบ้านใครเสียอีก ก็บ้านเธอนี่แหละ

เรือหรูประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม เยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งงดงามยิ่งกว่า กำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือ

แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังคงมีรังสีแห่งความเย่อหยิ่งแผ่ซ่านออกมา

อวี๋หวั่นพาจื่อซูขึ้นไปบนเรือ

เรือลำนี้อวี๋หวั่นคุ้นเคยดี ในวันที่ถูกเหยียนหรูอวี้ลักพาตัว เขามาหาเธออย่างรวดเร็วด้วยเรือสีทองลำนี้ แต่ในตอนนั้นด้านหลังของเขามีทหารเรือนับพันคนคอยอารักขา

เขาในตอนนั้น นับว่าเล่นใหญ่พอสมควร

แม้ว่าจื่อซูจะเกิดในตระกูลข้าราชการ แต่ข้าราชการไหนเลยจะเทียบได้กับเชื้อพระวงศ์? ทันทีที่นางขึ้นเรือไปก็ต้องตกตะลึงกับความหรูหราอลังการของเรือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาดฟ้าของเรือทำจากทองคำหรือไม่

“ชู่ว” ทันใดนั้นเอง อิ่งลิ่วก็หยุดจื่อซูเอาไว้ แล้วบุ้ยใบ้ไม่ให้จื่อซูส่งเสียง

จื่อซูจำต้องกลืนเสียงหวีดร้องกลับลงคอไป

อิ่งลิ่วขยิบตาให้นาง จื่อซูเข้าใจในทันที แล้วเดินไปยังร้านน้ำชาซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปพร้อมกับเขา

อวี๋หวั่นยิ้ม มิได้รังเกียจรังงอนที่สาวใช้ของเธอถูกอิ่งลิ่วพาตัวไป เธอเดินมาหยุดข้างเยี่ยนจิ่วเฉา ซ้ายมือเป็นรั้วทำจากไม้หนานมู่เนื้อทอง สูงประมาณครึ่งคนเห็นจะได้ แกะสลักเป็นลัญจกรลายเมฆาของจวนเยี่ยนอ๋อง

ว่ากันว่าไม้หนานมู่เนื้อทองพันปีไม่ผุ หมื่นปีไม่พัง เป็นไม้ที่ฮ่องเต้ทรงใช้

อวี๋หวั่นไม่รู้ว่านี่เป็นการกล่าวเกินจริงหรือไม่ แต่นอกจากในวังหลวงแล้ว เธอไม่เคยเห็นใครใช้ไม้ชนิดนี้เลย

เยี่ยนจิ่วเฉาสวมอาภรณ์ผ้าไหมสีฟ้าอ่อน ผมดำขลับรวบไว้บนศีรษะ สวมกวนหยกขาว เขามีใบหน้างดงามไร้ที่ติ ประณีตดุจหยก สง่าดุจดวงจันทร์ ไม่ต้องทำอะไรก็หล่อเหลาจนไม่อาจละสายตาได้

อวี๋หวั่นคุกเข่าลงตรงหน้าเยี่ยนจิ่วเฉา มองหน้าเขาพลางยกมือขึ้นเท้าคาง “งานเลี้ยงนี้มีแค่พวกเราหรือ?”

“น้อยไปรึ?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามเธอด้วยสีหน้าเย็นชาดังก้อนน้ำแข็ง

อวี๋หวั่นไม่ได้รู้สึกโกรธ เธอยกยิ้มมุมปาก “เยี่ยนจิ่วเฉา ท่านอยากอยู่กับข้าสองต่อสองใช่ไหมละ?”

“ไปกินข้าวเถอะ!” เยี่ยนจิ่วเฉาผลักรถเข็นไปยังโต๊ะ

อวี๋หวั่นมองตามแผ่นหลังของเขา ลอบยิ้มมุมปาก “อยากอยู่กับข้าสองต่อสอง ยังไม่ยอมรับอีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]