อวี๋หวั่นฝืนยิ้ม “องค์ชายรอง ในสายตาท่านแล้ว ข้าดูข่มขู่ง่ายถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ถึงเยี่ยนจิ่วเฉาไม่เห็นด้วย แต่ข้าก็ต้องรีบสละตำแหน่งภรรยาหลวง และต้องผิดใจกับเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างนั้นหรือ? ฝากท่านไปกราบทูลฝ่าบาทให้ข้าหน่อย ข้าไม่ได้โง่งมถึงเพียงนั้น ข้าเป็นภรรยาของเยี่ยนจิ่วเฉา ไม่ว่าจะยามเป็นหรือยามตาย ต่อให้วันหนึ่งข้าตายไป แล้วเขาแต่งงานใหม่ ป้ายของคนอื่นๆ ก็ต้องอยู่ใต้ป้ายวิญญาณของข้า!”
เยี่ยนไหวจิ่งไม่ได้คาดคิดว่าอวี๋หวั่นจะใช้คำพูดรุนแรงเช่นนี้ รังสีที่แผ่มานั้นทำให้เขานึกถึงมารดาและฮองเฮา
วินาทีที่เขาจิตใจล่องลอยไป อวี๋หวั่นก็ขึ้นรถม้า
กว่าเขาจะได้สติกลับมา มือซึ่งยื่นออกมาหมายจะคว้าตัวอวี๋หวั่นกลับถูกเจียงไห่ตวัดแส้ใส่
นี่องค์ชายนะ!
จุดไท่หยางข้างขมับของจวินฉางอันเต้นตุบๆ เขาหูหนวกหรืออย่างไร? ไม่ได้ยินตนกับอวี๋หวั่นพูดว่าองค์ชายรองรึ? ไม่ไว้หน้าองค์ชายเช่นนี้ อยากตายหรืออย่างไร?
แน่นอนว่าจวินฉางอันไม่ยอมให้แส้ของเจียงไห่ฟาดโดนเยี่ยนไหวจิ่ง เขายกดาบขึ้นมาปัดแส้ออกไป
เจียงไห่แค่นเสียง ‘หึ’ ขึ้นจมูกอย่างเย็นชา เขากระชับเชือกในมือ แล้วพารถม้ามุ่งหน้าออกไป
………………….
อวี๋หวั่นรอเยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ที่บ้าน เยี่ยนจิ่วเฉากลับยังโอ้อวดไม่หนำใจ หลังจากที่ออกมาจากตำหนักจินหลวนแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูเมือง ตั้งโรงทานแจกโจ๊ก ทว่าเขาไม่ได้แจกโจ๊ก เขาแจกไข่ไก่สีแดง!
คุณชายเยี่ยนเข้าหอแล้ว
คนทั้งเมืองหลวงต่างก็กินไข่ไก่สีแดงที่เยี่ยนจิ่วเฉาแจก
เสียสติไปแล้ว…
คุณชายเยี่ยนซึ่งใช้เวลาเสียสติไปทั้งวันนั้นกลับมาบ้านด้วยจิตใจอิ่มเอิบ หลังจากที่อวี๋หวั่นเดินทางออกจากเรือ อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันก็ไปรับเขาที่ตำหนักจินหลวน ในตอนที่แจกจ่ายไข่ไก่สีแดง ทั้งสองก็อยู่ด้วย พวกเขารู้สึกอยากจะบ้าตายเหลือเกิน
ในตอนที่เยี่ยนจิ่วเฉาเข้าไปในเรือนชิงเฟิง อวี๋หวั่นกำลังยืนอยู่หน้าพุ่มไม้ ใช้กรรไกรตัดแต่งดอกไม้อยู่ กิ่งไม้ไม่ได้ถูกตัดไปมากเท่าไร ทว่าดอกไม้ที่ลุงวั่นคอยประคบประหงมนั้นยับเยินเสียแล้ว
ลุงวั่นปวดใจเหลือเกิน แต่กระนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไร!
เยี่ยนจิ่วเฉาเดินเข้ามา
อวี๋หวั่นรู้ว่าเขาเดินมา เธอคิดถึงเรื่องเมื่อคืน หน้าก็แดงขึ้นมาเสียได้ เห็นอยู่ว่าแต่งงานแล้ว แต่ความสุขสมที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นเมื่อวาน เธอไม่กล้าคิดว่าเธอทำอะไรกับเขา เขาทำอะไรกับเธอ สรุปแล้วพวกเขาก็เป็นคนโง่งมสองคนที่เพิ่งได้ลิ้มลองผลไม้ต้องห้ามเป็นครั้งแรก
ในตอนนั้นพวกเขาทุ่มสุดตัว จนลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น ตอนนี้กลับรู้สึกกระดากอายขึ้นมา
“เหตุใดทำหน้าบึ้งเช่นนั้นเล่า? เพราะข้ามาช้าหรือ?” เยี่ยนจิ่วเฉามาหยุดยืนข้างกายอวี๋หวั่น แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความจริงจัง
ยามที่เขาเข้ามาใกล้ ใบหน้าของอวี๋หวั่นก็แดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
แต่เมื่อเธอเหลือบไปมองและพบว่าใบหูของเขาเป็นสีแดงระเรื่อ เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา แม้ด้านจิตใจเธอจะพ่ายแพ้ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ทั้งสองก็ไม่ต่างกันเท่าไร
แน่นอนว่าเธอไม่ได้โกรธที่เขากลับมาช้า
แต่จะว่าไป เขากลับมาช้าจริงๆ ไปทำอะไรมานะ?
“ท่านไปทำอะไรมา?” อวี๋หวั่นถาม
“เข้าวัง”
แจกไข่ไก่สีแดง
“บรรเทาทุกข์ให้ราษฎร”
แจกไข่ไก่สีแดง
อวี๋หวั่นฟังแล้วคิดว่าเป็นงานสำคัญ จึงมิได้กล่าวโทษที่เขามาช้า อวี๋หวั่นจับชีพจรให้เขา ชีพจรของเขาคงที่กว่าแต่ก่อน เพียงแต่ในร่างกายของเขายังคงมีพิษหลงเหลืออยู่ เธอจะกลับไปหาตำรับยาถอนพิษให้เขาดื่ม นั่นมิใช่ปัญหาใหญ่
“ยังไม่บอกเลยว่าเจ้าเป็นอะไร” ดอกไม้กระจายเละเทะบนพื้นเช่นนี้ ต่อให้ตาบอดก็รู้ว่าเธอโกรธ
อวี๋หวั่นเล่าเรื่องที่พบกับเยี่ยนไหวจิ่งให้เขาฟัง เยี่ยนจิ่วเฉาเข้าใจเธอผิดแล้ว เธอไม่ได้โกรธ เธอกำลังตัดดอกไม้ต่างหาก เพียงแต่ฝีมือการตัดดอกไม้ของเธอเหมือนกับการจัดดอกไม้ ดูไม่ได้เอาเสียเลย
เยี่ยนจิ่วเฉาลองสรุปคร่าวๆ ใจความสำคัญของสิ่งที่อวี๋หวั่นพูด
หนึ่ง เยี่ยนไหวจิ่งยังคงวนเวียนไม่ไปไหน
สอง เยี่ยนไหวจิ่งยังคงวนเวียนไม่ไปไหน
สาม เยี่ยนไหวจิ่งยังคงวนเวียนไม่ไปไหนอีก!
คุณชายเยี่ยนสายตาเย็นเยียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]