เด็กหญิงตัวเล็กๆ ผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นางก็คือเฉินเอ้อร์ยาบุตรสาวของนางหลิวกับอดีตสามี หลังจากอดีตสามีของนางหลิวตายไป บ้านก็เหลือเพียงเฉินเอ้อร์ยากับมารดาอดีตสามีที่นอนติดเตียงเท่านั้น หวังหมาจื่อจิตใจกว้างขวางและกตัญญูรู้คุณ รับเฉินเอ้อร์ยากับมารดาอดีตสามีของนางหลิวมาอยู่ด้วย เขาดูแลราวกับเป็นบุตรสาวและมารดาแท้ๆ ของตนเองเอง ทุกวันในบ้านจะมีต้มจืดไข่หวานสามฟอง เขาไม่กินเองกลับยกให้ครอบครัวทั้งหมด อีกทั้งยังเข้าไปซื้อหมูสามชั้นที่ตำบลมาทำอาหารเสริมร่างกายให้กับพวกนางอยู่บ่อยครั้ง เอ้อร์ยาโตขึ้นกว่าปีก่อนๆ มาก ยายเฉินก็สามารถลุกจากเตียงมาเดินไปเดินมาได้แล้ว
วันนี้หวังหมาจื่อและนางหลิวไปทำงานที่โรงฝึกงานของสกุลอวี๋แต่เช้าตรู่ ส่วนยายเฉินทุบกระเทียมอยู่ที่ลานด้านหลัง นางแก่ชราแล้ว หูก็ไม่ดี จึงไม่ได้ยินเสียงที่หน้าประตู
เอ้อร์ยามองคนผู้นั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ และก้มกลับลงไปเล่นโคลนบนพื้นต่อ
ราชครูคิดว่านางคงไม่รู้ว่าสิ่งของในมือของเขาคืออะไร แต่ก็ไม่แปลกใจ เด็กหญิงตัวเล็กๆ ในชนบทที่ห่างไกล โตมาถึงเพียงนี้เกรงว่ากระทั่งขนมโซวทึ้งเป็นอย่างไรก็คงไม่เคยเห็น ราชครูอดทนแกะกระดาษน้ำมันที่ห่อขนมโซวทึ้ง เผยให้เห็นชิ้นถั่วเหลืองกรอบสีทองส่งกลิ่นหอมหวาน
“ขนมชิ้นนี้ข้าให้เจ้า เจ้าช่วยนำทางข้าที” ราชครูกล่าวอย่างนุ่มนวล
เอ้อร์ยาเหลือบมองขนมในมือเขาและหันไปเล่นโคลนต่อไปอย่างไม่สนใจสิ่งใด
ราชครูคิดว่าตนเองตาฝาด ไม่เช่นนั้นในดวงตาของเด็กหญิงบ้านนอกจะมีแววแห่งความรังเกียจอยู่ได้อย่างไร? นี่เป็นของที่ซื้อมาจากเมืองหลวง ต้องเป็นเพราะยังไม่รู้จักสิ่งนี้เป็นแน่
“ข้าให้เจ้ากิน” ราชครูยังคงเพียรพยายาม
เอ้อร์ยาทิ้งโคลนแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานนางก็หยิบขนมถั่วเหลืองออกมายืนพิงกรอบประตูแล้วค่อยๆ กัดกิน มันคือขนมถั่วเหลืองชิ้นใหญ่ที่มีสีทองอร่ามงดงามกว่า ทั้งยังมีลูกเกดแห้งและถั่วผสมอยู่ แค่มองดูก็ทราบได้ว่าขนมของนางมีระดับสูงกว่าขนมถั่วเหลืองของราชครูยิ่งนัก
ราชครูตกตะลึงในทันที
เอ่อ…
นี่เขามาผิดที่หรือ? เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ จากหมู่บ้านยากจนจะกินของดีเช่นนี้ได้อย่างไร?
ราชครูยังอยากถามอีกอย่าง ทว่านางก็กลอกตาแล้วเดินจากไป!
สุภาพบุรุษชราบอกว่า คนที่ใช้ขนมมาหลอกล่อเด็กล้วนเป็นคนเลว! และนางก็ไม่ต้องการเสวนากับคนเลว!
ราชครูที่เพียงต้องการถามทางเท่านั้น “…”
สุภาพบุรุษชราก็คือผู้อาวุโสของครอบครัวอาเว่ย หลังจากผู้อาวุโสเปิดโรงเรียนในหมู่บ้าน เอ้อร์ยาก็กลายเป็นหนึ่งในนักเรียนของเขา ทว่าวันนี้โรงเรียนในหมู่บ้านปิด เอ้อร์ยาจึงอยู่เล่นที่บ้าน
“อาม่า!”
บ้านสกุลจ้าว ชิงเหยียนเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขาเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นราชครู เขากำลังจะไปโรงฝึก แต่เมื่อเดินไปถึงประตูก็เห็นรถม้าที่ดูไม่คุ้นตาคันหนึ่ง ธุรกิจสกุลอวี๋ใหญ่โต มักมีพ่อค้ามาเจรจาการค้าอยู่เสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีรถม้าที่ไม่คุ้นตา ทว่าสิ่งที่แปลกคือบุรุษผู้มีลักษณะคล้ายกับเทพเซียนที่เดินลงมา แน่นอนว่านั่นคือลักษณะคล้ายเทพเซียนในสายตาของคนนอก ทว่าในสายตาของชิงเหยียนก็แค่แกล้งทำตัวให้เหมือนเท่านั้น
ความรู้สึกแรกของชิงเหยียนคือปรมาจารย์พิษ ความรู้สึกที่สองคือพ่อมดและความรู้สึกที่สามคือต้องรายงานเรื่องนี้กับอาม่า
ชายชรากำลังตระเตรียมบทเรียน หลังจากฟังจากปากชิงเหยียน เขาก็เปิดหน้าต่างและมองไปทางบ้านของหวังหมาจื่อ ข้อดีของบ้านสกุลจ้าวคือสามารถมองเห็นทุกครัวเรือนในหมู่บ้าน อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะแก่การสังเกตการณ์อย่างดีเยี่ยม
หลังจากเห็นลักษณะของราชครู ชายชราก็ฮึดฮัดเสียงเย็นชา “บุรุษผู้นี้น่ะเรอะ”
“อาม่ารู้จักเขา?” ชิงเหยียนถามด้วยความงงงวย
เยว่โกวเดินเข้ามาในห้อง อาเว่ยกำลังหัวหมุนกับเด็กอ้วนทั้งสามคนจึงไม่มีเวลาสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านยามนี้
ชายชรากล่าวน้ำเสียงเหยียดหยาม “ร่างทรงจอมปลอมแห่งราชวงศ์หนานจ้าวคนหนึ่ง”
ราชครูแห่งหนานจ้าว
ราชครูแห่งหนานจ้าวกับนักบวชเผ่าปีศาจ ในความรู้สึก็คืออาชีพประเภทหนึ่ง พวกเขาทำนายสิ่งที่ดีและไม่ดีให้เจ้านายและขณะเดียวกันก็ฝึกเวทมนตร์ด้วย ทว่าหากเทียบกับปรมาจารย์พิษ พวกเขาใกล้เคียงกับพ่อมดมากกว่า ที่แตกต่างกันก็คือราชครูแห่งรัฐหนานจ้าวรับใช้ประมุขของประเทศ ในขณะที่ชายชรารับใช้หัวหน้าเผ่า หากว่ากันตามสถานะราชครูอยู่สูงกว่านักบวชมากนัก
แต่หากเทียบในด้านความเก่งกาจ วิชาการร่ายมนตร์มีต้นกำเนิดมาจากเผ่าปีศาจ พวกเขาฝึกฝนการร่ายมนตร์จากถิ่นบรรพบุรุษ ส่วนราชครูหมูหมากาไก่นั่นร่ำเรียนผิวเผินดั่งเส้นขนก็วางท่าแสร้งทำเป็นเทพเซียน ชายชรายังไม่คิดจะเอาราชครูมาอยู่ในสายตา
“แต่ข้าได้ยินว่าตอนจัดการแข่งขันเวทมนตร์ ท่านแพ้ราชครูแห่งหนานจ้าวนี่นา” เยว่โกวเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
ชายชรากวาดสายตาที่คมดั่งมีด “เจ้าไม่พูดก็ไม่มีผู้ใดคิดว่าเจ้าเป็นใบ้!”
เมื่อสามสิบปีก่อน เผ่าปีศาจและหนานจ้าวได้มีโอกาสประลองเวทมนตร์กัน ชายชราในวัยกลางคนเป็นตัวแทนของเผ่าปีศาจตอบรับคำท้าจากหนานจ้าว ในขณะนั้นราชครูไม่ใช่ร่างทรงจอมปลอม หากแต่เป็นอาจารย์ของเขา
ราชครูและนักบวชแข่งขันกันเป็นเวลาสามวันสามคืน ในที่สุดก็ได้ผู้ชนะ
แน่นอนว่านี่คือผลการแข่งขันที่ประกาศสู่ภายนอก ทว่าความจริงแล้วชายชราคือผู้ที่ได้รับชัยชนะที่แท้จริง ทว่าเนื่องจากอาจารย์ของราชครูค้นพบความลับของชายชรา ชายชราจึงยอมแพ้เพื่อรักษาความลับไว้เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]