อวี๋หวั่นเปิดฝากล่องออก มันคือภาพของเด็กชายตัวอ้วนๆ สามคนที่อ้วนขึ้นกว่าเดิมถึงหนึ่งรอบตัว ซั่งกวนเยี่ยนหัวเราะเบาๆ ใต้ภาพมีหยกสีม่วงเนื้อดี อวี๋หวั่นไม่รู้ว่ามันคือหยกชนิดใด รู้เพียงมันอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน เหมาะแก่การนำติดตัวเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้อวี๋หวั่นยังเก็บแตงหวานจากสวนผลไม้มาด้วย จวนสกุลเซียวไม่ขาดแคลนอาหาร ทว่าแตงของเธอหวานกว่าแตงที่ขายด้านนอกยิ่งนัก
ซิ่งจู๋นำอ่างน้ำมาแล้ว อวี๋หวั่นจึงล้างหน้าล้างตา ซั่งกวนเยี่ยนก็ให้ซิ่งจู๋นำแตงหวานไปหั่น
แม่สามีกับสะใภ้นั่งกินแตงหวานฉ่ำอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นซั่งกวนเยี่ยนก็เอ่ยขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสวนผลไม้ในจวนคุณชายมาได้อย่างไร?”
“มาได้อย่างไรหรือเจ้าคะ?” อวี๋หวั่นถาม
ซั่งกวนเยี่ยนยิ้มและเอ่ยว่า “ท่านอ๋องเป็นคนปลูก”
“ท่านอ๋อง… ปลูกสิ่งนี้?” อวี๋หวั่นไม่เคยได้ยินเยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย อันที่จริงเยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่ค่อยเอ่ยถึงเยี่ยนอ๋องอยู่แล้ว อวี๋หวั่นก็กลัวไปสะกิดโดนบาดแผลในใจของเขาจึงไม่คิดจะเอ่ยปากถาม
ใบหน้าของซั่งกวนเยี่ยนหวนนึกถึงความทรงจำในอดีต “จวนคุณชายเคยเป็นตำหนักขององค์ชายหก ก่อนขึ้นเป็นอ๋อง ท่านอ๋องก็อยู่ที่นั่น ยามนั้นฉงเอ๋อร์ยังเด็ก ท่านอ๋องถามเขาว่าชอบสิ่งใด เดิมทีท่านอ๋องคิดว่าบุตรชายชอบดอกไม้พืชพันธุ์ใด เขาจะปลูกดอกไม้พืชพันธุ์นั้น แต่ไหนเลยจะรู้ว่าเมื่อเด็กน้อยเอ่ยปากก็ล้วนเป็นของกิน ท่านอ๋องจึงเปลี่ยนสวนดอกไม้เป็นสวนผลไม้แทน”
ดูไม่ออกเลยว่าเยี่ยนจิ่วเฉาก็เคยเป็นเด็กช่างกินเหมือนกัน ตอนนี้คงไม่อาจโทษว่าความตะกละของเหล่าเด็กอ้วนเป็นความผิดของเธอได้อีกแล้ว!
อวี๋หวั่นไม่เคยพบเยี่ยนอ๋อง แต่ว่ากันว่าบิดากับบุตรมีความคล้ายคลึงกันมาก อวี๋หวั่นจินตนาการถึงภาพเยี่ยนจิ่วเฉาถือจอบขุดดิน เหงื่อออกท่วมกายราวกับตากฝน ก็น่าขำขันและดูอบอุ่นอยู่เช่นกัน
ซั่งกวนเยี่ยนกล่าวต่อว่า “บ่อปลานั้นท่านอ๋องก็ขุดเช่นกัน ข้าบอกว่าให้คนรับใช้ขุดก็พอ ทว่าท่านอ๋องก็ยังยืนยันจะทำเอง ฉงเอ๋อร์เกาะบิดาของเขาตลอด ไม่ว่าบิดาไปที่ใด เขาก็จะไปที่นั่น ผลสุดท้าย เขาก็ขี่คอท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็หัวเราะไปพลางขุดบ่อปลาไปพลาง”
เยี่ยนอ๋องผู้ไม่คลุกคลีกับเรื่องทางโลกจะมีท่าทางโง่เขลาเฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าภรรยาและบุตรเท่านั้น ซั่งกวนเยี่ยนระลึกถึงความหลัง ริบฝีปากหยักพลันยกยิ้ม
“อะแฮ่ม!” เสียงของเซียวเจิ้นถิงดังมาจากประตู
ซั่งกวนเยี่ยนสะดุ้งก่อนจะหันกลับมามองเขา “วันนี้ท่านฝึกซ้อมเสร็จแต่เช้าเลยหรือ?”
เซียวเจิ้นถิงพักผ่อนอยู่กับบ้าน ทว่าสิบปีไม่เคยห่างจาการฝึกวรยุทธ์แม้แต่วันเดียว เมื่อรู้ว่าวันนี้อวี๋หวั่นจะมา เขาจึงเริ่มฝึกให้เร็วกว่าเดิมครึ่งชั่วยาม
“แม่ทัพใหญ่เซียว” อวี๋หวั่นลุกขึ้นค้อมคำนับให้ผู้อาวุโสกว่า และใช้คำเรียกตามเยี่ยนจิ่วเฉา
เซียวเจิ้นถิงยิ้มอย่างเปิดเผย “นั่งลงเถิด”
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือไม่ อวี๋หวั่นรู้สึกว่าวันนี้แม่ทัพใหญ่เซียวดูแข็งแรงกว่าที่เคย
อวี๋หวั่นนั่งลง
เซียวเจิ้นถิงนั่งลงข้างซั่งกวนเยี่ยน ใช้ไม้จิ้มจิ้มแตงหวานขึ้นมากินหนึ่งชิ้น เขาเป็นผู้บัญชาการทหาร ไม่ชอบใช้ของน่ารักจุ๋มจิ๋มเช่นนี้ของเหล่าอิสตรี ทว่าสะใภ้อยู่ต่อหน้า เขาจำต้องไม่ทำตัวหยาบคายจนเกินไป
“หวานยิ่งนัก! ซื้อมาจากที่ใดหรือ? รสชาติดีกว่าครั้งก่อนเสียอีก”
หากไม่มีบทสนทนาก่อนหน้านี้ การตอบไปตามตรงคงไม่ใช่ปัญหา ทว่ากลับเล่าเรื่องอดีตสามีให้สะใภ้ฟังต่อหน้าและถูกเขาได้ยินเข้า แล้วยังบอกว่าผลไม้เหล่านี้เยี่ยนอ๋องเป็นคนปลูก ไม่รู้ว่าเขายังจะกินลงอยู่หรือไม่
“ข้านำมาเองเจ้าค่ะ” อวี๋หวั่นกล่าว
“เจ้าก็เลือกเป็นด้วยรึ” เซียวเจิ้นถิงจิ้มอีกสองสามชิ้น
เซียวเจิ้นถิงเป็นบุรุษ อวี๋หวั่นไม่ได้สนทนากับเขามากนัก หลังจากทั้งสองทักทายกันไม่นาน เธอก็ลุกขึ้นเดินไปเรือนของเซียวจื่อเยว่
ยามนี้ภายในห้องเหลือเพียงสามีภรรยา ซั่งกวนเยี่ยนเอ่ยปากอธิบาย “เมื่อครู่…”
“คาดไม่ถึงว่าเด็กนั่นไม่ใช่หนอนหนังสือเท่านั้น แต่ยังเพาะปลูกเป็นด้วย” เซียวเจิ้นถิงลูบคางอย่างครุ่นคิด
เมื่อซั่งกวนเยี่ยนได้ยินน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความไม่พอใจของเขา จึงรีบถามด้วยความประหลาดใจ “ท่าน ท่านไม่โกรธหรือ?”
เซียวเจิ้นถิงยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรีบถอดเสื้อออก ซั่งกวนเยี่ยนสะดุ้งตัวโยนกับสิ่งที่เขาทำอย่างกะทันหัน คิดว่าเขาจะซี้ซั้วโอ้โลมนางกลางวันแสกๆ แต่ไหนเลยจะรู้ว่ามีชุดเกราะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าของเขา
“ท่าน…ใส่ชุดเกราะอันใดอยู่ในบ้านอากาศร้อนเช่นนี้??” แล้วยังแอบใส่ไว้ใต้เสื้อ! ไม่กลัวหายใจไม่ออกตายรึ?!
เซียวเจิ้นถิงหัวเราะฮ่าๆ “ฉงเอ๋อร์ส่งมันกลับมาให้ข้า”
ซั่งกวนเยี่ยนพูดไม่ออก นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ทว่าบุรุษผู้นี้ยังคงจมอยู่กับความสุขที่ฉงเอ๋อร์มอบชุดเกราะให้แก่เขา? กระทั่งความหึงหวงต่อนางกับอดีตสามีก็ยังไม่เก็บมาคิด?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]