จู่ๆ พ่อครัวก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้าจำได้แล้ว! คนรับใช้ของเมิ่งอี๋เหนียงไปเร่งอาหารที่ห้องครัว!”
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า” ฮูหยินใหญ่เซียวลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าเมิ่งอี๋เหนียง ก่อนจะวาดฝ่ามือตบหน้าฉาดใหญ่!
“นางคนนี้! ทำร้ายเซียวจื่อเยว่ครั้งเดียวยังไม่พอ ยังไม่ทันไร ก็กล้าทำครั้งที่สอง! ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่พอใจข้า ที่ข้าลงโทษบุตรสาวของเจ้า เจ้าจึงคิดจะสั่งสอนข้า!”
เซียวเหยี่ยนไม่อยู่แล้ว บุตรของนางจึงเหลือเพียงเซียวจื่อเยว่ นางคนนี้ก็ไม่ต้องการเห็นนางได้ดี!
เมิ่งอี๋เหนียงไม่คิดว่าตนจะละเลยช่องโหว่ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าฟ้ามีตา หาใช่คำกล่าวที่ไร้เหตุผล
ใบหน้าของนางปูดบวม นางคลานไปแทบเท้าฮูหยินใหญ่เซียวและเอ่ยด้วยเสียงแข็งว่า “ฮูหยิน ข้าไม่ได้ทำ!”
“ไสหัวไป!” ฮูหยินใหญ่เซียวยกขาเตะนางออกไป
ฮูหยินใหญ่เซียวไม่เชื่อนาง หากเมิ่งอี๋เหนียงเป็นคนดีก็คงไม่ให้ท่าสามีของนาง สามีของนางก็ไม่ได้บังคับเมิ่งอี๋เหนียง แต่เป็นเมิ่งอี๋เหนียงเองที่ยินยอมเป็นอนุภรรยาด้วยความเต็มใจ ต้องการแย่งบุรุษไปจากนาง!
วันนี้โชคดีที่นายท่านใหญ่ลุ่มหลงในกามคุณ แย่งจานมาโดยไม่ตั้งใจ ไม่เช่นนั้นคงเข้าไปอยู่ในท้องของบุตรสาวแล้ว ไม่รู้ว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง บุตรสาวจะเป็นอย่างไร เมื่อนึกถึงตอนนี้ ฮูหยินใหญ่เซียวก็เริ่มอยากฆ่าเมิ่งอี๋เหนียงขึ้นมา
ฮูหยินใหญ่เซียวหยิบถ้วยบนโต๊ะปาใส่เมิ่งอี๋เหนียงอย่างโหดเหี้ยม ศีรษะของเมิ่งอี๋เหนียงถูกกระแทกจนแตก เลือดสีแดงก็ไหลออกมาทันที
เซียวจื่อหลินตกใจร้องไห้ คุกเข่าลงกอดขาฮูหยินใหญ่เซียว “แม่ใหญ่! อี๋เหนียงเป็นผู้บริสุทธิ์! ท่านปล่อยนางไปเถิด…”
“ลากออกไป!” ฮูหยินใหญ่เซียวออกคำสั่ง มามาผู้มีพละกำลังสามารถด้านวรยุทธ์ก้าวไปข้างหน้า และดึงตัวเซียวจื่อหลินออกไป
เมื่อพบตัวคนร้าย ซั่งกวนเยี่ยนก็ไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป นางดึงเซียวเจิ้นถิงเดินออกจากเรือนของเมิ่งอี๋เหนียง
“เห็นแล้วกระมัง” จู่ๆ เซียวเจิ้นถิงก็เอ่ยปาก หลังจากเดินจากมา
ซั่งกวนเยี่ยนผงะ “อันใดหรือ?”
เซียวเจิ้นถิงเหลือบมองนาง “หากมีสตรีมากเกินไปหลังบ้านก็จะไม่สงบ ผู้ใดกันที่วางยาและยัดเยียดสตรีให้ข้าเมื่อไม่นานมานี้?”
เวลานี้มาเปิดบัญชีเก่าเมื่อแปดร้อยปีก่อนรึ? ช้าก่อน คงไม่ใช่ว่าในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวหึงหวงที่นางนึกถึงเยี่ยนอ๋องต่อหน้าอวี๋หวั่นกระมัง?
ซั่งกวนเยี่ยนแก้ตัวไม่พ้นข้อกล่าวหา “เอ่อ ข้า…”
เซียวเจิ้นถิงใช้สองแขนรวบตัวนางขึ้นในท่าอุ้มเจ้าหญิง และรีบร้อนสาวเท้าเดินกลับเรือน บรรดาคนรับใช้ต่างก้มหน้า หลบตา ไม่มองคนทั้งคู่
ซั่งกวนเยี่ยนใช้มือตีเขา “ปล่อยข้าลง!”
“ปล่อยรึ! นับตั้งแต่วันที่ข้าแต่งงานกับเจ้า ข้าก็ไม่เคยคิดจะปล่อยเจ้าแล้ว!”
“ท่าน!”
เซียวเจิ้นถิงอุ้มนางเข้ามาในห้อง และยกเท้าขึ้นปิดประตู
ซั่งกวนเยี่ยนทั้งเขินทั้งอาย “เซียวเจิ้นถิง! กลางวันแสกๆ ท่านเป็นบ้าอันใด?”
เซียวเจิ้นถิงรู้ว่าเขาเป็นคนไร้การศึกษา ไม่คู่ควรกับสตรีที่บอบบางเช่นนี้ เขายังรู้ว่าในใจของนางมีเยี่ยนอ๋องอยู่ เขาไม่อาจบังคับให้นางลืมเยี่ยนอ๋องได้ แต่เขาหวังว่าขอมีเพียงชั่วครู่หนึ่งที่นางเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ก็พอ
“เซียวเจิ้นถิง ท่าน…อื้อ…”
คำพูดด้านหลัง ถูกเซียวเจิ้นถิงกลืนลงไป
ร่างกายที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์มาตลอดหลายปี ทำให้เขาร่างกายสูงใหญ่แข็งแรงกำยำ ซั่งกวนเยี่ยนเปรียบเสมือนดอกตูมเล็กๆ ที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บ เบ่งบานราวกับร้องไห้คร่ำครวญท่ามกลางพายุฝนโหมกระหน่ำ
…
ณ ห้องปี้สยา สตรีญาติทานอาหารกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ในวันธรรมดาพวกนางมักจะอยู่ในห้องส่วนตัว ไม่ได้ออกไปไหนมาไหน ไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวจึงไม่ค่อยอยากอาหารมากนัก ทว่าวันนี้ทำงานจนเหนื่อย ไม่ว่าทานอะไรก็รู้สึกหอมหวนไปเสียหมด และแน่นอนว่าอาหารก็อร่อยมากโดยเฉพาะใบมันเทศสองสามจานนั้น อร่อยจนไม่อาจหยุดกินได้
“ข้าไม่รู้ว่าในจวนของเราจะมีหรือไม่” พี่น้องสตรีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น พวกนางต่างก็เป็นบุตรีที่ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติมั่งคั่งร่ำรวย ในวันธรรมดาสนใจอยู่แค่นั้น ไหนเลยจะมาสนใจว่ามีคนในจวนปลูกมันเทศหรือไม่?
เซียวจื่อเยว่ยิ้มหวานและกล่าวว่า “จวนสกุลเซียวปลูกอยู่เยอะ เต็มไปด้วยทุ่งผัก ประเดี๋ยวข้าจะให้คนรับใช้ไปเก็บมาให้เจ้าเอากลับบ้าน!”
“ข้าเกรงใจยิ่งนัก” พี่น้องสตรีกระแอมไอเบาๆ
“แค่ผักไม่กี่ใบ เจ้าก็ยังเกรงใจข้าหรือ?” เซียวจื่อเยว่เรียกหลิงจือและให้นางตามคนรับใช้ที่มีพละกำลังสองสามคน ไปเก็บใบมันเทศมาสองสามตะกร้า สำหรับพี่สะใภ้ พระชายาเฉิงอ๋อง และพี่น้องสตรีนำกลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]