อวี๋หวั่นรอชมการแสดงของเขาอย่างใจเย็น
เขาหยิบกระดิ่งทองแดงออกมาค่อยๆ โบก
นั่นคือกระดิ่งควบคุมหนอนพิษ ทุกครั้งที่หนอนพิษได้ยินเสียงกระดิ่ง มันจะอยู่ไม่สุขและเคลื่อนไหวตลอดเวลา ผู้ที่มีหนอนพิษอยู่ในร่างจะรู้สึกประหนึ่งถูกมดนับหมื่นกัดกินหัวใจ เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
แน่นอนว่าเขาเพียงแต่ต้องการจะสั่งสอนอีกฝ่ายก็เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาสังหารผู้ใด เพราะฉะนั้นเขาจึงสั่นกระดิ่งเบาๆ
แต่ถึงแม้จะสั่นกระดิ่งเบาๆ ก็นับว่าเพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดจนแดดิ้น
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตื่นตะลึงก็คือ อย่าว่าแต่แดดิ้นเลย หนังตาของอวี๋หวั่นไม่กระตุกด้วยซ้ำไป
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
เขาจ้องไปยังอวี๋หวั่นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็มองกระดิ่งในมือของตน แล้วเขย่ามันด้วยแรงที่มากขึ้น
กระนั้นไม่ว่าจะสั่นแรงถึงเพียงใด อวี๋หวั่นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแม้แต่น้อย
อวี๋หวั่นหาว “เขย่าพอแล้วหรือยัง? ถ้ายังไม่พอเจ้าก็เขย่าต่อไปแล้วกัน ข้าจะไปนอนรอบนรถม้า”
“เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…” ปรมาจารย์พิษทำตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ กระดิ่งของเขาถูกเขย่าจนอีกนิดเดียวคงหักแล้ว เหตุใดหนอนพิษไม่ทำอะไรเลยเล่า?
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ปรมาจารย์พิษสาวเท้าเข้าไปคว้าไหล่อวี๋หวั่นอย่างเกรงใจ
อวี๋หวั่นหันมาโดยสัญชาตญาณ คว้าคอแล้วตวัดเขาลงบนพื้น
เรื่องนี้จะโทษอวี๋หวั่นก็ไม่ได้ ใครให้เขาพุ่งมาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงกันเล่า?
ปรมาจารย์พิษร้องโอดโอยอย่างน่าสงสารมาจากทางเดิน
เจียงไห่ ชิงเหยียนและเยว่โกวตกใจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปรมาจารย์พิษใบหน้าเบี้ยวบูด แล้วร้องเสียงดังลั่น “จับเขาเอาไว้!”
จับใคร? อวี๋หวั่นหรือ? เจ้าสมองกลับไปแล้วกระมัง?
ทั้งสามคนไม่มีใครขยับ
ในตอนนั้นปรมาจารย์พิษจึงนึกขึ้นได้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นพวกเดียวกัน เจ้าเด็กคนนี้เป็นคนในครอบครัวของผู้คุ้มกันสินค้าของเขา คิดจะรวมหัวกันรังแกเขาใช่ไหมเล่า? ได้ เขาจะแสดงความเก่งกาจให้พวกเขาดูสักครา!
ปรมาจารย์พิษท่องมนต์ หยิบกระดิ่งออกมา แล้วกระโดดอยู่กับที่
หนอนพิษทั้งหมดเอ๋ย จงตื่นขึ้นบัดเดี๋ยวนี้!
ทั้งสามคนมองเขาด้วยความตะลึงงัน
เจียงไห่กระซิบว่า “เขาเป็นอะไร? ถูกคุณชายอวี๋ฟาดจนเสียสติไปแล้วรึ?”
ปรมาจารย์พิษ: เจ้าน่ะสิเสียสติ! พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเสียสติ!
เขากระโดดไปเรื่อยๆ กระโดดจนหน้าแดงตาเหลือก ชุยเฒ่าได้ยินเขาทำเสียงดัง เขาเดินมาพร้อมกับกัดเนื้อแพะ แล้วกล่าวอย่างหมดความอดทนว่า “ยังเช้าอยู่พวกเจ้าเอะอะโวยวายอะไรกัน! อยู่เงียบๆ ไม่ได้รึไง!”
ปรมาจารย์พิษกำลังเป็นบ้าจริงๆ แล้ว!
คนอายุน้อยเหล่านี้ทนต่อหนอนพิษของเขายังพอเข้าใจได้ ทว่าแม้แต่คนแก่ใกล้ลงโลงอย่างนี้ก็ไม่เป็นไรรึ?
“ชิ” ชุยเฒ่ากลอกตาแล้วเดินกลับห้องไป
พวกเจียงไห่ส่งสายตาเวทนาให้ปรมาจารย์พิษ จากนั้นก็แยกย้ายไปเก็บของ
ปรมาจารย์พิษมีสารถีคนหนึ่ง เป็นผู้ที่ติดตามเขามาตลอด เขาเข้ามาแล้วบอกว่า “ปรมาจารย์ขอรับ ต้องออกเดินทางแล้ว”
ปรมาจารย์พิษกัดฟัน บอกว่า “เจ้าบอกให้พวกเขารอ ข้าจะไปที่หนึ่งก่อน”
“ขอรับ”
ปรมาจารย์พิษเป็นผู้ว่าจ้าง เขาบอกให้รอ พวกเขาก็ต้องรอ เรื่องนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพวกเขาจะหนีไป อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่มีหนังสือผ่านทาง จะหนีไปไหนได้?
ปรมาจารย์พิษไปพบคนที่โรงเตี๊ยมอีกแห่งหนึ่ง คนผู้นั้นก็คือบุรุษที่ถูกตาต้องใจจื่อซูบนถนนนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]