หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 184

ไป๋หลี่เซียงนี้เห้อเหลียนเป่ยหมิงได้ยินมาบ้าง ยาพิษชนิดนี้เป็นยาพิษของซีเฉิง ชื่อของยาพิษนั้นตั้งตามกลิ่นซึ่งหอมเหมือนดอกไม้

เห้อเหลียนเป่ยหมิงมิได้ซักไซ้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาโดนยาพิษเพราะเหตุใด นั่นไม่ใช่เรื่องของเขา ถึงแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยอมรับเยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถมองอีกฝ่ายเป็นหลานชายได้ “เท่าที่ข้ารู้ พิษชนิดนี้ไม่มียาถอนพิษ ตัวยาทั้งหมดสี่ชนิด มีครึ่งหนึ่งที่หาไม่ได้แล้ว”

อวี๋หวั่นสีหน้าจริงจัง “หาไม่ได้ก็ต้องหา ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องรักษาสามีข้าให้หาย”

แม่นางน้อยคนนี้อายุยังไม่มาก แต่น้ำเสียงกลับเด็ดเดี่ยวมีพลังเหลือเกิน

นอกจากเหตุผลข้อนี้ที่เข้ามาในหนานจ้าว ก็ไม่มีเหตุผลที่ไม่อาจรับพวกเขาเอาไว้

เพียงแต่ว่า…

เห้อเหลียนเป่ยหมิงนึกถึงบางอย่าง นัยน์ตาของเขาก็พลันดูลึกล้ำ “จวนเยี่ยนอ๋อง…จวนเยี่ยนอ๋องที่เกี่ยวดองกับเซียวเจิ้นถิงน่ะหรือ?”

อวี๋หวั่นใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เรื่องที่ควรมาถึงก็มาแล้วสินะ เรื่องที่พวกเขาทำให้เห้อเหลียนฉีตาย สุดท้ายก็ไม่อาจปิดบังเขาได้

พวกเขาอาจปกปิดสาเหตุการตายของเห้อเหลียนฉีจากใต้หล้าได้ แต่ไม่อาจปกปิดเห้อเหลียนเป่ยหมิง ผู้ต้องสงสัยที่เดินทางกลับพร้อมกับคนกลุ่มนั้นได้ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาจัดการไปแล้ว โทษของเห้อเหลียนฉีไม่อาจชดใช้ด้วยความตาย ทว่าเขาเป็นขุนนางคนสำคัญของหนานจ้าว ย่อมต้องตายด้วยน้ำมือของผู้ปกครองหนานจ้าวจึงจะถูก

อวี๋หวั่นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้ายอมรับว่าการตายของเห้อเหลียนเป่ยหมิงนั้นเกี่ยวข้องกับจวนคุณชาย ทว่าเห้อเหลียนฉีทำอะไรไว้ ท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องย่อมต้องรู้มาบ้าง ข้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้ท่านรู้มามากน้อยเท่าไร เรื่องที่เขาใช้ชุดเกราะมาดูหมิ่นแม่ทัพใหญ่เซียวท่านต้องได้ยินมาแล้ว เช่นนั้นเรื่องที่เขาเกือบทำให้เพื่อนของข้ามีมลทินท่านคงยังไม่ได้ยินคนพูดถึงกระมัง? ที่เขาพร่ำบอกว่าจะชิงตัวฮูหยินเซียวไปทั้งคืนท่านก็คงไม่ได้ยินคนพูดถึงกระมัง? ดูหมิ่นมารดา มิอาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้ อย่าว่าแต่สังหารเขาเลย ป่นกระดูกเขาเสียก็ยังไม่สาสม! หากท่านจะลงโทษพวกข้าด้วยเหตุผลนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด!”

เห้อเหลียนเป่ยหมิงไร้บุตร เห้อเหลียนฉีเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขสกุลเห้อเหลียน แต่กลับมาตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจิ่วเฉา หากจะบอกว่าเห้อเหลียนเป่ยหมิงไม่มีความเคืองแค้นเลยก็เป็นไปไม่ได้ เขาพาคนที่มีความแค้นด้วยเข้าบ้าน ทั้งยังส่งไปอยู่ข้างกายมารดาของเขาอีก

หากรู้เช่นนี้แต่แรก เขาก็คงจะถามที่มาที่ไปของพวกเขา และไม่มีวันยอมให้พวกเขามีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้

“หลานชายคนเก่ง ให้เจ้ากิน!” ในลานบ้าน ฮูหยินปอกส้มแล้วส่งให้เยี่ยนจิ่วเฉา

หากถามไปตั้งแต่แรก ตอนนี้คงไม่ต้องมาทนเห็น ‘หลานชายคนเก่ง’ หรอก

เห้อเหลียนเป่ยหมิงพึมพำ “ท่านแม่ข้า ไม่เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อน”

อวี๋หวั่นยิ้มพลางมองไปยังเยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งถูกฮูหยินผู้เฒ่าจับมือจนขนลุก “นั่นสิ ฮูหยินผู้เฒ่ารักและเอ็นดูเยี่ยนจิ่วเฉามาก”

“เขาไม่ใช่เยี่ยนจิ่วเฉา” เห้อเหลียนเป่ยหมิงกล่าว

“หืม?” อวี๋หวั่นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

เห้อเหลียนเป่ยหมิงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ตั้งแต่วันนี้ เขาจะไม่ใช่ซื่อจื่อแห่งเมืองเยี่ยน เจ้าก็จะไม่ใช่พระชายา พวกเจ้ามาจากชิงเหอ เจ้าชื่อเยี่ยนหวั่น เขาชื่อเจียงเฉา บัดนี้…ชื่อว่าเห้อเหลียนเฉา”

แม้แต่ชื่อแซ่ก็คิดมาให้แล้ว จะไม่ปล่อยพวกเขากลับไปหรืออย่างไร

อวี๋หวั่นลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ขณะเดียวกันในใจก็อดสงสัยไม่ได้ “จะไม่มีใครสงสัยว่าเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นตัวปลอมหรือ? ข้าหมายความว่า ศพของน้องชายท่านถูกฝังไปแล้ว แล้วเขาแสร้งเป็นหลานของท่านได้อย่างไร?”

เห้อเหลียนเป่ยหมิงมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่าซึ่งกำลังยิ้มจนตาหยีแล้วกล่าวว่า “เรื่องที่ข้าฝังศพน้องชายกับมือ มีแค่ข้ากับท่านพ่อที่รู้ เพื่อที่จะไม่ให้ท่านแม่ผิดสังเกต จึงประกาศออกไปว่าไม่พบศพ มีคนคิดว่าน้องชายข้าตายไปแล้ว มีคนเชื่อว่าน้องชายข้าหายสาบสูญไป บวกกับหลายปีมานี้ข้าให้คนมาแต่งตัวเป็นญาติจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการปรากฏตัวของพวกเจ้าไม่นับว่าน่าแปลกใจแต่อย่างใด”

เมื่อเป็นเช่นนี้อวี๋หวั่นก็วางใจ เมื่อมีสถานะของคนสกุลเห้อเหลียนอยู่ ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัยว่าพวกเขามาหายา

แน่นอนว่า เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้มิได้ง่ายเพียงแค่การมาหายาเท่านั้น แต่มาเพื่อสืบเรื่องของพระสวามีตี้จีองค์เล็กด้วย

ฮูหยินเป็นคนชิงเหอ นายท่านรองเติบโตที่ชิงเหอ แต่งงานเมื่อยี่สิบปีก่อนและมีบุุตรชายคนหนึ่ง ชื่อว่าเจียงเฉา เจียงเฉาเป็นลูกคนเดียว ไม่กี่ปีก่อนทั้งคู่ล้มป่วยและจากโลกนี้ไปก่อน

หากไม่ใช่เพราะเห้อเหลียนเป่ยหมิงไปซีเฉิง บังเอิญพบกับนายพราน และได้ยินเขาพูดในโรงน้ำชาว่าในปีนั้นเก็บเด็กได้จากหุบเขา เห้อเหลียนเป่ยหมิงคงจะหมดโอกาสพบกับหลานชายของตนเสียแล้ว

ส่วนเหตุผลที่ต้องบอกว่านายท่านรองและภรรยาเสียไปแล้ว ก็เพราะเมื่อมีหลานชายที่ตามหายากจนเลือดตาแทบกระเด็นโผล่มา จะไปหานายท่านรองมาได้จากที่ใดเล่า? ถ้าหากฮูหยินผู้เฒ่าเกิดไม่ยอมรับนายท่านรองตัวปลอมมา แล้วเยี่ยนจิ่วเฉาโดนหางเลขว่าเป็นตัวปลอมไปด้วย ความพยายามของพวกเขาก็จะพังลง

จวนเห้อเหลียนแบ่งเป็นจวนฝั่งตะวันออกและจวนฝั่งตะวันตก จวนตะวันออกเป็นห้องของนายท่านใหญ่ นายท่านใหญ่ล่วงลับไปแล้ว ก็มีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าและเห้อเหลียนเป่ยหมิงที่อาศัยอยู่ ส่วนจวนฝั่งตะวันตกเป็นห้องของนายท่านใหญ่รอง นายท่านใหญ่ทั้งสองเป็นพี่น้องแท้ๆ หลังจากแต่งงานไปแล้วแม้จะปลูกจวนแยกฝั่งกันไป แต่ก็ยังใกล้กัน เมื่อคิดดูแล้วก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน

จวนตะวันตกเป็นของเห้อเหลียนฉี

พวกเขาได้รับการจัดให้พักอยู่ในซีสยาย่วนซึ่งเป็นเรือนที่ใกล้ฮูหยินผู้เฒ่ามากที่สุด เรือนนี้สร้างไว้สำหรับนายท่านรอง หลายปีมานี้ได้แต่รอเจ้านายของมัน ถึงแม้จะเป็นตัวปลอมก็ตาม

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ยอมห่างจากเยี่ยนจิ่วเฉา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้เขาอยู่ข้างกาย ข้าวของของเยี่ยนจิ่วเฉาล้วนแต่ถูกย้ายไปไว้ในเขตเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว

ชุยเฒ่าซึ่งเป็นหมอประจำตัวของเขาก็จำต้องย้ายข้าวของไปพร้อมกัน

อวี๋หวั่นอยู่ในซีสยาย่วน คนในซีสยาย่วนก็เป็นคนของตน จะทำอะไรก็สะดวกกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]