หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 197

โอกาสในมือของเธอได้หลุดลอยง่ายดายไปราวกับเป็ดต้มสุกบินหนีออกจากหม้อ

อวี๋หวั่นเดินออกมาจากห้องของต่งเซียนเอ๋อร์

องค์หญิงน้อยแค่นเสียง ‘หึ’ ขึ้นจมูกอย่างพึงพอใจ

แม่นางต่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เจ้าก็ออกไปด้วย”

องค์หญิงน้อยชะงักไป

ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็ถูกต่งเซียนเอ๋อร์ผลักออกไปทันที

ประตูห้องปิดลงดัง ‘ปัง’

“เจ้า…ฮึ่ย! ” องค์หญิงน้อยกระทืบเท้า แต่ว่านางรู้สึกขุ่นเคืองอยู่ได้ไม่นานก็เบนความสนใจไปยังอวี๋หวั่น นางเดินตามอวี๋หวั่นไป ยักคิ้วพลางพูดว่า “ที่แท้เจ้าก็มาที่นี่เพราะต้องการเห็ดหลินจือ เป็นอย่างไรเล่า? ทุ่มเทไปเท่าไรจนได้เป็นแขกของแม่นางต่ง สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวใช่ไหมเล่า?”

อวี๋หวั่นจึงตอบไปว่า “เจ้าคงลืมไปว่าลูกกลมแพรปักนี้ตกลงมาในมือข้า ข้าทุ่มเทอะไรไปหรือ? ทุ่มเทแรงในการปฏิเสธเจ้า?”

องค์หญิงน้อยพูดไม่ออกอีกครั้ง

คนอื่นไม่รู้แต่ว่านางจะไม่รู้เชียวหรือ? ลูกกลมแพรปักนี้องครักษ์ของนางไปแย่งมาแทบตาย สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์ แต่กลับไปอยู่ในมือของสตรีผู้นี้

แต่ก็ทำให้แม่นางผู้นี้มีโทสะได้มากทีเดียว!

องค์หญิงน้อยจ้องอวี๋หวั่น “เจ้าอย่าโอหังให้มาก! ไม่ช้าก็เร็วเห็ดหลินจือแดงต้องเป็นของข้า! เจ้าคิดจะเอาไปก็คงไม่ได้!”

อวี๋หวั่นไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด “อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับเจ้าด้วยก็แล้วกัน”

มะ…โมโหกว่าเดิมแล้ว!

คนผู้นี้แม้แต่ต่อปากต่อคำยังไม่สนใจเลยหรือ? องค์หญิงน้อยรู้สึกราวกับแต่ละหมัดของตนนั้นล้วนต่อยลงบนสำลี นางกำลังจะโกรธสุดขีดแล้ว!

เมื่ออวี๋หวั่นเห็นว่านางกำลังเดือดดาล ตนเองก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา

อวี๋หวั่นเดินลงไปชั้นล่างโดยไม่หันหลังกลับมา

การต่อสู้ของเจียงไห่และคนอื่นๆ ได้จบลงนานแล้ว พวกเขานั่งรออยู่ที่เดิม แม้ว่าจะไม่มีต่งเซียนเอ๋อร์ แต่หอตี้อีก็มิได้ขาดแคลนคนงาม บนเวทียังมีการแสดงดนตรีดูน่าตื่นตาตื่นใจ เจียงไห่ ชิงเหยียน และเยว่โกวชมการแสดงตาไม่กะพริบ เยี่ยนจิ่วเฉากลับรู้สึกเบื่อจนผล็อยหลับไปบนเก้าอี้

อวี๋หวั่น: เด็กน้อยที่ชอบเพียงการต่อสู้และหอมหัวลูกแมว…

อวี๋หวั่นอุ้มเยี่ยนจิ่วเฉาขึ้นมา

“ข้าเอง” เจียงไห่บอก

“ไม่เป็นไร สามีข้า ข้าอุ้มเองได้” พูดจบ อวี๋หวั่นก็อุ้มเยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งกำลังหลับสนิทขึ้นรถม้าไปท่ามกลางสายตาตกตะลึง

เจียงไห่และคนอื่นๆ ก็ออกมาจากหอตี้อีเช่นกัน

ส่วนเรื่องเด็กนั่นที่จำนางได้ อวี๋หวั่นก็ยังคงนึกสงสัยอยู่ว่าตัวเธอเองนอกจากจะตัวไม่ใหญ่แล้ว ก็ไม่มีส่วนใดที่

ปลอมออกมาไม่เหมือนผู้ชายอีก อีกอย่างส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซ็นติเมตรก็ไม่นับว่าเตี้ย หรือว่านางปีนกำแพงข้ามมาเห็นเธอกำลังพันหน้าอกอยู่ในห้องเก็บฟืนกัน?

“ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ” ขณะที่อวี๋หวั่นกำลังคิดไม่ตก เธอก็เปิดม่านออกและเห็นเห้อเหลียนอวี่กำลังพยุงน้องชายซึ่งตกบันไดจนมึนงงออกมาด้านนอก อวี๋หวั่นนัยน์ตากระตุกวูบหนึ่ง แล้วเดินลงจากรถม้า

“โอ๊ย!”

ในตรอกแคบและมืดสนิท เห้อเหลียนอวี่และเห้อเหลียนเฉิงถูกเยว่โกวและชิงเหยียนโยนลงบนพื้นเย็นเฉียบอย่างไม่เกรงใจ

“เจ้าเป็นใครกัน? กล้าลงไม้ลงมือกับพวกเรารึ?” เห้อเหลียนเฉิงพูดด้วยความเดือดดาล

อวี๋หวั่นเดินออกมาจากด้านหลังทั้งสอง เธอมองลงต่ำไปยังสองพี่น้อง “คนที่เริ่มก่อนก็คือพวกเจ้า เป็นอย่างไรเล่า?”

สายตาของทั้งสองไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของอวี๋หวั่น จากนั้นร่างของพวกเขาก็แข็งทื่อ น้ำเสียงของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที “เป็นเจ้า?”

“ข้าเอง” อวี๋หวั่นตอบ

ทั้งสองกระวีกระวาดลุกขึ้นมา แล้วมองไปยังอวี๋หวั่นอย่างโกรธเคืองและหวาดกลัว

เมื่อครู่เห้อเหลียนเฉิงถูกอวี๋หวั่นจัดการไปแล้วครั้งหนึ่ง ในตอนนี้เมื่อเห็นอวี๋หวั่น ขาก็เริ่มสั่น กลับเป็นเห้อเหลียนอวี่ที่เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าจะทำอะไร?”

อวี๋หวั่นถามว่า “จดจำข้าได้เกี่ยวอะไรกับคนอื่น พวกเจ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร?”

เห้อเหลียนอวี่นัยน์ตากระตุกวูบหนึ่ง “เปล่า”

เยว่โกวต่อยเขาหนึ่งหมัด!

เห้อเหลียนอวี่กลัวจนยกมือขึ้นกุมศีรษะ “ข้าพูดแล้ว! ข้าบอกเรื่องนี้กับองค์หญิงน้อย!”

“พี่รอง!” เห้อเหลียนเฉิงหน้าเปลี่ยนสีทันที

เห้อเหลียนอวี่รู้ดีว่าตนไม่ควรพูด หากท่านลุงใหญ่รู้ว่าพวกเขามาเที่ยวหอคณิกา เขาคงไม่ได้มาสืบสาวเอาความ แต่การมาเที่ยวหอคณิกาพร้อมกับองค์หญิงน้อยนั้นนับว่ามีโทษเพิ่มอีกสถาน แต่เขากลัวนี่นา หมัดของเจ้านั่นเมื่อครู่มีจิตสังหารแฝงอยู่ด้วย มีครู่หนึ่งเขารู้สึกคล้ายกับกระโหลกของเขาจะระเบิดด้วยซ้ำ

เขาเดาได้ถูกต้อง เยว่โกวคิดจะทำอย่างนั้นจริง

“องค์หญิงน้อยไหน?” อวี๋หวั่นถาม

“องค์หญิงน้อยจวนประมุขหญิง” เห้อเหลียนอวี่ตอบ

ในตอนนั้นเอง กลับเป็นอวี๋หวั่นที่ตกใจ อยู่ๆ ก็เข้าไปพบกับศัตรูของเธอกับเยี่ยนจิ่วเฉาในหอคณิกา ราชบุตรเขยอาจเป็นเยี่ยนอ๋อง ก็อาจเป็นไปได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นน้องสาวของเยี่ยนจิ่วเฉา แต่โบราณมาลูกจากภรรยาเอกและลูกจากอนุมักจะไม่ถูกกัน ถ้าไม่เรียกว่าศัตรูกันแล้วจะให้เรียกว่าอะไร?

แน่นอนว่าถ้าหากราชบุตรเขยไม่ใช่เยี่ยนอ๋อง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เดี๋ยวนะ ราชบุตรเขย? เยี่ยนอ๋อง?

ในเมื่อเด็กคนนั้นเป็นลูกสาวของเยี่ยนอ๋อง งั้นผู้ชายที่มาส่งนางที่หอตี้อีกก็ต้องเป็นราชบุตรเขยสินะ?

‘ดึกสุดยามไฮ่ พ่อจะมารับเจ้า’

เสียงของผู้ชายคนนี้ดังขึ้นในสมองของอวี๋หวั่น เธอหันไปถามชิงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ “ตอนนี้ยามอะไรแล้ว?”

ชิงเหยียนตอบว่า “ใกล้ยามไฮ่แล้ว”

งั้นก็ยังไม่ถึงยามไฮ่…อวี๋หวั่นปล่อยสองพี่น้องสกุลเห้อเหลียน แล้วเดินจ้ำกลับไปยังหอตี้อี

“นี่! อาหวั่น! เจ้าจะไปไหน?” ชิงเหยียนไม่ได้เรียกให้เธอหยุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]