หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 207

หญิงรับใช้ตกใจตัวสั่น!

กลางวันแสกๆ ท่านก็ยังกล้าขโมยเด็ก? นี่ อาการโรคประสาทของท่านกำเริบอีกแล้วใช่หรือไม่?

อาการโรคประสาทที่หญิงรับใช้คิดในใจหาได้เป็นการดูถูกเหยียดหยามฮูหยินผู้เฒ่า ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ามีอาการป่วยทางประสาทจริงๆ และมักมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง แต่อาการของฮูหยินผู้เฒ่าก็ค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากคุณชายใหญ่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นปกติมากกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ไหนเลยหญิงรับใช้จะคาดคิดว่าหลังจากไปเยี่ยมเยียนฮูหยินรองกลับมา อาการประสาทของฮูหยินผู้เฒ่าจะกำเริบอีกครั้ง?

ต้องถูกฮูหยินรองทำให้โกรธเป็นแน่

ปากของฮูหยินรอง จับผู้ใดก็บอกผู้นั้น แล้วยังบอกว่าที่ตนเกิดอุบัติเหตุเพราะคุณชายใหญ่กับภรรยาคุณชายใหญ่ จะเป็นไปได้อย่างไร!

เมื่อหญิงรับใช้หาเหตุผลอันสมควรที่จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเกิดอาการโรคประสาทกำเริบได้ ก็รู้สึกปล่อยวางได้มากขึ้น หญิงรับใช้อยู่ปรนิบัติดูแลฮูหยินผู้เฒ่าได้สองสามปีแล้ว รู้ดีว่าในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ไม่อาจขัดใจฮูหยินผู้เฒ่า เพราะมิได้เป็นผลดีต่ออาการป่วยของนาง ทำได้เพียงตามใจนางไปก่อน แล้วค่อยใช้เวลาหารือกันภายหลัง

หญิงรับใช้เรียกคนเฝ้าประตูมาสองคน นางกับผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งอุ้มเด็กที่เหลืออีกสองคนขึ้นจากพื้น ส่วนผู้เฝ้าประตูอีกคนหมายจะไปรับเด็กจากฮูหยินผู้เฒ่า ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ากลับไม่ยอมปล่อย

“ข้าอุ้มได้!” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว

หญิงรับใช้ หากแน่จริงแขนท่านก็อย่าสั่นสิ!

แขนของฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกเจ็บปวดเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด แต่นางก็ไม่อาจฝืนใจปล่อยเด็กไปจากอ้อมแขนได้ ในที่สุดหลังจากใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่อุ้มเด็กเดินไปจนสุดทาง ก็ยอมปล่อยไข่ดำให้กับผู้เฝ้าประตู

และเมื่อแยกจากไข่ดำที่นางอุ้มมา ก็เดินห่างไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น…

คนรับใช้ของจวนล้วนมีความสามารถ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อหญิงรับใช้กับผู้เฝ้าประตูอุ้มเด็กทั้งสามไปถึงห้องของฮูหยินผู้เฒ่าก็ถึงกับเหนื่อยหอบแฮ่กๆ ราวกับสุนัข

นี่มันกลุ่มลูกตุ้มตาชั่งหรืออย่างไร? ไยถึงหนักได้เพียงนี้!

ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหญิงรับใช้มาเปลี่ยนที่นอนกับผ้าปูที่นอนใหม่ จากนั้นจึงให้หญิงรับใช้กับคนอื่นๆ พาเด็กๆ วางลงบนเตียงหลัวฮั่น[1]ของนาง

หญิงรับใช้มีท่าทีลังเล “นี่คงไม่ดีเท่าใดกระมัง…”

ฮูหยินผู้เฒ่าถลึงตาใส่นาง “เตียงของข้ามิได้สกปรกแล้ว!”

หญิงรับใช้มุมปากกระตุก ข้าหมายถึงเด็กสามคนที่นั่งหลับบนพื้นมาก่อนหน้านี้สกปรกต่างหาก…

ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้สนใจ บอกให้พวกนางวางเหลนตัวน้อยลงบนเตียงหลัวฮั่นที่สะอาดเอี่ยมอ่อง ใช่แล้ว พวกเขาเป็นเหลนของนางแล้ว ไม่ต้องหารือให้มากความ!

อาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าในครานี้ไม่เบานัก หญิงรับใช้ถือโอกาสที่ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังหลงใหลเคลิบเคลิ้มกับไข่ดำทั้งสาม รีบไปรายงานแก่เห้อเหลียนเป่ยหมิง

เห้อเหลียนเป่ยหมิงรีบรุดดันเก้าอี้รถเข็นของเขาเข้ามาในห้องด้วยตนเอง และเห็นมารดาของเขากำลังนั่งหัวเราะแหยๆ อยู่ที่หัวเตียง เมื่อมองตามสายตาของนางก็พบกับเด็กสามคนที่นอนแผ่กายอยู่บนเตียงหลัวฮั่น

ดำขนาดนั้นเลย!

เขารู้สึกว่าอีกนิดเดียวตนเองก็จะลุกขึ้นยืนแล้ว!

เขารวบรวมสติกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านแม่ ข้ามาแล้ว”

“อื้ม” ฮูหยินผู้เฒ่าส่งเสียงตอบรับ ทว่าสายตากลับไม่แลเขาแม้แต่น้อย

เห้อเหลียนเป่ยหมิง “….” นี่ข้ายังเป็นบุตรแท้ๆ อยู่หรือไม่?

ฮูหยินผู้เฒ่าลูบมือน้อยๆ ของพวกเขาสักพัก จากนั้นก็บีบเท้าน้อยๆ ของพวกเขาครู่หนึ่ง นางโปรดปรานจนแทบอยากจะโน้มไปด้านหน้าเพื่อหอมพวกเขา

เห้อเหลียนเป่ยหมิงดันเก้าอี้รถเข็นไปหน้าเตียง และเอ่ยด้วยความปวดหัว “ท่านแม่ พวกเขาเป็นใคร?”

ฮูหยินผู้เฒ่าทำมือส่งสัญญาณให้เขาเงียบลง และกดเสียงต่ำเอ่ยตอบ “เหลนชายของข้าไงละ!”

เห้อเหลียนเป่ยหมิงอ้าปากหมายจะเอ่ยเสียงดัง ทว่ากลับถูกสายตาเชือดเฉือนจากมารดามองกลับมา จนเกือบจะด่วนชิงตายเสียก่อน จำต้องเอ่ยอย่างแผ่วเบา “เหตุใดข้าจำไม่ได้ว่าท่านมีเหลน? นี่ท่านคงไปพบและพามาจากข้างถนนกระมัง?”

ฮูหยินผู้เฒ่าเกิดประกายในดวงตา “เหลว เหลวไหล! ผู้ใดพบ? เจ้าดูสิพวกเขาหน้าตาเหมือนกับหนิวตั้นตอนเด็กๆ ไม่มีผิด…”

เห้อเหลียนเป่ยหมิงเอ่ยอย่างใจเย็น “ท่านแต่งงานตอนอายุสิบห้า ไม่มีทางเห็นว่าท่านพ่อของข้าตอนเด็กๆ หน้าตาเป็นอย่างไร”

“…” ฮูหยินผู้เฒ่าชะงัก

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใช่ จะเป็นเรื่องเล็กก็ไม่เชิง หากฮูหยินผู้เฒ่าโปรดปรานพวกเขาจริงๆ เห้อเหลียนเป่ยหมิงก็สามารถไปติดต่อเจรจากับครอบครัวของอีกฝ่ายได้ แต่ว่ากันว่าเด็กพวกนี้มานั่งหลับอยู่ที่ประตูด้านหลังจวนของพวกเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ช่างเป็นเรื่องที่น่าคิดยิ่งนัก

พวกเขาพลัดหลงกับครอบครัว หรือจงใจเอาเด็กมาไว้ในที่ที่ฮูหยินผู้เฒ่าเดินผ่านเพื่อดึงดูดความสนใจ?

ฮูหยินผู้เฒ่าอายุมากแล้ว ทั้งยังเป็นโรคประสาท ยากที่จะรับประกันได้ว่าไม่มีผู้ใดเดิมพันกับอาการประสาทของนาง เดิมพันว่านางจะถูกเด็กๆ พวกนี้ดึงดูดหรือไม่

หลังจากคิดได้เช่นนี้ เห้อเหลียนเป่ยหมิงก็ราวกับตัดสินใจบางอย่างได้ เด็กพวกนี้ไม่อาจอยู่ได้ พบที่ใดก็เอาไปคืนไว้ที่นั่น

“ข้าไม่เห็นด้วย!” ฮูหยินผู้เฒ่าใช้ร่างกายปกป้องไข่ดำทั้งสาม ไม่ให้ผู้ใดนำพวกเขาไป

เห้อเหลียนเป่ยหมิงเอ่ย “พวกเขาผิวดำเช่นนี้ หาได้ดูดีแม้แต่น้อย”

ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยโดยไม่ลังเล “ก็ดูดีกว่าตอนที่เจ้ายังเด็กแล้วกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]