เดิมทีอู๋ซันก็ไม่คิดจะนำข่าวร้ายมาบอกคนสกุลอวี๋เช่นนี้ ทว่าเมื่อคิดไปคิดมา อวี๋เฒ่าไม่กลับบ้านสักที คนสกุลอวี๋ย่อมต้องเข้าไปถามในเมืองหลวง อย่างไรก็ต้องได้ยินมาจากคนอื่น ไม่สู้เขาเล่ารายละเอียดให้พวกเขาฟังเองจะดีกว่า
ลุงใหญ่ ป้าสะใภ้ใหญ่ อวี๋เฟิงและอวี๋ซง ต่างเข้ามานั่งในบ้านของอวี๋หวั่น เถี่ยตั้นน้อยพาน้องสาวออกไปเล่น นางเจียงและอวี๋หวั่นนั่งฝั่งตรงข้ามของอู๋ซัน
ไม่รู้ว่าอู๋ซันคิดไปเองหรืออย่างไร เขารู้สึกว่าในดวงตาของพี่สะใภ้มีแรงอาฆาตคุกรุ่นอยู่
เขาต้องคิดมากไปเองเป็นแน่ พี่สะใภ้เป็นสตรีอรชรอ้อนแอ้น เมื่อได้ยินข่าวร้าย ไม่มีทางคิดฆ่าคนอย่างแน่นอน!
“ท่านลุงอู๋ ขอคุยด้วยหน่อยได้หรือไม่” อวี๋หวั่นไม่อยากให้พูดเรื่องน่าปวดใจเช่นนี้ต่อหน้าท่านแม่ พ่อแม่ของเธอรักกันขนาดนี้ ท่านพ่อถูกจับเข้าคุก ท่านแม่ย่อมต้องเป็นทุกข์มากกว่าใคร
อู๋ซันเข้าใจดี จึงเดินตามอวี๋หวั่นออกไปข้างบ่อปลา
“สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพ่อข้าหรือ?” เมื่อไร้ผู้คน อวี๋หวั่นจึงเอ่ยปากถามขึ้น
อู๋ซันถอนหายใจยาว “เดิมทีวันนี้อวี๋เฒ่า…ต้องเข้าวังไปรับปูนบำเหน็จ เขาสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ ฝ่าบาททรงเรียกพบ”
อวี๋หวั่นตกใจ “ท่านพ่อสร้างความดีความชอบรึ?”
อวี๋เซ่าชิงแทบไม่ได้พูดถึงการรบ ไม่ได้พูดถึงสงครามในซีเป่ย ทว่าเหล่าชายหนุ่มที่เพิ่งกลับบ้านมากลับเล่าเรื่องราวเอาไว้ไม่น้อย กระนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ก็คืออวี๋เซ่าชิงจากหมู่บ้านของพวกเขา
“พ่อเจ้าไม่ได้เล่าให้เจ้าฟังหรอกหรือ? เขาสร้างความดีความชอบครั้งสำคัญเชียวนา! พ่อเจ้าเป็นถึงหัวหน้ากองพันของทัพใหญ่ซีเป่ย…” อู๋ซันเล่าเรื่องการบุกโจมตีของทหารซยงหนูอย่างคร่าวให้อวี๋หวั่นฟัง “…สองพันคน เหลือรอดมาไม่ถึงหนึ่งร้อยคน หลังจากเข้าไปในภูเขาหิมะ พวกเราก็ซ่อนตัวอย่างดี พี่น้องจำนวนไม่น้อยถูกศรธนูของซยงหนูยิงตาย คืนหนึ่งต้าหนิวก็เจอกับแม่ทัพเซียวที่บาดเจ็บหนัก…”
กล่าวถึงตรงนี้ อู๋ซันก็หยุดไปครู่หนึ่ง “ต้าหนิวเป็นทหารที่ดี เขาสละชีวิตไปแล้ว”
นัยน์ตาของอวี๋หวั่นสั่นเล็กน้อย
อู๋ซันพยายามอดกลั้นความเศร้าสลด แล้วพูดต่อ “อวี๋เฒ่าให้ต้าหนิวไปช่วยแม่ทัพเซียวกลับมา แม่ทัพเซียวรู้ดีว่าไม่อาจกลับมาได้ จึงมอบยาทั้งหมดให้กับเหล่าพี่น้องทหาร ข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกเขา ไม่ได้อยู่ฟังว่าแม่ทัพเซียวพูดอะไรกับอวี๋เฒ่า แต่วันถัดมาอวี๋เฒ่าก็เริ่มพาพี่น้องทหารข้ามเขา อวี๋เฒ่าบอกว่าพวกเราต้องไปให้ถึงโยวโจว ข้าก็นึกว่าอวี๋เฒ่าจะพาพวกเราไปพึ่งพาแม่ทัพที่โยวโจว เมื่อเห็นว่าเขาส่งของบางอย่างให้แม่ทัพผางเหริน ถึงได้เดาออกว่าน่าจะเป็นของที่แม่ทัพเซียวส่งให้เขา หลังจากนั้นไม่นาน แม่ทัพใหญ่เซียวก็แพร่ข่าวลวงออกไป หลอกล่อทัพซยงหนูให้เข้ามาในโยวโจว แล้วพวกนั้นก็เป็นลูกไก่ในกำมือ เมื่อชนะสงคราม เรื่องที่อวี๋เฒ่าส่งรายชื่อสายลับก็กระจายออกไปเรื่อยๆ”
เขาลูกนั้น ได้รับขนานนามว่า ‘หุบเขามรณะ’ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีผู้รอดชีวิตออกมา แต่อวี๋เฒ่า…อวี๋เฒ่าพาพวกเรากลับมาได้”
คนที่เขาช่วยออกมามิได้มีเพียงประชาชนชาวโยวโจวนับแสนคน แต่ยังช่วยชีวิตเหล่าทหารของทัพซีเป่ยด้วย
อวี๋หวั่นรู้แต่แรกแล้วว่าพ่อของเธอเป็นวีรบุรุษ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นวีรบุรุษที่เก่งกาจขนาดนี้ อดทนในสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจทน ทำในสิ่งที่ผู้อื่นไม่อาจทำ เขาเป็นวีรบุรุษที่โดดเด่นท่ามกลางเหล่าวีรบุรุษ เพียงแต่ว่าวีรบุรุษประเภทนี้ มักจะไม่เย่อหยิ่งและโอ้อวด เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เป็นเพียงสามีที่รักภรรยา เป็นบิดาที่รักบุตร…
“เช่นนั้นเรื่องหลอกลวงเบื้องสูงมาได้อย่างไรกัน?” ไม่ได้ให้รายชื่อปลอมจนแพ้สงครามสักหน่อย
อู๋ซันตอบว่า “แม่ทัพกุยเต๋อหลางไร้ยางอาย กราบทูลฝ่าบาทว่าอวี๋เฒ่าขโมยรายชื่อนั่นไปจากตัวเองน่ะสิ!”
“แล้วฝ่าบาทก็เชื่อรึ?” หลอกง่ายไปหน่อยไหมนั่น?
อู๋ซันพูดอย่างหัวเสียว่า “หลานสาว เจ้าไม่รู้อะไร แม่ทัพกุยเต๋อหลางนั้นมีเบื้องหลัง ฝ่าบาทให้ความสำคัญมากเสียด้วย”
“ไม่มีพยานบุคคลหรือ?” อวี๋หวั่นถาม
อู๋ซันตอบว่า “ทหารที่อารักขาแม่ทัพเซียวในตอนนั้นตายหมด เหลือเด็กแซ่โจวเพียงคนเดียวที่สามารถยืนยันได้ว่าแม่ทัพเซียวไม่ได้พบกับแม่ทัพกุยเต๋อหลาง แต่เจ้าเด็กแซ่โจวนั่นหนีไปแล้ว! หนีไปไหนก็ไม่รู้!”
โจวไหวเป็นขอทานที่แม่ทัพเซียวเก็บมา เรียกได้ว่าเขาแทบขายชีวิตให้แม่ทัพเซียวไปแล้ว หลังจากที่มาถึงโยวโจว โจวไหวก็หายตัวไป หนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว จะไปตามหาเขาได้ที่ไหนกัน? กว่าจะหาพบ อวี๋เฒ่าก็คงถูกตัดหัวไปแล้ว
“ถูกตัดหัวด้วยหรือ?” อวี๋หวั่นนัยน์ตาสั่นระริก
อู๋ซันถอนหายใจยาวๆ เฮือกหนึ่ง “โทษหลอกลวงเบื้องสูงเชียวนะเจ้าหลานสาว! ไม่ถูกประหารเก้าชั่วโคตรก็ดีเท่าไรแล้ว! เมื่อใดที่พวกเขาจับอวี๋เฒ่าเข้าคุกหลวง เมื่อนั้นเกรงว่าอวี๋เฒ่าก็คงหนีความตายไม่พ้น แต่ข้าคิดว่าเขาไม่มีทาง ‘ยอมรับ’ ได้ง่ายเพียงนั้น เขาเป็นคนเด็ดเดี่ยว”
ไม่ยอมรับได้ง่าย มิได้หมายความว่าจะไม่ต้องรับโทษ พ่อของเธอถูกคนใส่ร้ายจนต้องเข้าคุก เข้าไปก็คงต้องเจอกับเคราะห์ร้ายอีก คนพวกนั้นต้องสรรหาวิธีมาบังคับให้พ่อของเธอสารภาพผิดอย่างแน่นอน
แค่คิดว่าพ่อของเธออาจถูกทรมานในคุก อวี๋หวั่นกำมือแน่น “ท่านพ่อข้าเป็นคนอย่างไร คนอื่นไม่รู้ คนที่คลุกคลีกับท่านพ่อข้าอย่างแม่ทัพใหญ่เซียวจะไม่รู้เชียวหรือ? เขาไม่ได้ช่วยพ่อข้าแก้ต่างหรือ?”
อู๋ซันส่ายหน้า “แม่ทัพใหญ่ไม่ได้พูดอะไรก็เพื่อพ่อเจ้าเอง”
“อย่างไร?” อวี๋หวั่นถามด้วยความไม่เข้าใจ
บังเอิญว่าชุ่ยฮวาเดินถือกะละมังซักผ้าผ่านมาพอดี
“อาหวั่น!” ชุ่ยฮวายิ้มพลางกล่าวทักทาย พี่ใหญ่ของสามีนางกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งครอบครัวล้วนปีติยินดี
อวี๋หวั่นยิ้มพร้อมพยักหน้า “พี่ชุ่ยฮวา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]