หลังจากที่คนชุดดำได้รับคำสั่ง ก็รุดไปยังจวนตะวันออกทันที
การอารักขาของจวนตะวันออกแบ่งเป็นสองระดับ ด้านนอกเป็นการป้องกันระดับแรก และนั่นทำให้สกุลเห้อเหลียนได้ชื่อว่าเป็นกำแพงเหล็กกล้าที่ไม่อาจทะลวงได้ เมื่อเทียบกันแล้ว การป้องกันด้านในจะแกร่งน้อยกว่าอยู่บ้าง อย่างไรเสียผู้ที่อาศัยอยู่ด้านในก็เป็นเจ้าของบ้าน ไม่ใช่นักโทษ หากใช้การอารักขาระดับสูงสุด จะเข้าห้องน้ำหรือมีช่วงเวลาส่วนตัวก็ล้วนแต่ถูกหน่วยกล้าตายจับตามอง คงไม่มีผู้ใดยินดีนัก
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการอารักขาด้านในนั้นหละหลวม
คนชุดดำอยู่ในสังกัดเดียวกับหน่วยกล้าตาย เขาเคยเข้าออกจวนตะวันออกพร้อมกับนายท่านรองใหญ่อย่างเปิดเผยนับครั้งไม่ถ้วน จึงคลำทางไปได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่คิดว่าหลังจากที่โจมตีผู้มีวรยุทธ์แล้วจะล่าถอยไปง่ายๆ
โชคดีที่ภรรยาของเห้อเหลียนเป่ยอวี้ร่างกายอ่อนแอ
คนชุดดำสืบรู้มาแล้วว่าภรรยาของเห้อเหลียนเป่ยอวี้ย้ายเข้ามาอยู่ในสวนอูถง เดิมทีทั้งสองจะพำนักอยู่ในชีสยาย่วน แต่ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ยอม เดิมทีชีสยาย่วนสร้างไว้ให้เห้อเหลียนเป่ยอวี้ก็จริง แต่ตอนนี้ครอบครัวของอาเว่ยอาศัยอยู่ จะให้ลูกชายและลูกสะใภ้เข้าไปอยู่รวมกันก็กระไรอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่าให้คนหาเรือนและซ่อมแซมใหม่ ระหว่างนี้อวี๋เซ่าชิงและนางเจียงต้องพักอยู่ในสวนอูถงไปก่อน
คนชุดดำไม่คุ้นเคยกับสวนอูถง
อย่างไรเสียก็เป็นเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า หน่วยกล้าตายไหนเลยจะกล้ามาจับตามองฮูหยินผู้เฒ่า?
คนชุดดำลอบเข้าไปในสวนอูถง มายังระเบียงทางเดิน
“พวกเจ้าระวังด้วย ขนมเพิ่งขึ้นจากเตา อย่าทำหกละ”
บริเวณทางเลี้ยว สาวใช้ซึ่งดูสง่างามและสาวใช้อีกคนหนึ่งเดินถือถาดมา
คนชุดดำกระโดดขึ้นไปบนคาน เขาเกาะอยู่บนคานจวบจนสาวใช้ทั้งสองเดินผ่านไป จึงกระโดดลงมาอย่างเงียบเชียบราวกับแมว
เขามองตามเงาของพวกนาง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วตามพวกนางไป
ทว่าเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง ผู้ที่สั่งให้ทำขนมไม่ใช่ฮูหยินรองที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ แต่เป็นฮูหยินผู้เฒ่าแห่งจวนตะวันออก
ดึกป่านนี้ยังหากินขนมอีกหรือ? หญิงชราผู้นี้ความอยากอาหารทำงานดีเหลือเกิน!
ไม่นาน คนชุดดำก็พบว่าแท้จริงแล้วผู้ที่อยากกินขนมนั้นไม่ใช่ฮูหยินผู้เฒ่า แต่เป็นเด็กน้อยทั้งสามต่างหาก
เด็กน้อยทั้งสามอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็นั่งอยู่บนเบาะ ปูด้วยผ้านุ่ม หยิบขนมกุ้ยฮวาใส่เข้าปาก พลางให้ฮูหยินผู้เฒ่าเช็ดตัวให้
….เด็กน้อยน่ารักอยู่ในห้อง
คนชุดดำ: อยากลักพาตัวเด็ก
คิดอะไรเนี่ย!
คนชุดเดาตบหน้าผากตนเองเบาๆ
เขามาจับตัวภรรยาของเห้อเหลียนเป่ยอวี้ ไม่ได้มาจับเด็ก!
ในที่สุดคนชุดดำตัดสินใจหันหลังเดินออกไป
เดินไปไกลแล้ว…
เฮ้อ ยังอยากจับเด็กอยู่!
“ฮูหยินต้องการน้ำร้อนหรือ?” นอกห้องปีกห้องหนึ่ง จื่อซูกระซิบถามฝูหลิง
ฝูหลิงตอบว่า “ข้าจะไปดู”
จื่อซูพูดกับประตูว่า “ฮูหยินเจ้าคะ น้ำร้อนยังไม่ได้ อีกครู่จะนำเข้าไปให้นะเจ้าคะ”
“เข้าใจแล้ว” มีเสียงของสตรีตอบกลับมาจากด้านใน
คนชุดดำคิดในใจว่า นี่คงเป็นภรรยาของเห้อเหลียนเป่ยอวี้กระมัง?
คนชุดดำพุ่งขึ้นไปบนหลังคา ค่อยๆ เปิดกระเบื้องออก เมื่อมองลงไปกลับไม่เห็นคน เห็นเพียงฝ้าเพดานสีน้ำเงิน
เขาจำต้องแนบหูลงกับรอยแยก หมายจะฟังความเคลื่อนไหวด้านใน เพื่อให้มั่นใจว่าสตรีที่อยู่ใต้ฝ้าเพดานนี้เป็นคนที่เขาตามหา
อวี๋หวั่นนั่งอยู่บนเตียงป๋าปู้หรูหรา พวกเขาเพิ่งเปลี่ยนฝ้าเพดานเหนือเตียงให้เป็นสีน้ำเงิน เธอเป็นคนเลือกเอง
เยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ด้านใน เขานั่งพิงหัวเตียง ในมือถือหนังสือซึ่งไม่รู้ว่าไปหยิบมาจากไหน
เขาอ่านหนังสือด้วยหรือ? อยู่มานานขนาดนี้ไม่ยักเคยเห็น
อวี๋หวั่นยื่นหน้าไปมอง ทันใดนั้นก็รู้ว่าเขาอ่านหนังสืออะไร เป็นหนังสือภาพที่ท่านลุงใหญ่ซื้อให้เด็กน้อยทั้งสาม สารัตถะของเรื่องนี้คือทหารผู้ต่ำต้อยจับอาวุธและเป็นวีรบุรุษปกป้องใต้หล้า
ทำไมถึงตั้งใจอ่านหนังสือเด็กขนาดนี้เนี่ย!!!
เดิมทีเขาก็รูปงามอยู่แล้ว เมื่อตั้งใจขึ้นมายิ่งทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่และเคร่งขรึมขึ้นอีก อวี๋หวั่นหลงเขาจนหัวปักหัวปำแล้ว โชคดีที่เขาเป็นสามีของเธอ เธอจึงแตะต้องเขาได้ ถ้าหากเป็นสามีของคนอื่นละก็…
อวี๋หวั่นเพียงนึกภาพเยี่ยนจิ่วเฉาแต่งงานกับอนุภรรยา เธอก็โมโหจนต้องดึงหนังสือในมือของเขาออกมา!
เยี่ยนจิ่วเฉาผู้ซึ่งไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น “…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]