ชุยเฒ่ายกมือขึ้นปิดตา จบกัน เรื่องใหญ่แล้ว…
ครานี้พวกเขาหลบไม่พ้นแล้ว
หากองค์ประมุขรู้ว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นางหนู จะเกิดเรื่องเลวร้ายขนาดไหนก็คงเดาได้
เมื่อถึงตอนนั้น การถูกขับออกจากหนานจ้าวก็จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือองค์ประมุขอาจทรงกริ้วจนลงมือจัดการกับสองแม่ลูกที่ ‘กลับหนานจ้าว’ มาโดยพลการ
ในช่วงเวลาอันสั้น ความคิดมหาศาลผุดขึ้นในสมองของชุยเฒ่า
จนเขาได้ยินเสียงเรียกด้วยความตกใจดังขึ้นจากด้านข้าง “หวั่นเฟิง?”
หัวหน้าลูกศิษย์จากสำนักราชครูชะงัก เขาเบิกตาโพลง มองไปยังสตรีตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ “เป็น…เป็นท่าน?”
ชุยเฒ่าปล่อยมือ แล้วมองไปยังทั้งสอง
เกิดอะไรขึ้น?
อะไรเฟิงนะ?
พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?
หวั่นเฟิงเหลือบไปมองศิษย์น้องของตนซึ่งตามมาด้านหลัง จากนั้นสาวเท้าขึ้นมา เพื่อให้มั่นใจว่าตนไม่ได้จำคนผิด เขามีท่าทางตื่นตระหนกเล็กน้อย แล้วกล่าวเสียงค่อยว่า “ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ไม่ได้ยินว่าต้าโจวส่งราชทูตมานี่?”
“ข้าแอบมา” อวี๋หวั่นตอบ
หัวใจของชุยเฒ่าแทบร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เจ้าเด็กโง่ เจ้าจะเปิดเผยตนเองง่ายๆ อย่างนี้เลยรึ?
หวั่นเฟิงพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ “เป็นเช่นนี้เอง มิน่าเล่าสำนักราชครูจึงไม่ได้รับข่าว เมื่อสองวันก่อนอาจารย์ข้าเห็น ข้ายังไม่เชื่อเลย ที่แท้ก็เป็นท่านจริงๆ! แต่ท่านวางใจได้ อาจารย์ของข้าก็ไม่กล้ายืนยันว่าเป็นท่าน อาจารย์คิดเสียอีกว่าเป็นแม่นางที่หน้าเหมือนท่านก็เท่านั้น!”
ชุยเฒ่ามุมปากกระตุก เจ้างั่ง เจ้าจะมาแฉอาจารย์แบบได้ที่ไหนกัน?
หวั่นเฟิงพูดต่อ “ใช่สิ แล้วท่านมาที่หนานจ้าวได้อย่างไร? มาคนเดียวหรือ?”
อวี๋หวั่นส่ายหน้า “ข้ามากับเยี่ยนจิ่วเฉา แล้วก็คนที่บ้านอีก ข้ามาหาสมุนไพร”
ชุยเฒ่าแทบล้มทั้งยืน!
นางหนู!
เจ้าไม่ต้องบอกทุกเรื่องก็ได้!
เจ้าเปิดโปงตัวเองหมดแล้ว!!!
อย่าลืมสิว่าพวกเจ้าเป็นศัตรูกัน เป็นศัตรูกัน เป็นศัตรูกัน!!!
หวั่นเฟิงร้อง ‘โอ้’ แล้วกล่าวว่า “ท่านหาสมุนไพรอะไรหรือ? ข้าช่วยได้หรือไม่?”
อวี๋หวั่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เรื่องสมุนไพรไม่ต้องลำบากท่าน เพียงแต่ข้ามีเพื่อนที่โดนขังอยู่ในสำนักราชครู”
ชุยเฒ่ายกมือขึ้นปิดหน้า หมดกัน นางหนูเจ้าไร้ทางรอดแล้ว เปิดโปงสามี เปิดโปงเพื่อน อาเว่ยกับเจียงไห่ พวกเจ้าตายอนาถอย่างแน่นอน!
หวั่นเฟิงถามว่า “เพื่อนท่านหน้าตาเป็นอย่างไร? มีรหัสลับพิเศษที่ใช้สื่อสารกันหรือไม่? ประเดี๋ยวข้ากลับไปสำนักราชครู ข้าจะไปแอบปล่อยเพื่อนท่านให้”
จะไม่ถามสักหน่อยหรือว่าพวกเขาไปทำอะไรที่สำนักราชครู? ของบ้านเจ้าถูกขโมย เจ้ากลับปล่อยหัวขโมยไป! เข้าข้างคนนอกแบบนี้มันได้รึ?!
เจ้าสองคนนี้ประหลาดเหลือเกิน!
ชุยเฒ่าฟังมาถึงตอนนี้ ก็เริ่มสงสัยในชะตาชีวิต
“ศิษย์น้องข้ามาแล้ว!” หวั่นเฟิงยังคบงรื้อฟื้นความหลังกับอวี๋หวั่น แต่หางตากลับเหลือบไปเห็นศิษย์น้องจาก
สำนักราชครูซึ่งเดินตามมา
ศิษย์น้องผู้นี้ไม่ได้รับความเอ็นดูจากสำนักราชครู สถานะเป็นรองหวั่นเฟิงมาก เพราะฉะนั้นจึงปฏิบัติต่อหวั่นเฟิงด้วยความเกรงอกเกรงใจ
หวั่นเฟิงกะพริบตาให้อวี๋หวั่น และเดินออกไปพร้อมกับศิษย์น้อง
ชุยเฒ่ายืนตาค้าง!
บะ…แบบนี้ก็ได้หรือ?
“นางหนู เขารู้ใช่ไหมว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่เจ้า? ไม่อย่างนั้นเหตุใดยังไม่ทันตรวจก็เดินไปเสียแล้วละ? ดูจากท่าทางของเขาแล้วดูไม่เหมือนว่าเชื่อใจเจ้าจึงไม่ตรวจ แต่เหมือนกันว่ากำลังช่วยเจ้าปิดบัง จึงไม่ตรวจสอบ” ชุยเฒ่ากล่าวพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
อวี๋หวั่นลูบคาง “อ้อ ที่ท่านพูดก็ฟังดูมีเหตุผล”
นี่มันท่าทางของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่ใช่รึ!
ชุยเฒ่าเริ่มโมโห “เรื่องสำคัญขนาดนี้ เจ้าไม่คิดหน่อยหรือ?”
อวี๋หวั่นครุ่นคิด “ข้าไม่ยักจำได้ว่าเคยบอกเขา แต่ถ้าเขารู้ด้วยวิธีอื่น เช่นนั้นก็จนปัญญา แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่พูดออกไปหรอก”
“…” ชุยเฒ่าเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม แต่เมื่อคิดดูแล้วก็คงจะเป็นเช่นนั้น หากเจ้านั่นคิดจะเปิดโปงพวกเขาละก็ เมื่อครู่ก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ
โทสะของชุยเฒ่าจึงเริ่มสงบลง “รู้จักกันได้อย่างไร?”
อวี๋หวั่นตอบว่า “เขาอยู่ในคณะราชทูตของหนานจ้าว เขาล้มและได้รับบาดเจ็บในงานแต่งของเฉิงอ๋อง ข้าช่วยรักษาเขา”
ชุยเฒ่าชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง “คะ…แค่นั้น?”
อวี๋หวั่นพยักหน้า “อื้ม แค่นั้นแหละ!”
หมอเทวดาอย่างชุยเฒ่าที่ไม่มีผู้ใดยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อเขา “…”
เวรเอ๊ย เขาอยากจะบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอด…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]