ข้าราชบริพารที่ตามมานั้นตื่นตะลึงกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ตกใจจนหัวใจแทบกระเด้งขึ้นมาถึงคอหอย!
เด็กน้อยคลานขึ้นจากพื้นหญ้า กลิ้งลงมาจากบันได บนศีรษะมีเศษดินและใบหญ้าติดอยู่ ใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนและซุกอยู่ที่ชายฉลองพระองค์ ทำให้ไม่อาจมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน ไม่รู้ว่าเป็นเด็กหลงมาจากที่ใด
เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นเพียง ‘พระราชวัง’ ชั่วคราวสำหรับองค์ประมุขใช้ปลีกวิเวกจากปัญหาทั้งมวล บ่าวทุกคนล้วนแต่ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด บางครอบครัวมีลูกเล็กเด็กแดงก็จริง กระนั้นก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเด็กหน้าตามอมแมมไม่รู้กฎระเบียบเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ขององค์ประมุข
ข้าราชสำนักฝ่ายในซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว เป็นเขาเองที่จับเด็กคนนี้ไม่ทัน หากพระองค์ลงโทษขึ้นมา ครานี้ชีวิตเขาถึงคราวต้องเผชิญกับวิบากกรรมเป็นแน่…
องค์ประมุขคนนี้ไม่ใช่ประมุขที่ใจอ่อน ไม่นับว่าเป็นคนใจดีด้วยซ้ำไป เขาเป็นคนใจแข็ง เรื่องนี้เหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน มิเช่นนั้นจะทำเรื่องโหดร้ายเช่นทอดทิ้งตี้จีองค์โตตั้งแต่ยังแบเบาะได้อย่างไร อวิ๋นเฟยเองก็นับว่าเป็นชายาของเขา ว่ากันว่าเป็นสามีภรรยากันเพียงวันเดียว แต่สัมพันธ์ยาวนาน ทว่าคงใช้ไม่ได้กับเรื่องนี้ เขาบอกว่าจะไม่พบหน้าอวิ๋นเฟยก็แปลว่าจะไม่พบหน้าอวิ๋นเฟย จะไม่พบหน้าเด็กก็แปลว่าจะไม่พบหน้าเด็กอีก
หลายปีมานี้ แม้ว่าอวิ๋นเฟยจะโวยวาย เหล่าขุนนางจะโน้มน้าวอย่างไร เขาก็ไม่สนใจ
บุรุษเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นประมุขแห่งรัฐหรือว่าเป็นคนแปลกหน้า ก็ทำให้คนผู้คนหวาดกลัวได้
เขาเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุด แต่เจ้าตัวเล็กนี่กลับไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย ทั้งยังกอดเขาแน่น เปรียบดังลูกกระรอกกำลังวิ่งหนีสุนัขด้วยความขลาดกลัว แต่กลับเข้าไปในปากของสุนัขป่าแทน
เป็นเพราะเด็กคนนี้โง่ หรือว่าเป็นเพราะเขากล้าหาญเกินคนทั่วไปกันนะ?
ผู้คนโดยรอบต่างเหงื่อตกแทนเด็กน้อยคนนี้ ต่อให้องค์ประมุขจะไม่ลงไม้ลงมือกับเด็กไม่ประสีประสา แต่เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น ครอบครัวของเขาก็คงถึงคราวอวสานแล้ว เขาต้องถูกพ่อแม่ลงโทษเป็นแน่
ขันทีหวัง ข้าราชสำนักฝ่ายในคนสนิทของฮ่องเต้ทำใจดีสู้เสือก้าวขึ้นมา แล้วดึงเด็กน้อยออกไป
ต้าเป่ากลับร้องออกมาเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์ เดินอ้อมขาขององค์ประมุขไปอีกด้านหนึ่งเพื่อหลบเงื้อมมือปีศาจของเขา!
ขันทีหวังเข้าไปจับอีกครั้ง
ต้าเป่าก็หลบอีก
ขันทีหวังจับอีก…ไม่สิ เขาไม่กล้าจับแล้ว เจ้าเด็กนี่ไม่รู้ว่ากินอะไรเป็นอาหาร ดูอ้วนจ้ำม่ำ แต่กลับปราดเปรียวว่องไว จับอีกรอบกลับพลาดไปจับโดนของสงวนขององค์ประมุข…
สีหน้าขององค์ประมุขย่ำแย่เหลือเกิน
ขันทีหวังรีบดึงมือออกจากเป้ากางเกง ตัวสั่นเทิ้มพร้อมกับถอยไปด้านหลัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ขันทีหวังก็ตั้งสติได้ เมื่อครู่เจ้าเด็กคนนั้นวิ่งไปวิ่งมาอยู่ใกล้กับองค์ประมุข รอยมือเล็กๆ ของเขาทำให้ฉลองพระองค์เปรอะเปื้อน แต่กลับไม่ยักเห็นว่าพระองค์จะทรงกริ้วแต่อย่างใด
เป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก!
นอกจากเลือดเนื้อเชื้อไขของฮองเฮา ก็ไม่เคยเห็นพระองค์ชอบเด็กคนใดเลย!
องค์ประมุขก้มหน้ามองเด็กน้อยซึ่งกอดขาเขาเอาไว้แน่น เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาเช่นกัน เด็กน้อยคนนี้ผิวดูคล้ำเล็กน้อย…คล้ำมากพอสมควร…กระนั้นองคาพยพบนใบหน้าของเขาได้รูปงดงาม ดวงตากลมโตสีดำขลับดูไร้เดียงสา ทว่าเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
มองหน้ากันและกันอยู่ชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง องค์ประมุขก็ค้นพบว่าพระองค์มิได้รังเกียจเด็กคนนี้แต่อย่างใด
“เจ้าไม่กลัวข้าหรือ?” องค์ประมุขเอ่ยถาม
ต้าเป่ากะพริบตาปริบๆ พร้อมส่ายหน้า
เขาไม่ได้กลัวจริงๆ มิใช่เพียงตอบเพราะความเกรงใจ องค์ประมุขจึงเริ่มรู้สึกสนใจเจ้าเด็กโง่งมคนนี้ขึ้นมา
แน่นอนว่าต้าเป่ามิได้โง่งม เพียงแต่เขาเจอผู้คนมามาก ทั้งเซียวเจิ้นถิงผู้น่าเกรงขาม ทั้งฮ่องเต้แห่งต้าโจวผู้ยิ่ง
ใหญ่ ทั้งอาม่าผู้ซึ่งทำหน้านิ่งอยู่ตลอดเวลา…เมื่อเทียบกันแล้ว องค์ประมุขผู้ซึ่งแลดูน่าสะพรึงกลัวในสายตาคนทั่วไป กลับดูใจดีขึ้นมาในสายตาของต้าเป่า
องค์ประมุขมิได้ซักไซ้ไล่เลียงว่าเขามาจากที่ใด เพียงแต่มองไปยังของในศาลา “เจ้าอยากกินหรือ?”
ต้าเป่าพยักหน้า เอื้อมมือขึ้นไปคว้าแขนเสื้อของพระองค์
ครั้นองค์ประมุขตระหนักได้ว่าต้าเป่าจะจับมือของตน จึงตัดสินใจยื่นมือออกไป
และเป็นดังคาด ต้าเป่าจับมือของเขา
ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
เจ้ากอดขาองค์ประมุขไปแล้ว ยังกล้ายื่นมือสกปรกของเจ้าไปจับมือของพระองค์อีกรึ!!!
ต้าเป่าจูงมือองค์ประมุขเดินขึ้นบันได เข้าไปในศาลา
ข้าราชสำนักฝ่ายในซึ่งแต่เดิมคุกเข่าด้วยความหวาดกลัวจึงถอยออกไปอย่างรู้หน้าที่
คนแก่และเด็กเดินเข้าไปในศาลาด้วยกัน
ต้าเป่าปล่อยมือองค์ประมุข แล้วแตะลงบนม้านั่งหิน เพื่อบอกให้องค์ประมุขนั่งลง
องค์ประมุขรู้สึกขบขันกับท่าทางของเด็กน้อย แต่ไหนแต่ไรมามีเพียงไปบ้านคนอื่นเพื่อเป็นแขก นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้ที่ไปบ้านอื่นแล้วทำตัวราวกับเป็นเจ้าบ้าน
องค์ประมุขมิได้มีโทสะแม้แต่น้อย ทว่ากลับบังเกิดความสงสัย พ่อแม่แบบใดที่เลี้ยงลูกออกมาได้น่าสนใจถึงเพียงนี้กัน?
องค์ประมุขเดินไปนั่ง
คนไม่ดีไม่อยู่แล้ว ต้าเป่าไม่กลัวอีกต่อไป เมื่อครู่เขย่งเท่าไรก็เอื้อมไม่ถึง บัดนี้หลังจากต้อนรับท่านปู่คนนี้และเชิญเขานั่งแล้ว ต้าเป่าก็เกิดความคิดดีๆ ขึ้นมา เขาใช้ขาสั้นๆ ปีนขึ้นไปบนม้านั่ง จากนั้นก็ยืนบนม้านั่ง เท่านี้ก็เอื้อมถึงแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]