การรักษาของอวี๋หวั่นเดินทางมาถึงจุดจบ เนื้อส่วนที่เน่าถูกขุดออกมา ใส่ยา เย็บแผล และใช้ผ้าแห้งสะอาดพันให้
เมื่อทำเสร็จ อวี๋หวั่นปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความเหนื่อย ถอนหายใจยาวๆ “เสร็จแล้ว!”
หลังจากนั้นอวี๋หวั่นก็หันหลังกลับมามองบรรดาคนที่สลบไป ไม่ใช่แค่อาเว่ยที่สลบไปหรอกหรือ? แม้แต่อาม่า ชิงเหยียน กับเจียงไห่ก็เป็นลมไปเหมือนกัน?
“ข้าแค่ทำแผลเอง ไม่ได้มีอะไรหนักหนานี่? ต้าเป่ายังไม่กลัวเลย” อวี๋หวั่นพึมพำอย่างไม่เข้าใจ
ชุยเฒ่าเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ล้มลงไป เขาเป็นหมอ ในสายตาของเขามีเพียงคนไข้และคนบาดเจ็บ ไม่มีการแบ่งแยกว่าเป็นหน่วยกล้าตายหรือซิวหลัว
ชุยเฒ่าเดินลูบคางเข้ามา
อวี๋หวั่นกล่าวเสียงค่อยว่า “ชุยเฒ่า พวกเขาเป็นลมไปได้อย่างไร?”
“ก็เพราะว่าคนคนนั้นน่ะสิ!” ชุยเฒ่าชะเง้อมองไปยังซิวหลัวซึ่งกำลังจับจ้องไปยังผ้าพันแผลด้วยความสงสัย แล้วกระซิบว่า “เจ้าไม่เคยเห็นรูปเขาหรือ? นั่นสิ วันนี้เพิ่งวาดขึ้นมา ยังไม่ทันได้ให้เจ้าดู”
“ท่านจะกระซิบทำไม?” อวี๋หวั่นฟังไม่ชัด
“ไม่มีอะไร เจ้าไม่กลัว?” ชุยเฒ่าถาม
อวี๋หวั่นเลิกคิ้ว “มีอะไรให้กลัว? ข้าดูเหมือนคนขี้ขลาดหรืออย่างไร?”
ชุยเฒ่าชี้นิ้วไป “เขาคือซิวหลัว”
อวี๋หวั่น “…”
อวี๋หวั่น “!!!”
อวี๋หวั่นเป็นลมล้มพับลงตามไปทันที
เมื่ออวี๋หวั่นฟื้นขึ้นมา ฟ้าก็มืดแล้ว เธอนอนอยู่บนเตียงนุ่ม เยี่ยนจิ่วเฉานั่งอยู่ข้างกายเธอ กำลังอ่านหนังสือภาพซึ่งเห้อเหลียนเป่ยหมิงซื้อให้เด็กๆ อยู่
ในห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงพลิกหน้ากระดาษ
จังหวะเหมาะเจาะพอดี อวี๋หวั่นเกิดความคิดขึ้นมา
เธอค่อยๆ ขยับเข้าหาสามี ทันใดนั้นเองเธอก็สะดุ้งโหยง
อวี๋หวั่นลุกพรวดขึ้นมา “ซ…ซ…ซิว…ซิวหลัวละ?”
“ข้างนอก” เยี่ยนจิ่วเฉาพลิกหน้ากระดาษ ไม่ได้ละสายตาไปจากหนังสือภาพ
ท่าทางเช่นนี้ของเขา ดูสบายอารมณ์เหลือเกิน
ทันใดนั้นอวี๋หวั่นก็นึกได้ว่ายังไม่ทันได้เล่าเรื่องของซิวหลัวให้เข้าฟัง เช่นนั้นทำไมเมื่อครู่เธอเอ่ยถึงซิวหลัว เขาถึงตอบได้ทันทีละ?
“ท่าน…” อวี๋หวั่นเอ่ยปาก
เยี่ยนจิ่วเฉาตอบราวกับรู้ว่าอวี๋หวั่นจะถามอะไร “อื้ม พวกเขาฟื้นแล้ว ข้าได้ยินเรื่องจากพวกเขาแล้ว”
เช่นนั้นทำไมปฏิกิริยาตอบสนองของท่านถึงเฉยเมยอย่างนี้ละ?
อวี๋หวั่นไม่ทันได้ไตร่ตรองสิ่งที่เขาพูด ทันทีที่ได้ยินว่าซิวหลัวยังอยู่ในจวน เธอก็กระวีกระวาดลงจากเตียงทันที
ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักซิวหลัว จึงปล่อยให้เขาใกล้ชิดกับต้าเป่า ทั้งยังตบหัวเขา ตีมือเขา พูดจาเกรี้ยวกราดใส่เขาอีก…
เมื่ออวี๋หวั่นคิดถึงเรื่องนี้ ก็พลันรู้สึกประหนึ่งขาของเธอสั้นลงไปสามส่วน กว่าจะเดินไปถึงปากประตู ก็รู้สึกว่าขาสั้นๆ ของเธอนั้นก้าวไม่ออกเสียแล้ว…
เธอออกไปทางขวา
“ชีสยาย่วนไปทางซ้าย” สายตาของเยี่ยนจิ่วเฉายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือภาพ
อวี๋หวั่นหันไปอีกทาง สาวเท้าไปยังชีสยาย่วน
ในเรือนนั้นเงียบเชียบ สาวใช้ก็ไม่อยู่ แม้แต่เสียงนกร้องก็ไม่มี
อวี๋หวั่นใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ซิว…ซิวหลัวคงไม่ได้ฆ่าทุกคนไปแล้วหรอกใช่ไหม?
ลูกๆ ของเธอ!
อวี๋หวั่นเร่งฝีเท้า เมื่อใกล้ถึงทางเลี้ยว เธอก็เหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มๆ ที่กำแพง อวี๋หวั่นมองอีกครั้ง นั่นไม่ใช่ชิงเหยียน เจียงไห่ เยว่โกว แล้วก็อาเว่ยหรอกหรือ?
“พวกเจ้าทำอะไรกัน?” อวี๋หวั่นเดินไปหา
“ชู่วว!!! ”
ทั้งสี่หันหน้ามาพร้อมกัน แล้วทำท่าทางบุ้ยใบ้ให้อวี๋หวั่นเงียบเสียง
อวี๋หวั่นรู้สึกงงงวย ได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆ เธอเดินอ้อมไปด้านนอก แล้วมองตามสายตาของพวกเขาไป
เอ๋…สวนดอกไม้ที่ว่างเปล่านั้นแน่นขนัดไปด้วยผู้คนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน สาวใช้ซึ่งเมื่อครู่หายไปล้วนแต่มายืนกันอยู่ในนี้ ทำให้สวนดอกไม้ดูเบียดเสียดขึ้นมาถนัดตา พวกนางมองไปในทิศทางเดียวกับพวกชิงเหยียน
น่าเสียดายที่อวี๋หวั่นมองไม่ค่อยเห็น
อวี๋หวั่นเขย่งปลายเท้า ในที่สุดก็มองเห็น และเธอก็ต้องตะลึงงันกับสิ่งที่เห็น
ครั้นอยู่ในหมู่บ้านเหลียนฮวา เด็กน้อยทั้งสามจะตื่นแต่เช้าเพื่อมานั่งดื่มนมแพะที่ธรณีประตู กิจวัตรประจำวันนี้ติดตัวมาถึงจวนสกุลเห้อเหลียน เมื่อเห็นธรณีประตู เด็กน้อยทั้งสามก็ไปนั่งเรียงกัน สองมือน้อยจับขวดนมแล้วดื่มอย่างเอร็ดอร่อย
อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลกแต่อย่างใด แต่เมื่อซิวหลัวทำอย่างเดียวกับพวกเขา…
ซิวหลัวนั่งดื่มนมอย่างเอร็ดอร่อย มองหน้าเพื่อนตัวน้อยทั้งสามบ้างเป็นครั้งคราว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]