อย่าว่าแต่เยี่ยนจิ่วเฉาไม่นึกว่าจะได้พบกับสุ่ยเยว่ชิงที่นี่ สุ่ยเยว่ชิงเองก็ไม่นึกว่าจะได้พบกับเยี่ยนจิ่วเฉาในที่ที่ตนหนีมา
บุรุษผู้นี้ต้มตุ๋นตนเสียจนน่าอเนจอนาถ!
แต่เดิม ความแข็งแกร่งและกองกำลังนิกายศักดิ์สิทธิ์ บวกกับอาวุธวิเศษในกระเป๋าเฉียนคุนของเขา อย่าว่าแต่ทำลายล้างกองกำลังทั้งหมดของวังมาร แต่เขายังมั่นใจมากว่าสามารถสร้างความเสียหายให้พวกเขาได้อย่างร้ายแรง
แต่ใครจะคิดว่าบุรุษผู้นี้จะวิ่งเข้าไปในค่ายทหารเผ่ามาร รุนแรงจนเขาปวดหัว จึงรีบตามเข้าไป ความตั้งใจเดิมของเขาคือไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายตายเพื่อสามัญชน แต่ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเขารู้สึกว่าระดับพลังของบุรุษผู้นี้ไม่ต่ำเลย หากต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอีกฝ่าย ตนจะสามารถใช้พลังที่มีได้อย่างเต็มที่
แต่สุดท้าย…บุรุษผู้นี้ก็หนีไป!!!
รู้หรือไม่ว่าตนถูกยอดฝีมือเผ่ามารเหล่านั้นรุมตีเละเทะเพียงใด? เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะหยิบอาวุธวิเศษออกมาก็ถูกฝูงชนรุมล้อมกดเอาไว้
เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับเขา บรรดาศิษย์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ตื่นตระหนก เมื่อกลุ่มมังกรขาดผู้นำ หัวใจกองทัพแตกซ่าน ความโกลาหลวุ่นวายก็บังเกิด สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้เพียงหนีออกมา ส่วนต่างคนต่างหนีไปที่ใด…เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน!!!
สุ่ยเยว่ชิงเกลียดเยี่ยนจิ่วเฉาเข้าไส้!
หลอกเขาถึงสองครั้ง แผนการทั้งหมดล้มเหลว แล้วเขายังกล้ามีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าตนอีกหรือ?
หมัดของสุ่ยเยว่ชิงกำแน่น “เจ้า เป็นพวกใดกันแน่? ศิษย์จากสำนักใด?”
เยี่ยนจิ่วเฉาปวดฟัน แต่ศักดิ์ศรีไม่อาจพ่าย เขาเลิกคิ้วเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ข้ามาจากนิกายเซียน ปรมาจารย์เซียนจิ่วเฉา”
สุ่ยเยว่ชิง “…?!”
นิกายอะไร? ปรมาจารย์อะไร?
ขณะที่สุ่ยเยว่ชิงถูกเยี่ยนจิ่วเฉาทำให้สับสนอยู่นั้น ชายชราก็สงสัยในใจ ใบหน้าบุรุษหนุ่มผู้นี้ดูคุ้นตายิ่งนัก แต่ยิ่งกว่าใบหน้าที่ดูคุ้นตา…ก็ท่าทางไร้ยางอายของอีกฝ่ายนี่ละ ราวกับเคยรู้จักมาก่อน และยังทำให้เขากัดฟันด้วยความเคียดแค้นอีกเล็กน้อย
สุ่ยเยว่ชิงชักดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา!
เขาสงสัยว่าบุรุษหนุ่มตรงหน้าที่ทำลายเรื่องสำคัญของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นพวกค้ามนุษย์ที่น่าเกรงขามพิลึก! หรือหากกล่าวจริงจังกว่านั้น คือสายสืบที่เผ่ามารส่งมา!
เยี่ยนจิ่วเฉาสัมผัสได้ถึงจิตดาบบนดาบเล่มนั้น เสียงดาบราวกับมังกรคำรามดังแวบเข้ามาในหู วิชาอายุวัฒนะในร่างกายของเขาก็เริ่มไหลเวียนด้วยความเร็ว ปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพบศัตรูที่แข็งแกร่งเท่านั้น
หรือก็หมายความว่า อาวุธของอีกฝ่าย…มีพลังทำลายล้างรุนแรงยิ่งนัก!
ชายชราถอยกลับไปอย่างมีไหวพริบ
ดาบเล่มนั้นเป็นกระบี่ของอาจารย์ปู่ มีเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของอาจารย์ปู่หลงเหลือ สิ่งที่เดิมทีควรใช้ทำลายวังมาร ไม่คาดคิดว่าสุ่ยเยว่ชิงจะถูกบดขยี้อย่างน่าอนาถในวังมาร จนไม่มีโอกาสชักออกมา
เขาใช้ดาบเล่มนี้กับบุรุษหนุ่มตรงหน้า แสดงให้เห็นว่ามีความเกลียดชังต่ออีกฝ่ายมากเพียงใด
คนผู้นี้ไปขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของสุ่ยเยว่ชิง? หรือว่าเป็นเหล่าหวังเพื่อนบ้านของสุ่ยเยว่ชิง?
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย โจวจิ่นก็เดินออกมาจากห้อง
“มีเรื่องอะไรกันหรือ?” โจวจิ่นถาม
เมื่อโจวจิ่นเห็นสุ่ยเยว่ชิงที่ประตู สุ่ยเยว่ชิงก็เห็นโจวจิ่นเช่นกัน
ทั้งสองต่างผงะ
โจวจิ่นหันหลังกลับเข้าบ้าน แต่สุ่ยเยว่ชิงรีบเก็บดาบเข้าฝักแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งเอ่ยว่า “ไม่รู้ว่าท่านผู้สูงส่งอยู่ที่นี่ เยว่ชิงเสียมารยาทแล้ว!”
ท่าทีของเขาเปลี่ยนเร็วจนเยี่ยนจิ่วเฉาตั้งตัวไม่ทัน
เยี่ยนจิ่วเฉามองสุ่ยเยว่ชิง แล้วก็หันมองโจวจิ่น “เขาเรียกเจ้าว่า…ท่านผู้สูงส่ง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]