หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 29

ในที่สุดชายชราก็เข้าใจว่าเหตุใดตนถึงรู้สึกคุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ จะไม่ใช่บิดาได้อย่างไร? แม้แต่ความสามารถยั่วยุอารมณ์สุ่ยเยว่ชิง ยังเหมือนไอ้เด็กเวรทั้งสามที่เกือบทำให้เขาโมโหตายไม่มีผิด หากเอ่ยให้ถูกคือเด็กเวรทั้งสามเหมือนกับเขาไม่ผิดเพี้ยน

เขาสงสัยอยู่หลายครั้งว่าบิดาเช่นไรสอนบุตรชายให้น่าโมโหเช่นนี้ บัดนี้เขาเข้าใจแล้ว คำตอบคือบิดาที่น่าโมโหแบบเดียวกัน!

ครั้งหนึ่งเขาเคยอยากพบบิดาของทั้งสาม ทว่ายามนี้เขาคิดว่าไม่พบเสียยังดีกว่า

กลับกัน สิ่งที่สุ่ยเยว่ชิงคิดคือระหว่างการสู้รบกับวังมาร เด็กที่ขี่บนหลังนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะเป็นเด็กสามคนนี้ แต่ในตอนนั้นทุกอย่างวุ่นวายเกินไป เขาไม่มีเวลาใส่ใจรูปลักษณ์ของพวกเขา และยิ่งไม่อาจรวมพวกเขากับผู้บำเพ็ญหนุ่มจอมกลับกลอกผู้นั้น

ไม่แปลกที่อีกฝ่ายรีบเข้าไปในค่ายเผ่ามารอย่างไม่ลังเล เขาไม่ได้พยายามช่วยฆ่าศัตรู แต่ไปเพื่อช่วยบุตรชายของเขาเอง

สุ่ยเยว่ชิงกัดฟัน ดี ถือว่าครั้งนี้มีเหตุผล เช่นนั้นอีกหนละ? สิ่งชั่วร้ายตัวน้อย ร่างรวมเผ่าศักดิ์สิทธิ์และมารนั่นคงไม่ใช่บุตรของเขาอีกกระมัง? เขายังน่าสงสัยอยู่มาก เป็นสายสืบที่เผ่ามารส่งมาแน่!

ทันทีที่ความคิดแล่นผ่าน หลัวช่าน้อยก็เดินออกมาอย่างสะลึมสะลือ

เขาปวดฉี่

แม้แต่เปลือกตาก็ยังไม่ลืม หน้าผากเกือบจะกระแทกกับประตู เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มเขาขึ้นและพาไปที่กระท่อมในสวนหลังบ้าน

สุ่ยเยว่ชิงแทบทรุด!

นี่มันเรื่องอะไร? สิ่งชั่วร้ายตัวน้อยนั่นก็เป็นครอบครัวของเขาหรือ?

บ้านเขาเปิดร้านซาลาเปาหรือไง? มีเด็กมากมายเช่นนี้?!

“อูว้า~” เยี่ยนเสี่ยวซื่อละเมอในความฝัน

สุ่ยเยว่ชิงตกใจขนพอง

นี่…ยังมีเด็กแบเบาะอีกคนรึ!!!

โจวจิ่นไปที่ห้องโถงครู่เดียว เมื่อกลับมาที่ห้อง สีหน้าก็ดูแปลกไป ไม่ใช่ว่าอวี๋หวั่นไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก เพียงแต่แผงประตูสองชั้นทำให้เธอได้ยินไม่ชัด

เธอมองโจวจิ่นที่เงียบงันอยู่บนเก้าอี้ เธอเดินเข้าไปวางมือข้างหนึ่งบนไหล่บางของเขาแล้วถามเบาๆ “คนข้างนอกที่มา…เจ้ารู้จักหรือไม่?”

โจวจิ่นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเงียบๆ

อวี๋หวั่นนั่งลงข้างเขาและมองเขาอย่างอ่อนโยน “มีอะไรอยากบอกข้าหรือไม่?”

โจวจิ่นตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนที่ถูกหลัวช่าน้อยใช้ก้นเบียดเขาไปข้างเตียง เขาเพิ่งผ่านฝันร้าย เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนนอนอยู่ในห้องแปลกๆ ข้างกายมีเสียงหายใจสม่ำเสมอ หูเขาได้ยินเสียงของไข่น้อยทั้งสามที่ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาอบรม เขาลืมตาขึ้นเงียบๆ เห็นอวี๋หวั่นนั่งอยู่ข้างเตียงใช้กรรไกรและเข็มด้ายซ่อมเสื้อผ้าของพวกเขา

งานปักของอวี๋หวั่นไม่ดีนัก แต่นั่นก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเสียงที่เขาได้ยินและฉากที่เขาได้เห็น ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่ห่างหายไปเนิ่นนาน

เขาอยากให้ความรู้สึกนี้อยู่นานกว่านี้ แต่สุ่ยเยว่ชิงก็ปรากฏตัวที่ประตู

“เขาเป็นคนนิกายศักดิ์สิทธิ์” โจวจิ่นกล่าว

อวี๋หวั่นพยักหน้า ไม่มีท่าทีเร่งเร้าเขาแม้แต่น้อย

“เขาบอกว่าข้าก็เป็นคนนิกายศักดิ์สิทธิ์” โจวจิ่นกล่าวต่อ

อวี๋หวั่นยังคงมองเขาอย่างอ่อนโยน ราวกับว่าหากเขาเต็มใจเอ่ย เธอก็จะฟัง หากเขาไม่ต้องการเอ่ยเธอก็ไม่บังคับ

โจวจิ่นกล่าวว่า “หลังจากข้านำกองทัพไปโจมตีเผ่าศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็เห็นถ้ำระหว่างทางกลับเผ่าพ่อมด ข้าเดินเข้าไป หลังจากนั้นก็มาที่นี่ ที่นี่แปลกมาก เวลาแตกต่างจากที่นั่น ข้าเข้าไปในถ้ำตอนเช้า แต่เมื่อออกมาก็เย็นแล้ว ข้าพบคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขาอ้างว่าเป็นคนนิกายศักดิ์สิทธิ์ ต้องการพาข้ากลับไป”

“แล้วอย่างไรต่อ?” อวี๋หวั่นเอ่ย

“ข้าคิดว่าพวกเขาจะจับตัวข้า แต่…หลังจากพวกเขาพาข้ากลับไปที่นิกายศักดิ์สิทธิ์ จู่ๆ พวกเขาก็บอกว่าข้าเป็นท่านผู้สูงส่งแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่ใช่ ข้าคือโจวจิ่น เป็นราชาแห่งเผ่าพ่อมด” โจวจิ่นก้มหน้าลง

อวี๋หวั่นจับมือของเขา “เจ้าพักผ่อนก่อนเถิด ไม่ต้องคิดมาก ข้าจะไปคุยกับพวกเขาเอง”

“อื้ม” โจวจิ่นรู้สึกโล่งลึกๆ ในใจ โลกฝั่งนี้ช่างแปลกประหลาด ผู้คนที่นี่ยิ่งน่ากลัว แต่ตราบใดที่มีอวี๋หวั่นกับเยี่ยนจิ่วเฉาอยู่ด้วย เขาก็รู้สึกราวกับไม่กลัวสิ่งใด

หลังจากหลัวช่าน้อยฉี่เสร็จแล้ว หัวเล็กๆ ก็หลับไปบนไหล่ของเยี่ยนจิ่วเฉา อวี๋หวั่นพาเขาไปนอนบนเตียง ให้โจวจิ่นเฝ้าดูเขากับเด็กๆ ส่วนเธอกับเยี่ยนจิ่วเฉาออกไปที่ห้องโถง

จิ้งอู๋โจ้วเอาแต่หลบอยู่ในครัว แม้เขาจะอยากหนี แต่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ก็ขวางอยู่หน้าประตูห้องครัว จ้องเขาไม่วางตา จิ้งอู๋โจ้วหมดสิ้นความหวัง

แน่นอนไม่ใช่ว่าเขาเอาชนะนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แต่เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ได้โดยไร้เสียง หากเกิดเสียงดัง เขาก็ต้องถูกคนด้านในนั้นจับตัวกลับมาอยู่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]